น้ำหนักคนท้องขึ้นกี่กิโล เปลี่ยนแปลงอย่างไร และควรดูแลยังไงบ้าง ?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

น้ำหนักคนท้องขึ้นกี่กิโล เปลี่ยนแปลงอย่างไร และควรดูแลยังไงบ้าง ? การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาพิเศษที่ร่างกายของผู้หญิงจะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย หนึ่งในสิ่งที่สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือ การเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ แต่การเพิ่มน้ำหนักในแต่ละช่วงและปัจจัยที่เกี่ยวข้องนั้นมีความแตกต่างกันไป 

การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักในแต่ละช่วง

ช่วงเวลา การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักโดยเฉลี่ย ปัจจัยที่เกี่ยวข้อง
ไตรมาสแรก (0-12 สัปดาห์) เพิ่มขึ้น 1-2 กิโลกรัม หรืออาจลดลงเล็กน้อย อาการแพ้ท้อง, การเจริญเติบโตของมดลูก
ไตรมาสที่สอง (13-28 สัปดาห์) เพิ่มขึ้นประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ การเจริญเติบโตของทารก, น้ำคร่ำ, และเลือด
ไตรมาสที่สาม (29-40 สัปดาห์) เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุด การเจริญเติบโตของทารกอย่างรวดเร็ว, น้ำคร่ำ, และการสะสมไขมัน

หมายเหตุ: ตัวเลขที่กล่าวมาข้างต้นเป็นค่าเฉลี่ย และอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น น้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์, สุขภาพโดยรวม, และขนาดของทารก

ปัจจัยที่มีผลต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น

  • น้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์: หากแม่มีน้ำหนักเกินก่อนตั้งครรภ์  ไม่ควรเพิ่มน้ำหนักมากไปในระหว่างตั้งครรภ์
  • จำนวนทารก: การตั้งครรภ์แฝดหรือมากกว่านั้น จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าการตั้งครรภ์เดี่ยว
  • ปริมาณน้ำคร่ำ: ปริมาณน้ำคร่ำที่มากเกินไปจะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • ขนาดของรก: รกที่มีขนาดใหญ่จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • ปริมาณเลือด: ร่างกายจะผลิตเลือดเพิ่มขึ้นเพื่อเลี้ยงทารก ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
  • ไขมันสะสม: ร่างกายจะสะสมไขมันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้นมบุตร

น้ำหนักคนท้องขึ้นกี่กิโล เมื่อไหร่ที่ควรพบแพทย์ ?

การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักเป็นเรื่องปกติในช่วงตั้งครรภ์ แต่การเพิ่มขึ้นของน้ำหนักที่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ การติดตามน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอและปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ

เมื่อใดควรพบแพทย์เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น

  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป: หากคุณพบว่าน้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วกว่าที่แพทย์แนะนำ หรือมากกว่าค่าเฉลี่ยที่กล่าวมาข้างต้น ควรปรึกษาแพทย์ทันที สาเหตุที่เป็นไปได้อาจรวมถึง
    • โรคเบาหวานขณะตั้งครรภ์: ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    • ภาวะน้ำคร่ำมากเกินไป: น้ำคร่ำที่ล้อมรอบทารกมีปริมาณมากเกินปกติ
    • ภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ: เช่น โรคความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
  • น้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยเกินไป: หากน้ำหนักเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่แพทย์แนะนำ หรือหยุดเพิ่มขึ้น อาจเป็นสัญญาณว่าทารกไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ สาเหตุที่เป็นไปได้อาจรวมถึง
    • ทารกโตช้า: ทารกมีขนาดตัวเล็กกว่าปกติ
    • รกทำงานไม่ดี: รกไม่สามารถส่งสารอาหารและออกซิเจนไปยังทารกได้อย่างเพียงพอ

ผลกระทบจากการที่แม่ท้องน้ำหนักเกิน

การที่คุณแม่ตั้งครรภ์มีน้ำหนักเกินเกณฑ์นั้น อาจส่งผลกระทบต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้หลากหลายด้าน ดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ผลกระทบต่อคุณแม่

  • ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์:
    • เบาหวานขณะตั้งครรภ์: ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ส่งผลต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย
    • ความดันโลหิตสูง: เพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษ
    • ภาวะครรภ์เป็นพิษ: อาการรุนแรงที่อาจส่งผลต่ออวัยวะสำคัญ เช่น ไต ตับ และสมอง
    • การคลอดก่อนกำหนด: ทำให้ทารกมีน้ำหนักน้อย และอาจมีปัญหาสุขภาพตามมา
  • ภาวะแทรกซ้อนระหว่างคลอด:
    • การผ่าตัดคลอด: มีโอกาสต้องผ่าตัดคลอดสูงขึ้น เนื่องจากทารกตัวใหญ่ หรือมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ
    • การตกเลือดหลังคลอด: มีโอกาสเกิดการตกเลือดหลังคลอดสูงขึ้น
  • ภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด:
    • ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด: อาจเกิดจากความเหนื่อยล้าและการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์
    • โรคอ้วนเรื้อรัง: น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งครรภ์อาจยังคงอยู่หลังคลอด ทำให้มีโอกาสเป็นโรคอ้วนในระยะยาว

ผลกระทบต่อลูกน้อย

  • ทารกตัวโต: ทำให้การคลอดลำบากขึ้น และอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างคลอดได้
  • ความผิดปกติของการเจริญเติบโต: ทารกอาจมีปัญหาในการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสมอง
  • โรคอ้วนในวัยเด็ก: ทารกที่เกิดจากแม่ที่มีน้ำหนักเกิน มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคอ้วนเมื่อโตขึ้น
  • โรคเรื้อรัง: เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ

ผลกระทบจากการที่แม่ท้องน้ำหนักน้อยเกินไป

การที่คุณแม่ตั้งครรภ์มีน้ำหนักน้อยเกินไปนั้นส่งผลกระทบต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ตามมาได้ ดังนี้

ผลกระทบต่อคุณแม่

  • ภาวะขาดสารอาหาร: คุณแม่เองก็อาจขาดสารอาหารสำคัญที่จำเป็นต่อการตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • ความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน: การมีน้ำหนักน้อยเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น ความดันโลหิตต่ำ หรือภาวะโลหิตจาง

ผลกระทบต่อทารกในครรภ์

  • น้ำหนักตัวน้อยเกินไป: ทารกอาจเกิดมาตัวเล็ก มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ ซึ่งอาจส่งผลต่อการพัฒนาการในระยะยาวได้
  • คลอดก่อนกำหนด: การมีน้ำหนักตัวน้อยเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงในการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งส่งผลกระทบต่ออวัยวะสำคัญต่าง ๆ ของทารกที่ยังไม่พัฒนาสมบูรณ์
  • ภาวะขาดสารอาหาร: ทารกอาจได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของสมองและร่างกาย
  • ความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ: ทารกที่มีน้ำหนักน้อยอาจมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
  • ปัญหาสุขภาพในระยะยาว: ทารกที่คลอดก่อนกำหนดหรือมีน้ำหนักน้อย อาจมีปัญหาสุขภาพเรื้อรังตามมา เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือปัญหาการเรียนรู้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นผิดปกติ

  • อายุ: คุณแม่วัยรุ่นหรือวัยสูงอายุ มีแนวโน้มที่จะมีภาวะแทรกซ้อนมากกว่า
  • โรคประจำตัว: โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคอื่น ๆ ก่อนตั้งครรภ์ อาจส่งผลต่อการควบคุมน้ำหนัก
  • การตั้งครรภ์หลายครั้ง: การตั้งครรภ์หลายครั้ง การตั้งครรภ์แฝด จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ
  • การรับประทานอาหาร: การรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม เช่น อาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นเร็วเกินไป
  • การออกกำลังกาย: การขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น

วิธีการควบคุมน้ำหนักในช่วงตั้งครรภ์

  • ปรึกษาแพทย์: ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสม
  • รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่: เน้นอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืช โปรตีน และไขมันดี
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้ดี
  • ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ: ควรเลือกชนิดของการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับสภาพร่างกาย
  • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป: อาหารแปรรูปมักมีโซเดียมและน้ำตาลสูง ควรหลีกเลี่ยง
  • พักผ่อนให้เพียงพอ: การพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง

การเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักในช่วงตั้งครรภ์เป็นเรื่องปกติ แต่การติดตามน้ำหนักอย่างสม่ำเสมอและปรึกษาแพทย์เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าทั้งคุณแม่และทารกมีสุขภาพที่ดี

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : nakornthon.com, bpk9internationalhospital.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : 

ไขข้อสงสัย! คุณแม่ท้องน้ำหนักเกิน เสี่ยงเบาหวานขณะตั้งครรภ์ กินอย่างไรให้สุขภาพดี?

แม่ท้องน้ำหนักตัวเกิน ส่งผลร้ายต่อลูกในท้องอย่างไร ผลวิจัยมีคำตอบ

เซ็กส์ตอนตั้งครรภ์ มีได้ใช่ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

watcharin