คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างปรารถนาให้ลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรง สมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ การส่งเสริมนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก นับเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ทรงคุณค่า เพราะนอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาและความรู้ต่าง ๆ แล้ว งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ยังชี้ให้เห็นว่า การปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เยาว์วัย ส่งผลดีต่อสุขภาพจิตของลูกน้อยในช่วงวัยรุ่นอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปเจาะลึกถึงผลลัพธ์จากงานวิจัย พร้อมแนะแนวทางเบื้องต้นในการ ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูก กันค่ะ
เคมบริดจ์เผย! ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูก ช่วยส่งเสริมพัฒนาการ สุขภาพจิต และทักษะชีวิต
งานวิจัยมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เผยให้เห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ว่าการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เด็ก จะช่วยลดปัญหาสุขภาพจิตในสังคม โดยเฉพาะโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวล ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เศรษฐกิจโลกสูญเสียมหาศาลถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปีเลยทีเดียว
การอ่านหนังสือ เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกกว้าง ช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ สร้างจินตนาการ ฝึกคิดวิเคราะห์ พัฒนาทักษะทางภาษา และที่สำคัญคือ เสริมสร้างสุขภาพจิตให้แข็งแรง ซึ่งการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เผยผลลัพธ์น่าทึ่ง โดยชี้ให้เห็นว่าเด็กที่เริ่มอ่านหนังสือตั้งแต่อายุ 2 ขวบ มีแนวโน้มที่จะมีสุขภาพจิตที่ดีกว่าเด็กที่เริ่มอ่านหนังสือช้าหรือไม่เคยอ่านเลย
ศาสตราจารย์ Barbara Sahakian ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ได้เผยว่าจากการวิเคราะห์ข้อมูลวัยรุ่นกว่า 10,000 คน พบว่าเด็กเล็กที่มีนิสัยรักการอ่าน มักจะมีสมาธิที่ดี พฤติกรรมสงบ และมีความเครียดน้อยกว่า สาเหตุเป็นเพราะการอ่านช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านสมอง ส่งผลให้เด็กสามารถจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ ได้นานขึ้น ควบคุมอารมณ์ได้ดี และมีสุขภาพจิตที่มั่นคง ยิ่งไปกว่านั้น นักวิจัยได้ศึกษาภาพสแกนสมองของวัยรุ่น พวกเขาพบว่าวัยรุ่นที่เริ่มอ่านหนังสือเร็วตั้งแต่เด็กมีขนาดสมองโดยรวมใหญ่กว่าคนอื่นนิดหน่อย โดยเฉพาะส่วนที่สำคัญต่อการคิด การเรียนรู้ และความจำ และยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษา ความจำ และความคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลดีต่อการเรียนและการใช้ชีวิตในสังคม
ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จึงแนะนำให้พ่อแม่ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้กับลูกหลาน ตั้งแต่วัย 2 ขวบ โดยเด็กควรอ่านหนังสืออย่างน้อย 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เพียงเท่านี้ ลูกน้อยของคุณก็จะมีโอกาสเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพจิตดี ฉลาด และมีความคิดสร้างสรรค์
5 แนวทางในการ ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูก
1) เริ่มต้นให้อ่านหนังสือตั้งแต่วัยทารก
การเลือกหนังสือสำหรับเด็กนั้น สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ตัวหนังสือ แต่เป็น “ภาพประกอบ” ที่ดึงดูดสายตาและกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น กระตุ้นจินตนาการ และพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกหนังสือนิทานที่มีภาพสีสันสดใส เนื้อหาเรียบง่าย เหมาะกับวัยของลูกน้อยค่ะ
2) อ่านหนังสือให้เด็กฟังเป็นประจำ
