เห็นแม่นุ่นมีสุขภาพแข็งแรงดีแล้วเกิดเรื่องที่สมองได้อย่างไร?
ขอย้อนกลับไปตั้งแต่เริ่มการรักษาแรกๆ แม่นุ่นตรวจพบว่าเป็นมะเร็งเต้านม(HER2)เมื่อเดือน มี.ค 2013 วันแรกที่ตรวจก็แจ็คพอตเลยว่า มะเร็งได้ลามไปที่กระดูกสันหลัง และตับหลายจุด หนักสุดเห็นจะเป็นตับที่มีก้อนกระจายไปทั่วทั้งเล็กและใหญ่ ขนาดใหญ่สุดคือ 11 ซ.ม. และ 12 ซ.ม. ซึ่งในลักษณะที่มะเร็งแพร่กระจายจากเต้านมไปอวัยวะอื่นๆ แบบนี้เขาเรียกว่า ระยะ 4 หรือ ระยะสุดท้าย แต่หลังจากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด และยาต้านมะเร็งแบบพุ่งเป้า เจียนไปเจียนอยู่ประมาณ 10 เดือน ผลการตรวจ CT ช่องท้องพบว่า ก้อนมะเร็งที่เคยมีทั่วร่างกายหายไปหมดไม่มีเหลือ(Pathologic Complete Response) เป็นผลการรักษาที่เรียกได้ว่า อเมซิงจิงกะเบล สร้างความยินดีปรีดาต่อทุกคนที่เกี่ยวข้องแบบสุดๆ เหตุเพราะหาได้น้อยนักที่โลกใบนี้จะพบผู้ป่วยตอบสนองต่อยาได้ดีขนาดที่ก้อนในตับขนาดใหญ่ถึง 11-12 ซ.ม. หมดไปในระยะเวลาสั้นแค่ 10 เดือนเท่านั้น เท่ไหมล่ะ!
...แนวโน้มเหมือนจะดีใช่มั้ยครับ แต่มันเป็นความสุขเพียงชั่วคราวเหมือนหลอกให้อยากแล้วก็จากไป...
เพราะหลังจากนั้นไม่นาน เดือน มิ.ย 2014 แม่นุ่นมีอาการปวดหัวรุนแรงมีอาเจียนร่วมด้วย การตรวจ MRI สมอง พบว่า มะเร็งที่เคยหายไปจากร่างกายได้หนีกระจายมาที่สมองถึง 8 จุดด้วยกัน เล่นเอาช็อคกันไปทั้งบาง!!
เหตุผลอันใดทำไมร่างกายดีแล้วแต่ยังไปอยู่ที่สมอง?
เหตุผลมันมีอยู่ว่าตัวยา trastuzumab ที่แม่นุ่นตอบสนองดีมาตลอด มีน้ำหนักโมเลกุล (Molecular Weight) ใหญ่เกินกว่าจะซึมผ่านเข้าไปในสมอง หรือซึมเข้าไปปริมาณไม่มากพอจะจัดการเซลล์มะเร็งได้ทั้งหมด ผมเคยอ่านเจองานวิจัยหนึ่งที่ตอบคำถามได้ชัดเจนมาก เค้าทำการศึกษาด้วยจับคนไข้มาฉีดยา Trastuzumab แล้วเปรียบเทียบความเข้มข้นของยาในเลือดกับน้ำเลี้ยงสมอง (CSF) ผลออกมาพบว่าความเข้มข้นของยาในน้ำเลี้ยงสมอง "น้อยกว่า" ในเลือด 300-400 เท่าเลยทีเดียว หรือแม้แต่ยา Lapatinib ที่ใช้คู่กันมาตลอด แม้จะได้ชื่อว่าเข้าสมองได้มากกว่า แต่เข้ามากกว่าไม่ใช่ว่าจะได้ผลดีกว่านะครับ การที่ก้อนที่สมองโตขึ้นแบบนี้มันก็ชัดเจนว่ายาไม่สามารถคุมโรคได้อีกต่อไป
แม่นุ่นผ่านการรักษาส่วนของสมอง อย่างไรบ้าง?
