สาว ๆ ที่แต่งตาเป็นประจำไม่ว่าจะทาอายแชโดว์ หรือ กรีดอายไลเนอร์ น่าจะต้องเคยเจอปัญหาล้างคราบเครื่องสำอางที่ตาออกได้ไม่เกลี้ยง บางทีก็ถูจนแสบตาจนรู้สึกว่าไม่อยากเช็ดทำความสะอาดคราบเครื่องสำอาง ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่ากำลังเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ตาผิดวิธีอยู่ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นวันนี้ theAsianparent อยากมาแนะนำ วิธีเช็ดเครื่องสำอาง รอบดวงตา บอกหมดทุกขั้นตอนเลยว่าควรเช็ดยังไงถึงจะไม่ระคายเคือง ถนอมผิวรอบดวงตา ช่วยลดปัญหาตีนการอยเหี่ยวย่น !
แนะนำให้รู้จักกับผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ดเครื่องสำอางที่ตา
ก่อนที่จะไปดู วิธีเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา theAsianparent อยากแนะนำให้สาว ๆ ได้รู้จักกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา ซึ่งไอเทมชิ้นนั้นก็คือ อายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) เป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องสำอางโดยจะมีทั้งรูปแบบน้ำ (คล้ายกับคลีนซิ่งวอเตอร์) และแบบน้ำมัน (Oil) ซึ่งจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน
- อายรีมูฟเวอร์รูปแบบน้ำ (Water) : จะเป็นอายรีมูฟเวอร์ที่มีความอ่อนโยน เหมาะสำหรับการเช็ด – ล้างเครื่องสำอางรอบดวงตาที่มีความบางเบา อาทิ เช่น อายแชโดว์สีอ่อน ๆ คราบแป้งผสมรองพื้น เพราะว่าส่วนมากอายรีมูฟเวอร์แบบน้ำจะล้างเครื่องสำอางกันน้ำ (Waterproof) ได้ไม่ค่อยเกลี้ยง ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่น เพราะบางยี่ห้ออายรีมูฟเวอร์แบบน้ำก็สามารถล้างเครื่องสำอางกันน้ำได้เช่นกันค่ะ เพราะฉะนั้นสำหรับวันที่แต่งตาเบา ๆ สบาย ๆ ก็สามารถใช้อายรีมูฟเวอร์แบบน้ำล้างทำความสะอาดก็เพียงพอแล้วค่ะ
- อายรีมูฟเวอร์รูปแบบออยล์ (Oil in Water) : ซึ่งอายรีมูฟเวอร์ประเภทนี้จะเหมาะมาก ๆ สำหรับสาว ๆ ที่แต่งตาหนัก แต่งตาแน่น กรีดอายไลเนอร์สไตล์เส้นหนา ๆ คม ๆ และเหมาะมาก ๆ สำหรับการเช็ด – ล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางสูตรกันน้ำ เพราะว่าอายรีมูฟเวอร์แบบออยล์ (Oil in Water) จะประกอบด้วยส่วนผสม 2 ส่วน นั่นก็คือน้ำ ซึ่งส่วนมากจะเป็นคลีนซิ่งวอเตอร์ (Cleansing Water) ที่มีส่วนผสมของไมเซล่า (Micellar) และออยล์ หรือ น้ำมัน ซึ่งเมื่อเขย่ารวมกันจะช่วยทำให้ประสิทธิภาพของการล้างทำความสะอาดเครื่องสำอางรอบดวงตาดีมากยิ่งขึ้น ล้างอายเมคอัพได้สะอาดหมดจดนั่นเองค่ะ เหมาะสำหรับวันที่แต่งตาหนัก ๆ แต่งตาเข้ม ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 โฟมล้างเครื่องสำอาง ลบเมคอัพเกลี้ยง ล้างหน้าสะอาดหมดจดในขั้นตอนเดียว !
