10 เกมเด็กอนุบาล กระตุ้นสมองและพัฒนาการ พาลูกห่างจอ

คุณพ่อคุณแม่อยากพาลูกห่างจอ ให้ลูกทำอะไรดี ลองมาดูไอเดีย เกมเด็กอนุบาล ที่ช่วยกระตุ้นสมองและพัฒนาการ รับรองว่า ลูกน้อยจะเล่นเพลิน จนลืมจอไปเลย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การเล่นสำหรับเด็กวัยอนุบาลไม่ใช่แค่ความสนุกสนานเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่สำคัญที่สุดในช่วงวัยนี้ สำหรับช่วงปิดเทอม คุณพ่อคุณแม่อยากพาลูกห่างจอ ให้ลูกทำอะไรดี ลองมาดูไอเดีย เกมเด็กอนุบาล ที่ช่วยกระตุ้นสมองและพัฒนาการ ที่เราคัดเลือกมาฝาก รับรองว่า ลูกน้อยจะเล่นเพลิน จนลืมจอไปเลย

 

10 เกมเด็กอนุบาล กระตุ้นสมองและพัฒนาการ พาลูกห่างจอ

1. เกมกระโดดตามตัวเลข

คุณพ่อคุณแม่ชวนลูกน้อยทำแผ่นกระดาษ ตัวเลข และจุดสัญลักษณ์แทนจำนวน ตามที่ต้องการ แล้วนำไปวางบนพื้น คุณแม่กระโดดไปยืนที่ฝั่งจุดแทนจำนวน แล้วให้ลูกน้อยกระโดดไปยืนฝั่งตัวเลขที่ตรงกับจำนวนฝั่งคุณแม่ ดูตามคลิปแล้วทั้งง่ายและสนุก ไปลงมือทำกันเลย

เกมอนุบาล กระโดดตามตัวเลขนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและได้ประโยชน์มากมายสำหรับพัฒนาการของเด็กเล็กเลยค่ะ กิจกรรมนี้จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้และฝึกฝนทักษะต่างๆ ได้แก่

1. พัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น

  • การนับจำนวน: เด็กจะได้ฝึกนับจำนวนจากการดูจุดสัญลักษณ์และจับคู่กับตัวเลข
  • ความเข้าใจความสัมพันธ์ของจำนวน: เด็กจะเข้าใจว่าตัวเลขแต่ละตัวแทนจำนวนที่มากน้อยต่างกัน

2. พัฒนาการด้านร่างกาย

  • การเคลื่อนไหว: การกระโดดไปมา ช่วยให้กล้ามเนื้อขาและลำตัวแข็งแรง
  • การทรงตัว: การกระโดดไปยืนบนจุดที่กำหนด ช่วยฝึกให้เด็กทรงตัวได้ดีขึ้น

3. พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • การจดจำ: เด็กต้องจดจำว่าตัวเลขใดแทนจำนวนเท่าใด
  • การแก้ปัญหา: เด็กต้องคิดวิเคราะห์ว่าจะกระโดดไปยังจุดหมายปลายทางได้อย่างไร
  • ความสนใจ: กิจกรรมนี้ช่วยกระตุ้นให้เด็กสนใจตัวเลขและการนับมากขึ้น

4. พัฒนาการด้านอารมณ์

  • ความสนุกสนาน: กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำให้เด็กมีความสุขและอยากทำซ้ำ
  • ความมั่นใจ: เมื่อเด็กทำกิจกรรมได้สำเร็จ จะรู้สึกภูมิใจในตนเองและมีความมั่นใจมากขึ้น

2. เกมใยแมงมุมจับแมงมุม

คุณพ่อคุณแม่หาตะกร้าสี่เหลี่ยมมาขึงเชือกให้เป็นใยแมงมุม แล้วใส่โมเดลแมงมุมเข้าไป จากนั้น ให้ลูกน้อยใช้ไม้หนีบผ้าช่วยคีบแมงมุมออกมา

เกมอนุบาล ใยแมงมุมจับแมงมุมนี้เป็นกิจกรรมง่ายๆ แต่ให้ประโยชน์ด้านพัฒนาการของเด็กเล็กอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านต่อไปนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. พัฒนาการด้านร่างกาย

  • การประสานงานระหว่างตาและมือ: การใช้ไม้หนีบผ้าคีบแมงมุมขนาดเล็ก ช่วยให้เด็กฝึกการประสานงานระหว่างตาและมือให้แม่นยำมากขึ้น
  • กล้ามเนื้อมัดเล็ก: การใช้ไม้หนีบผ้าบีบและปล่อยซ้ำๆ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กที่นิ้วมือและข้อมือ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะการเขียนและการใช้มือในอนาคต

2. พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • การแก้ปัญหา: เด็กต้องคิดหาวิธีที่จะคีบแมงมุมออกมาจากใยแมงมุม ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กคิดวิเคราะห์และหาทางแก้ปัญหาในรูปแบบง่ายๆ
  • การวางแผน: ก่อนที่จะคีบแมงมุมออกมา เด็กต้องวางแผนว่าจะใช้ไม้หนีบผ้าจับตรงไหนและจะเคลื่อนไหวอย่างไร