ตั้งแต่พบมะเร็งลามขึ้นสมองเมื่อเดือน มิ.ย 2014 ต้องบอกว่าผ่านการรักษามาแล้วทุกอย่าง ทั้งการผ่าตัด ฉายแสงทั่วศีรษะ หรือแม้แต่การผ่าตัดด้วยรังสี Cyberknife ก็ทำแล้ว แต่แทบไม่เคยได้รับข่าวดีเลย โดยเฉพาะการติดตามผล MRI สมอง 3 ครั้งหลังสุด พบว่าก้อนมะเร็งมีขนาดใหญ่ขึ้นทั้ง 7 จุด และยังพบจุดใหม่ 1 จุด รวมเป็นมีทั้งหมด 8 จุด ภาพรวมของสถานการณ์นี้มันเป็นสัญญานที่บอกได้เลยว่า แม่นุ่นเหลือเวลาน้อยมากและจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงการรักษาอย่างหนึ่งอย่างใดโดยเร็วที่สุด
การรักษามะเร็งในสมอง 8 จุดด้วย Gamma knife surgery
ผมตัดสินใจพาแม่นุ่นไปประเทศญี่ปุ่น เพื่อรักษามะเร็งในสมอง 8 จุด ด้วยเครื่องที่เรียกว่า Gamma knife surgery การรักษาที่ว่านี้อาจมีความเสี่ยงตามทฤษฎี แต่ทางเลือกที่ปลอดภัยมากกว่านี้ต้องใช้เงินนับล้านซึ่งผมพยายามอย่างที่สุดแล้วแต่ไม่สามารถหาเงินได้ทัน
..แม้มันอาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยที่สุด แต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะลูกของเรา การตัดสินใจนี้ผมเลือกเองบนพื้นฐานของสถานะความเป็นอยู่ของครอบครัว วิทยาการและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศที่ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่ามีความปลอดภัยและหวังผลได้ ซึ่งท้ายที่สุดมันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือผิด.. คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้..
ขอบคุณพี่น้องคนไทยในต่างประเทศที่ช่วยเป็นธุระให้ผมในการรักษาแม่นุ่น ไม่ว่าจะเป็นที่ญี่ปุ่น อเมริกา อินโดนีเชีย สิงคโปร์ ถึงสุดท้ายจะเลือกประเทศญี่ปุ่น แต่ผมก็ขอถือโอกาสนี้กราบขอบพระคุณน้ำใจจากเพื่อนทุกคนไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ถึงขนาดนี้แล้วมันต้องดีขึ้นสิ!..
การรักษามะเร็งแพร่กระจายขึ้นสมอง 8 จุดด้วย Gamma knife surgery 3 ชม. เสร็จสิ้นลงแล้ว มีปวดแผลนิดหน่อยเหลือแค่ต้องดูอาการ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีแล้วเราพ่อแม่ลูกจะกลับบ้านไปพร้อมกัน
ตอนนี้แม่นุ่นกลับมาพักรักษาตัวที่ไทยเรียบร้อยแล้ว เราขอเป็นกำลังใจให้แม่นุ่นและพ่อตุลย์ฝ่าฟันมรสุมครั้งใหญ่ในชีวิตไปให้ได้ หากใครผ่านไปแถวลาซาลอย่าลืมแวะไปเยี่ยมเยียนและจิบกาแฟและขนมเค้กที่ร้านเค้กแห่งความรัก "Boston's Cup by แม่นุ่น กันนะคะ และสุดท้ายนี้ ขอชื่นชมพ่อตุลย์… ลูกผู้ชายหัวใจเพชรจากใจจริง สุดยอดสามีที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อภรรยา ขอบคุณที่ทำให้รู้ว่าความรักที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร
ตามอ่านเรื่องราวของแม่นุ่นได้ที่เฟสบุ๊ค แม่นุ่น
สุดซึ้ง…โน้ส อุดมเล่าเรื่องแม่ให้ฟังทั้งน้ำตา
สุดซึ้ง! “บัสเตียน” หนูน้อยยอดกตัญญู “มามี้จ๋า อย่าร้องไห้ หนูจะดูแลมามี้เอง”
10 ความเสียสละที่คุณจะรู้ซึ้งเมื่อได้เป็นแม่