ชันนะตุ และเชื้อราบนหัวลูก เกิดจากอะไร … ทำอย่างไรให้หาย ? เด็กวัยกำลังซน มักจะอยู่ไม่สุขชอบเล่นหนูเล่นนี้ จนเหงื่อเต็มตัว ทั้งยังชอบเล่นคลุกคลีกับเพื่อนเดียวกัน ซึ่งนั่นอาจเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ หัวลูกเป็นเชื้อรา ได้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การทำความสะอาด วิธีรักษา ชันนะตุ บนหัว สระผมลูกอยู่เสมอ และหากเป็นแล้วต้องพาไปหาหมอค่ะ
หัวลูกเป็นเชื้อราได้อย่างไร ?
วิธีรักษา ชันนะตุ บนหัว ในกุมารเวชสาร อรุชา ตรีศิริโชติ ได้อธิบายถึงการเกิดเชื้อราในเด็กว่า เกิดจากเชื้อโรคที่ชื่อว่า เดอมาโทไฟต์ (Dermatophytes) โดยเชื้อราชนิดนี้ เติบโตได้ดีในที่ที่มีอุณหภูมิร้อนชื้น และเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่ง โดยจะเกิดขึ้นในส่วนของร่างกายที่มี keratin เป็นส่วนประกอบ โดยเฉพาะผิวหนังส่วนที่สร้างน้ำมันมาก ได้แก่ ผิวหนัง ผม และเล็บ โดยเชื้อโรคนี้สามารถแพร่กระจายได้ง่าย และสามารถติดเชื้อราเกิดได้จาก 3 ทาง ได้แก่ การติดเชื้อจากคน สัตว์ และดิน โดยกลากจะพบบ่อยให้เด็ก อายุระหว่าง 3-7 ปี ไม่ค่อยมีในเด็กเล็กและผู้ใหญ่ ซึ่งเชื้อพวกนี้อาจติดต่อมาจากการสัมผัสข้าวของเครื่องใช้ เช่น ผ้าเช็ดตัว หวี หมวก และหมอน เป็นต้น ถ้ามีการติดเชื้อมาก ตรงบริเวณนั้นจะนูน บวม มีตุ่มหนอง และผมร่วง
บทความที่น่าสนใจ : สกัดจุดหยุดเชื้อราตัวร้ายในห้องน้ำ เพื่อสุขภาพของลูกรัก
ปัจจัยหรือตัวกระตุ้นที่ทำให้โรคเป็นมากขึ้น
- ระคายเคืองสารต่าง ๆ เช่น ขนสัตว์ ละอองเกสรดอกไม้ ไรฝุ่น น้ำยาปรับผ้านุ่ม สบู่ ครีมบำรุงผิวหรือโลชั่นต่าง ๆ
- ภาวะติดเชื้อ จากแบคทีเรียหรือเชื้อรา เช่น การเกามากจนเป็นแผล ตุ่มหนองหรือมีผื่นแดงเป็นวงขอบยกนูน และคันมากจากเชื้อรา
- อากาศร้อน หรือการออกกำลังกายที่ทำให้เหงื่อออกมาก รวมถึงอากาศเย็นจนทำให้ผิวหนังแห้งมากขึ้น
- อาหารบางชนิด ที่มักแพ้ได้บ่อยในเด็กเล็ก ๆ เช่น นมวัว ไข่ขาว ถั่ว อาหารทะเล
อาการของชันนะตุเป็นอย่างไร ?
สำหรับชันนะตุ ก็เป็นโรคที่เกิดจากเชื้อราชนิดเดียวกับโรคกลาก โดยเป็นการติดเชื้อราที่รากผม เส้นผม และหนังศีรษะ พบมากในเด็กอายุ 6 – 12 ปี สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย ลักษณะจะมีอาการคัน และหัวจะตกสะเก็ดเป็นจุดกลม ๆ หนังศีรษะลอกหรือที่เรียกว่ารังแค บางรายเป็นผื่นแดง หากเกามาก ๆ จะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อได้ ซึ่งชันนะตุจะทำให้เกิดผมร่วงถาวรและทิ้งรอยแผลได้ในที่สุด นอกจากนี้ ในบางรายอาจยังทำให้มีไข้ต่ำ ๆ มีตุ่มฝีหรือหนอง กดแล้วจะรู้สึกเจ็บ
ชันนะตุ เมื่อลูกเป็นแล้วทำอย่างไร
อันดับแรกต้องพาไปหมอหมอ เพื่อให้หมอได้วินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพราะโรคที่เกิดจากเชื้อรามีหลายชนิด มีความแตกต่างกัน เมื่อทราบสาเหตุแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการรักษา สำหรับวิธีการรักษาก็มีทั้งยากิน และยาทาฆ่าเชื้อ บางคนเป็นมาก อาจจะเป็นต้องโกนผม จะได้ง่ายต่อการรักษา และทำความสะอาดด้วย ดังนั้น เมื่อพ่อแม่เริ่มเห็นว่าลูกเริ่มมีตุ่มอะไรแปลก ๆ ควรพาไปพบแพทย์ อย่าปล่อยให้ลุกลามจนเกินไป นอกจากนี้ แพทย์มักแนะนำให้ใช้แชมพูสำหรับกำจัดเชื้อราร่วมด้วย เพื่อเป็นการขจัดสปอร์ของเชื้อรา และเป็นการป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น หรือกระจายเชื้อไปยังหนังศีรษะบริเวณอื่น หรือผิวหนังตามร่างกายส่วนอื่น ๆ ทั้งนี้ การใช้แชมพูขจัดเชื้อราเพียงอย่างเดียวจะช่วยชะลอ และหยุดการแพร่กระจายของเชื้อราได้ แต่ไม่อาจกำจัดเชื้อราให้หมดไป โดยจะต้องรักษาร่วมกับการทานยาต้านเชื้อราด้วย
มาป้องกันไม่ให้หัวลูกเป็นเชื้อรากันเถอะ
พวกเชื้อรา อย่างเช่น ชันนะตุ จะแพร่กระจายได้ง่าย วิธีเดียวที่พ่อแม่จะหยุดยั้งได้ คือ การคอยสังเกตอยู่เสมอ พยายามสระผมให้ลูกเป็นประจำ สม่ำเสมอ โดยเฉพาะหลังจากตัดผมที่ร้าน เพราะอาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้สูง อย่าใช้สิ่งของร่วมกัน สอนให้เด็ก ๆ หมั่นล้างมือเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และต้องสอนลูกไม่ให้ยืมของ ของคนอื่น ได้แก่ หวี เสื้อผ้า หรือแม้แต่ผ้าเช็ดหน้า อย่าไปจับสัตว์ที่มีขนร่วงเป็นหย่อม ๆ เพราะสัตว์เลี้ยงอาจจะติดเชื้อมาก่อนแล้วก็ได้
บทความที่น่าสนใจ : วิธีกําจัดเหา วิธีกําจัดไข่เหาออกจากเส้นผม สมุนไพรกําจัดเหาถอนรากถอนโคน! การป้องกันเหาขึ้นหัวลูก
ที่มา : Infectious ง่ายนิดเดียว และ pobpad
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
รังแค เป็นรังแคตอนท้องทำไงดี เคล็ดลับช่วยฟื้นฟูหนังศีรษะสำหรับคุณแม่ทั้งหลาย
ทารกมีรังแค ปกติรึเปล่า?
กลากน้ำนม บนหน้าลูกคืออะไร ป้องกันยังไง รักษายังไงให้หาย!!