แนะนำ วิธีเช็ดเครื่องสำอาง รอบดวงตา by TAP
หลังจากที่ได้รู้กันไปแล้วว่าผลิตภัณฑ์สำหรับเช็ด – ล้างเครื่องสำอางรอบดวงตาคืออะไร และมีแบบไหนบ้าง ก็มาถึงสิ่งที่สาว ๆ หลายคนอยากรู้นั่นก็คือ วิธีเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา ว่าควรเช็ดอย่างไรให้ถูกวิธี ดีต่อผิวรอบดวงตา ช่วยถนอมผิวไม่ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น ซึ่งบอกเลยว่า วิธีเช็ดเครื่องสำอาง รอบดวงตา ไม่ยากอย่างที่คิดสาว ๆ สามารถทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลยค่ะ
1. เทอายรีมูฟเวอร์ให้ชุ่มสำลี
STEP 1 | วิธีเช็ดเครื่องสำอาง รอบดวงตา
สำหรับขั้นตอนแรกของการเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางที่ดวงตา ให้เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อมนั่นก็คือการเทอายรีมูฟเวอร์ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบน้ำ (Water) หรือ น้ำมัน (Oil in Water) ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนให้ชุ่มสำลี แนะนำว่าอย่าเทมากหรือน้อยเกินไป เพราะถ้าเทน้อยเกินไปจะทำให้ล้างเครื่องสำอางออกได้ไม่หมด และยังทำให้เกิดแรงเสียดสีส่งผลให้เกิดริ้วรอยตีนกาได้อีกด้วยค่ะ แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจจะทำให้ซึมไหลเข้าตาจนเกิดอาการระคายเคืองตาได้เช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นเทออกมาให้ชุ่ม ๆ ในปริมาณที่เหมาะสมจะดีที่สุด
TIPS by TAP : สำหรับการใช้อายรีมูฟเวอร์แบบออยล์ (Oil in Water) แนะนำให้เขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้งาน เพื่อให้น้ำกับน้ำมันที่แยกชั้นกันอยู่ผสมตัวเข้าด้วยกัน
2. แปะสำลีค้างไว้ที่ดวงตา
STEP 2 | วิธีเช็ดเครื่องสำอาง รอบดวงตา
หลังจากที่เทอายรีมูฟเวอร์ใส่สำลีจนชุ่มเรียบร้อยแล้ว ให้สาว ๆ หลับตาลงหลังจากนั้นให้วางสำลีที่ชุ่มไปด้วยอายรีมูฟเวอร์ค้างไว้ที่เปลือกตาประมาณ 30 วินาที – 1 นาที เพื่อให้อายรีมูฟเวอร์เข้าไปละลายสลายคราบเครื่องสำอางต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นอายแชโดว์ อายไลเนอร์ หรือคราบรองพื้น แป้งผสมรองพื้นต่าง ๆ ให้หลุดออกได้ง่ายขึ้น
TIPS by TAP : แนะนำให้วางแปะไว้เฉย ๆ โดยที่ยังไม่ต้องถู เช็ด หรือ ขยี้บริเวณเปลือกตานะคะ
3. เช็ดออกตามแนวขนตาอย่างเบามือ
STEP 3 | วิธีเช็ดเครื่องสำอาง รอบดวงตา
เมื่อแปะสำลีที่ชุ่มไปด้วยอายรีมูฟเวอร์จนครบเวลาที่กำหนด (30 วินาที – 1 นาที) ให้สาว ๆ ค่อย ๆ เช็ดออกอย่างเบามือโดยการเช็ดหรือถูลงตามแนวเส้นขนตา ห้าม ! ขยี้ถูวนไปมาเด็ดขาด เพราะจะทำให้เครื่องสำอางย้อนไหลเข้าดวงตาทำให้เกิดอาการแสบและระคายเคืองตา รวมถึงยังเป็นสาเหตุของการเกิดริ้วรอยและตีนกาอีกด้วยค่ะ
