โตขึ้นอยากเป็นอะไร คำถามที่ผู้ใหญ่หลายคนเฝ้าถามเด็ก ๆ ในขณะที่เจ้าตัวเล็กบางคนยังไม่รู้ตัวเลยว่าชอบทำอะไร อยากทำอะไร แต่หากพ่อแม่เฝ้าสังเกตพฤติกรรมของลูก นี่คือ 10 แววโดดเด่นของลูก ที่บ่งบอกได้ว่าโตขึ้นมาลูกมีโอกาสก้าวหน้าในอาชีพอะไร
โตขึ้นอยากเป็นอะไร สังเกต 10 แววโดดเด่นของลูก ต้นทุนสมองที่พ่อแม่สร้างให้ได้
#1 แววความเป็นผู้นำ
เด็กที่ชอบคิด ไม่ยอมแพ้และพร้อมจะหาทางแก้กับปัญหาต่าง ๆ ชอบทำงานกับคนกลุ่มมาก ทำงานร่วมกับคนอื่นได้ดี มีมนุษยสัมพันธ์ มีอารมณ์ขัน และนำกลุ่มให้ทำงานบรรลุสู่เป้าหมายได้ดี ลักษณะประเภทนี้แววความเป็นหัวหน้าของลูกมีสูงแน่
#2 แววนักคิด
เด็กประเภทนี้ชอบมองและช่างสังเกต เก็บรายละเอียดและจดจำแม่นยำได้มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน สนใจสิ่งแปลก ๆ รู้เกินเด็กวัยเดียวกัน จนทำให้ผู้ใหญ่แปลกใจ สามารถใช้ภาษาได้ดี และชอบที่จะคบคนที่อายุมากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน
#3 แววสร้างสรรค์
มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ความคิดอิสระ จะไม่ยอมทำกิจกรรมที่ไม่ชอบ ไม่ยอมร่วมมือถ้าไม่เห็นด้วย แต่มักชอบทำงานคนเดียว ชอบมีความคิดแปลกใหม่ ๆ ชอบคิดนอกกรอบ และสนใจในการทดลองประดิษฐ์สิ่งใหม่ ๆ
#4 แววนักวิชาการ
จะเป็นเด็กที่มีสมาธิดี เรียนรู้ได้เร็ว ใช้ภาษาดี อ่านหนังสือได้เร็วกว่าเด็กวัยเดียวกัน สนใจที่จะซักถามในสิ่งสงสัย ชอบเรียนวิชายาก ๆ และสนุกกับการเรียน ชอบทำงานเกินคำสั่งในสิ่งที่สนใจ
ลูกมีแววด้านไหนกันอีก พ่อแม่เสริมยังไงให้ลูกได้ คลิกอ่านหน้าถัดไปกันเลย >>
#5 แววนักคณิต
เป็นเด็กที่สนในจเกี่ยวกับตัวเลข ปฏิทินเวลา แผนภูมิ มิติเวลา ชอบแก้ไขโจทย์เลข ใช้ความคิดในการแก้ปัญหาได้หลายวิธีทางคณิตศาสตร์ และเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้ามา เกี่ยวข้องกับเรื่องคณิตศาสตร์ได้ ชอบคิดตั้งคำถามที่เป็นเหตุเป็นผล
#6 แววนักวิทย์ฯ
เด็กประเภทนี้สนใจที่จะชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับสิ่งประดิษฐ์ เฝ้าสังเกต ทดลอง สัมผัส มองเห็นความเชื่อมโยงของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น ชอบทำงานที่ต้องลงมือปฏิบัติ และวิเคราะห์ วิพากษ์วิจารณ์สิ่งต่าง ๆ ที่สนใจอย่างมีเหตุผล
#7 แววนักเขียน