การอ่านหนังสือเปรียบเสมือนการมอบของขวัญอันล้ำค่าที่ติดตัวลูกไปจนโต พ่อแม่จึงควรมีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้กับเด็ก ๆ โดยไม่จำเป็นต้องกดดันให้พวกเขาอ่านหนังสือจำนวนมาก เพียงแค่สร้างให้การอ่านเป็นกิจวัตรประจำวัน เราสามารถเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการหยิบหนังสือมาอ่านกับลูกทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้าก่อนนอน หรือช่วงเวลาว่างระหว่างวัน กำหนดเวลาอ่านขั้นต่ำร่วมกัน พูดคุยแลกเปลี่ยนเนื้อหาที่อ่าน ช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกสนุกสนานและอยากอ่านหนังสือมากขึ้น เมื่อพวกเขาคุ้นเคยกับการอ่าน การอ่านจะกลายเป็นนิสัยส่วนตัวโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบังคับ
ที่สำคัญการสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่าน จัดมุมอ่านหนังสือที่สะดวกสบาย จัดหาตู้หรือชั้นวางหนังสือไว้ในบ้าน ช่วยให้เด็ก ๆ เข้าถึงหนังสือได้ง่าย ล้อมรอบพวกเขาด้วยหนังสือหลากหลายประเภท กระตุ้นความสนใจ หมั่นอ่านหนังสือให้ลูกฟัง ใช้เวลาร่วมกันในกิจกรรมการอ่าน แสดงให้พวกเขาเห็นว่าการอ่านเป็นสิ่งที่มีคุณค่า
3) พาเด็กไปห้องสมุดหรือร้านหนังสือ
การพาเด็กไปยังสถานที่ที่เต็มไปด้วยหนังสือ เช่น ห้องสมุดหรือร้านหนังสือ เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกแห่งจินตนาการและความรู้ ช่วยให้เด็กได้สัมผัสกับหนังสือหลากหลายประเภท บรรยากาศที่รายล้อมไปด้วยหนังสือมากมายนี้ ช่วยกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็น ดึงดูดเด็ก ๆ ให้ค้นหาหนังสือที่น่าสนใจสำหรับตัวเอง
4) เป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็น
พ่อแม่เป็นเสมือนครูคนแรกและสำคัญที่สุดของลูก การปลูกฝังนิสัยที่ดีต่าง ๆ ให้กับลูกจึงเป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรใส่ใจ หนึ่งในนิสัยสำคัญที่ส่งผลต่ออนาคตของลูกก็คือ นิสัยรักการอ่าน หลายคนอาจเข้าใจว่า การจะทำให้ลูกอ่านหนังสือ พ่อแม่ก็แค่ซื้อหนังสือมาวางไว้ให้ลูกอ่าน แต่แท้จริงแล้ว วิธีการที่ได้ผลดีที่สุดคือ การเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น หากลูกเห็นพ่อแม่มัวแต่เล่นโทรศัพท์มือถือ หรือจดจ่อกับโซเชียลมีเดียทั้งวัน เด็กก็คงยากที่จะเกิดนิสัยรักการอ่าน ดังนั้น เมื่อลูกเห็นว่าพ่อแม่รักการอ่าน พวกเขาก็จะเริ่มสนใจและอยากอ่านหนังสือตามไปด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง: สอนลูกอ่านหนังสือ วิธีฝึกให้ลูกรักการอ่าน ตั้งแต่ยังเป็นทารก
5) ชักชวนให้อ่านสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
นอกจากนี้ การอ่านไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหนังสือเท่านั้น เด็ก ๆ ยังสามารถเรียนรู้การอ่านจากสิ่งรอบตัวได้อีกมากมาย คุณพ่อคุณแม่สามารถลองชวนลูกอ่านข้อความบนฉลากข้างกล่องนม ถุงขนม ป้ายบอกทาง ป้ายจราจร และอื่น ๆ อีกมากมาย กิจกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกน้อย สนุกกับการอ่าน แต่ยังช่วยฝึกทักษะการสังเกต เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ และเข้าใจโลกกว้างรอบตัวไปพร้อมกันอีกด้วยค่ะ
การอ่านหนังสือ เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โลกกว้าง ช่วยให้เด็กได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ฝึกคิดวิเคราะห์ แก้ปัญหา และเข้าใจผู้อื่น เด็กที่อ่านหนังสือเป็นประจำ มักจะมีสมาธิที่ดี ควบคุมอารมณ์ได้ดี และมีปัญหาด้านพฤติกรรมน้อย ส่งผลต่อความสัมพันธ์กับผู้อื่น การเรียน และอนาคต คุณพ่อคุณแม่ และบุคคลใกล้ชิด ล้วนมีบทบาทสำคัญใน ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูก ลองเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยการอ่านหนังสือให้เด็กฟัง พาเด็กไปห้องสมุด เลือกหนังสือที่เด็กสนใจ และสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยต่อการอ่าน การมอบนิสัยรักการอ่านให้กับเด็ก เปรียบเสมือนการมอบของขวัญอันล้ำค่า ที่จะส่งผลดีต่อพวกเขาไปตลอดชีวิต เพราะการอ่าน จะช่วยให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ มีความรู้ ความคิด และสามารถใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข
ที่มา: University of Cambridge, sanook, Learn.co
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
เทคนิค ทำอย่างไรให้ลูกรักการอ่านหนังสือ
10 วิธีฝึกให้ลูกมีนิสัยรักการอ่าน สอนให้ลูก รักการอ่าน ได้ง่าย ๆ
แจกทริค ตารางอ่านหนังสือ เพื่อพัฒนาการที่ดี ฝึกนิสัยรักการอ่านให้ลูก