3. พัฒนาการด้านอารมณ์

  • ความมั่นใจในตนเอง: เมื่อเด็กสามารถคีบแมงมุมออกมาได้สำเร็จ จะรู้สึกภูมิใจในตนเองและมีความมั่นใจมากขึ้น
  • ความเพลิดเพลิน: กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำให้เด็กรู้สึกเพลิดเพลินและอยากทำซ้ำ

4. พัฒนาการด้านสังคม

  • การมีปฏิสัมพันธ์: หากมีพี่น้องหรือเพื่อนร่วมเล่น เด็กจะได้เรียนรู้การเล่นร่วมกับผู้อื่น และฝึกทักษะทางสังคมต่างๆ เช่น การรอคิว การแบ่งปัน

 

3. เกมจับคู่สี

ให้ลูกน้อยนำไหมพรมแต่ละสีหยอดลงตามช่องให้ถูกต้อง อาจให้มือหยิบ หรือฝึกใช้ที่คีบ เพื่อสร้างเสริมทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของลูกน้อย

เกมจับคู่สี เป็นกิจกรรมง่ายๆ ที่ให้ประโยชน์ในด้านทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก และพัฒนาการด้านอื่นๆ ดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

1. พัฒนาการด้านร่างกาย

  • การประสานงานระหว่างตาและมือ: การมองเห็นช่องและควบคุมมือให้หยอดไหมพรมลงไปได้ตรงช่อง ช่วยพัฒนาทักษะการประสานงานระหว่างตาและมือให้แม่นยำมากขึ้น
  • กล้ามเนื้อมัดเล็ก: การใช้มือหยิบจับไหมพรม หรือใช้ที่คีบจับไหมพรม ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กที่นิ้วมือและข้อมือ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะการเขียนและการใช้มือในอนาคต

2. พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • การแก้ปัญหา: เด็กต้องคิดหาวิธีที่จะหยอดไหมพรมลงในช่องให้ถูกต้อง ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กคิดวิเคราะห์และหาทางแก้ปัญหาในรูปแบบง่ายๆ
  • การวางแผน: ก่อนที่จะหยอดไหมพรมลงไป เด็กต้องวางแผนว่าจะหยิบไหมพรมสีอะไรและจะหยอดลงในช่องไหน
  • ความเข้าใจเชิงพื้นที่: การมองเห็นช่องและวางแผนการหยอดไหมพรม ช่วยให้เด็กพัฒนาความเข้าใจเชิงพื้นที่ได้ดีขึ้น

3. พัฒนาการด้านอารมณ์

  • ความมั่นใจในตนเอง: เมื่อเด็กสามารถหยอดไหมพรมลงในช่องได้สำเร็จ จะรู้สึกภูมิใจในตนเองและมีความมั่นใจมากขึ้น
  • ความเพลิดเพลิน: กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำให้เด็กรู้สึกเพลิดเพลินและอยากทำซ้ำ

4. การเรียนรู้สีและรูปทรง

  • การจำแนกสี: การหยอดไหมพรมแต่ละสีลงในช่องที่กำหนด ช่วยให้เด็กเรียนรู้การจำแนกสี
  • การจับคู่: การจับคู่ระหว่างสีของไหมพรมกับสีของช่อง ช่วยให้เด็กเข้าใจแนวคิดเรื่องการจับคู่

 

4.  เกมจับคู่อวัยวะรับสัมผัส

ชวนลูกมาเล่นเกมจับคู่อวัยวะรับสัมผัส โดยนำรูปภาพมาหยอดให้ตรงกล่อง หรือนำไม้หนีบมาหนีบให้ตรงกับประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่ ตาดู หูฟัง จมูกดมกลิ่น ลิ้นรับรส มือสัมผัส กิจกรรมนี้จะช่วยพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของเด็ก ดังนี้

1. พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • การเรียนรู้ความสัมพันธ์: เด็กจะได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่างอวัยวะรับสัมผัสกับการทำงานของอวัยวะนั้นๆ เช่น ตาใช้สำหรับดู หูใช้สำหรับฟัง
  • การจำแนกประเภท: เด็กจะได้ฝึกจำแนกประเภทของสิ่งต่างๆ จากภาพที่เห็น

2. พัฒนาการด้านภาษา

  • การเรียนรู้คำศัพท์: เด็กจะได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะรับสัมผัสและการกระทำต่างๆ
  • การสื่อสาร: เด็กจะได้ฝึกใช้ภาษาในการอธิบายว่าทำไมถึงตอบเช่นนั้น

3. พัฒนาความเข้าใจตนเอง

  • การรับรู้ร่างกาย: เด็กจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับอวัยวะต่างๆ ของร่างกายและหน้าที่ของอวัยวะเหล่านั้น

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. เกมจับคู่ยานพาหนะกับลักษณะการเดินทาง