เป็นเด็กที่สนใจการพูดอ่านเขียน และมีภาษาที่ก้าวหน้ากว่าเด็กวัยเดียวกัน ชอบพกหนังสือหรือสมุดติดตัวไปทุกที่เพื่ออ่านหรือจดบันทึก ชอบแต่งเรื่องเขียนเรื่อง ใช้ภาษาสร้างจินตนาการได้ มีภาษาพูด เขียน สละสลวยและแตกต่างกว่าเด็กวัยเดียวกัน
#8 แววนักกีฬา
เด็กประเภทนี้จะมีสภาพร่างกายที่แข็งแรงและเหมาะสม เช่น ช่วงขาแข็งแรง ควบคุมความสมดุลของร่างกายได้อย่างโดดเด่นชอบออกกำลังกาย ชอบปีนป่าย สนุกสนานกับการเคลื่อนไหว มีสมาธิในการเล่นกีฬาได้แม้มีสิ่งเร้าต่าง ๆ
#9 แววนักดนตรี
สนใจในเครื่องดนตรี มีความไวต่อเสียง แยกแยะความแตกต่างของเสียงได้ ชอบการวิเคราะห์เพลงว่าดี-ไม่ดี และสนุกกับกิจกรรมดนตรีที่โปรดปราน
#10 แววศิลปิน
มีความสนใจในศิลปะ ชอบ เวลาว่างวาดภาพ ขีด ๆ เขียน มีสมาธินานกับงานศิลปะ มีประสาทสัมผัส มือ ตา ดี มีทักษะสามารถใช้กริยา ท่าทางสื่ออารมณ์ได้ดี
ถึงแม้ว่าจะยังไม่เห็นแววลูกใน 10 ข้อ ยังมองไม่เห็นพรสวรรค์ด้านใดด้านหนึ่งที่แสดงออกมาโดดเด่น แต่หากลูกได้รับการดูแลอย่างเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย พ่อแม่ก็สร้างต้นทุนสมองให้ลูกได้ โดยเริ่มตั้งแต่ในครรภ์ อายุ 0-2 ขวบ อายุ 3-5 ขวบ เสริมด้วยปัจจัยหลาย ๆ ด้านตั้งแต่ภาวะทางอารมณ์ บรรยากาศในครอบครัว การกระตุ้นพัฒนาการรอบด้านของตัวลูก สุขภาพที่ดี เพื่อให้ลูกมีพัฒนาการสมองอย่างเต็มที่
สำหรับเด็กที่มีแววฉายออกมาในสิ่งเหล่านี้ คือเป็นเด็กที่มีพลังงานในตัวมาก วิ่งเล่นทำอะไรได้ตลอด มีความอยากรู้อยากเห็น คอยถามโน่นถามนี่ มีช่วงสมาธิที่ดียาวนานกว่าเด็กในวัยเดียวกัน มีความสามารถในการคิดแก้ไขปัญหาต่าง ๆได้ดี มีจินตนาการที่ค่อนข้างแจ่มชัด เช่น เล่าให้คุณพ่อคุณแม่ฟังได้ว่า โตขึ้นอยากเป็นอะไร อยากเป็นนักบิน หรือคุณหมอ อยากจะเรียนให้เก่ง ๆ ฯลฯ มีความจำที่ดี ชอบเล่นกับเด็กที่โตกว่าวัยของตน มีพรสวรรค์ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด หรือที่เรียกว่า Gifted and Talent หากไม่ได้รับการดูแลเอาใจใส่ที่ดีหรือให้โอกาสอย่างเหมาะสม พรสวรรค์ไม่ถูกดึงออกมาใช้อย่างถูกที่ถูกทาง ก็อาจถูกกลืนหาย เสียโอกาสต่ออนาคตไปได้ ดังนั้นต้นทุนสมองของลูกและความเป็นต้นแบบที่พ่อแม่ช่วยสร้างให้ถูกทางสำคัญอย่างมากเชียวนะคะ.
ที่มา : www.manager.co.th
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
จับตา! 11 สัญญาณบ่งบอกว่าลูกน้อยมีแวว เป็นอัจฉริยะ ส่อแววฉลาด!!
ทึ่งเว่อร์! สุดยอดความฉลาดของลูก ที่พ่อแม่อย่าไปมองข้าม