TIPS by TAP : แนะนำให้เช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตาในทิศทางถูลงเบา ๆ จะช่วยทำให้เครื่องสำอางที่ดวงตาหลุดออกอย่างง่ายดายโดยที่ไม่ต้องออกแรงถูเลยค่ะ
4. เช็ดจนกว่าสำลีจะสะอาด
STEP 4 | วิธีเช็ดเครื่องสำอาง รอบดวงตา
หลังจากที่เช็ดเสร็จแล้วให้สังเกตว่าสำลีที่ใช้เช็ดอายเมคอัพมีความสะอาดหรือยัง ซึ่งความสะอาดในที่นี้คือต้องไม่มีคราบเครื่องสำอางหลุดติดออกมา โดยเฉลี่ยแล้วการเช็ดอายเมคอัพจะอยู่ที่ประมาณ 3 ครั้ง หรือการใช้สำลีชุ่ม ๆ เช็ดดวงตา 3 รอบนั่นเองค่ะ ก็จะทำให้เครื่องสำอางที่ดวงตาหลุดออกจนหมดเกลี้ยงทำให้เปลือกตาสะอาดหมดจดไร้คราบเครื่องสำอาง และยังช่วยถนอมผิวหนังบริเวณดวงตาได้อีกด้วย
5. ขั้นตอนการเช็ดริมฝีปากก็ทำวิธีเดียวกัน
STEP 5 | วิธีเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา
สาว ๆ หลายคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่าอายรีมูฟเวอร์ (Eye Remover) สามารถใช้เช็ด – ล้างทำความสะอาดได้ทั้งผิวหนังรอบดวงตาและริมฝีปาก ซึ่งริมฝีปากก็ต้องได้รับการทำความสะอาดที่ถูกวิธีเช่นเดียวกัน เพราะว่าสาว ๆ บางคนทาลิปสติกเนื้อแมตต์ที่มีความติดทนจนอาจจะทำให้ริมฝีปากแห้ง และคล้ำได้ถ้าทำความสะอาดไม่ดีพอ เพราะยังหลงเหลือคราบสารเคมี เพราะฉะนั้นหลังจากที่ล้างเครื่องสำอางที่ดวงตาเสร็จแล้ว แนะนำให้สาว ๆ เช็ดริมฝีปากด้วยวิธีเดียวกันกับที่ใช้เช็ดดวงตาเลยค่ะ
TIPS by TAP : เทอายรีมูฟเวอร์ใส่สำลีให้ชุ่ม หลังจากนั้นนำมาแปะไว้ที่ริมฝีปากโดยที่ยังไม่ต้องถูหรือเช็ด (ทิ้งไว้ประมาณ 30 วินาที – 1 นาที) หลังจากนั้นให้ค่อย ๆ เช็ดวนอย่างเบามือจะสัมผัสได้เลยว่าคราบลิปสติกหลุดออกมาง่ายมาก ๆ และยังไม่ทำให้ริมฝีปากคล้ำ หรือแห้งเหี่ยวอีกด้วยค่ะ
ข้อควรระวัง ! อย่าเผลออ้าปากตอนที่แปะสำลีค้างไว้นะคะ เพราะอายรีมูฟเวอร์อาจจะเข้าปากแล้วทำให้ขมคอได้ค่ะ
และทั้งหมดนี้ก็เป็นวิธีเช็ดเครื่องสำอางรอบดวงตา และแถมวิธีเช็ดลิปสติกที่ริมฝีปากไปด้วยเลย หวังว่าสาว ๆ จะได้รับประโยชน์และนำไปทำตามกันได้นะคะ เพราะบอกเลยว่าเป็นวิธีล้างเครื่องสำอางที่ดวงตาและริมฝีปากที่ง่ายมาก ๆ ซึ่งข้อดีคือจะช่วยถนอมผิวหนังลดปัญหาอาการระคายเคือง และลดการเกิดริ้วรอยจากการถูกเสียดสีนั่นเองค่ะ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่แต่งตาเป็นประจำแนะนำให้ทำตามวิธีเหล่านี้ได้เลย รับรองเลยว่าผิวรอบดวงตาสะอาดไร้รอยตีนกาแน่นอน !
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 อายครีม สำหรับวัย 30 ช่วยต้านริ้วรอย ลดรอยคล้ำ ไม่เหนอะหนะ !
บอกต่อ 10 อายแชโดว์แบบแท่ง แต่งตาง่าย ปาดปุ๊บ สวยปั๊บ เพิ่มสีสันให้กับดวงตา
10 อายแชโดว์ ยี่ห้อไหนดี สีสวย ติดทน เม็ดสีชัด เพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตา
ที่มา : wongnai