ให้ลูกจับคู่ว่ายานพาหนะชนิดใด เดินทางในลักษณะใด ทางบก ทางน้ำ หรือทางอากาศ กิจกรรมนี้จะช่วยพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ของเด็ก ดังนี้

1. พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • การจำแนกประเภท: เด็กจะได้ฝึกจำแนกยานพาหนะตามลักษณะการเดินทาง เช่น ยานพาหนะทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ
  • การสังเกต: เด็กจะได้ฝึกสังเกตลักษณะเฉพาะของยานพาหนะแต่ละชนิด

2. พัฒนาการด้านภาษา

  • การเรียนรู้คำศัพท์: เด็กจะได้เรียนรู้คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับยานพาหนะและการเดินทาง
  • การอธิบาย: เด็กจะได้ฝึกอธิบายลักษณะของยานพาหนะและวิธีการเดินทาง

3. ความรู้ทั่วไป

  • ความเข้าใจโลก: กิจกรรมนี้จะช่วยให้เด็กมีความเข้าใจเกี่ยวกับโลกและสิ่งรอบตัวมากขึ้น

 

6. เกมตัดกระดาษ

ฝึกให้ลูกน้อยใช้กรรไกรตัดกระดาษสำหรับเด็กอนุบาล ตัดกระดาษตามแบบ แล้วนำไปประกอบให้เป็นรูปร่างที่ถูกต้อง หรือคุณแม่ช่วยตัดกระดาษให้ แล้วให้ลูกนำไปประกอบเป็นรูปร่างตามแบบ

กิจกรรมตัดกระดาษ ช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็กได้หลายด้าน ดังนี้ค่ะ

1. พัฒนาการด้านร่างกาย

  • การประสานงานระหว่างตาและมือ: การตัดตามเส้น การประกอบชิ้นส่วนเข้าด้วยกัน ช่วยให้เด็กฝึกการประสานงานระหว่างตาและมือให้แม่นยำมากขึ้น
  • กล้ามเนื้อมัดเล็ก: การใช้กรรไกรตัดกระดาษ ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อมัดเล็กที่นิ้วมือและข้อมือ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะการเขียนและการใช้มือในอนาคต

2. พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • การแก้ปัญหา: เด็กต้องคิดหาวิธีที่จะตัดกระดาษตามรูปร่าง และประกอบชิ้นส่วนให้เข้ากัน ซึ่งเป็นการฝึกให้เด็กคิดวิเคราะห์และหาทางแก้ปัญหาในรูปแบบง่ายๆ
  • การวางแผน: ก่อนที่จะตัดกระดาษ เด็กต้องวางแผนว่าจะตัดส่วนไหนก่อนหลัง และจะประกอบชิ้นส่วนอย่างไร
  • ความเข้าใจเชิงพื้นที่: การมองเห็นรูปร่างที่ต้องการจะประกอบ และการวางแผนการประกอบ ช่วยให้เด็กพัฒนาความเข้าใจเชิงพื้นที่ได้ดีขึ้น

3. พัฒนาการด้านอารมณ์

  • ความมั่นใจในตนเอง: เมื่อเด็กสามารถตัดกระดาษและประกอบรูปร่างได้สำเร็จ จะรู้สึกภูมิใจในตนเองและมีความมั่นใจมากขึ้น
  • ความเพลิดเพลิน: กิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำให้เด็กรู้สึกเพลิดเพลินและอยากทำซ้ำ

7. เกมร้อยเชือก

คุณพ่อคุณแม่สามารถชวนลูกน้อยเล่นเกมร้อยเชือกได้หลายรูปแบบ โดยปรับเปลี่ยนได้ตามความสนใจ เช่น ร้อยลูกปัด ร้อยเชือกผ่านรูปทรงต่างๆ หรือร้อยเชือกทำเป็นของเล่นก็ได้

 

ประโยชน์ของเกมร้อยเชือก มีดังนี้

1. พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก

การใช้มือจับเชือกและร้อยผ่านรูเล็กๆ ช่วยฝึกให้กล้ามเนื้อนิ้วและมือของเด็กแข็งแรงและคล่องตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการจับดินสอ เขียนหนังสือ หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ต้องใช้ความละเอียด

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

2. พัฒนาทักษะการประสานงานระหว่างมือและตา

การมองเห็นรูและควบคุมมือให้ร้อยเชือกผ่านรูได้อย่างแม่นยำ ช่วยพัฒนาทักษะการประสานงานระหว่างมือและตาให้ดีขึ้น ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่างๆ

3. ส่งเสริมสมาธิ

การร้อยเชือกต้องใช้ความตั้งใจและสมาธิในการทำกิจกรรม ช่วยให้เด็กๆ ฝึกฝนให้มีสมาธิในการทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ดีขึ้น

4. พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา

เมื่อเจอปัญหา เช่น เชือกพันกัน หรือร้อยไม่ผ่านรู เด็กๆ จะต้องคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา ซึ่งช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์

5. พัฒนาด้านอารมณ์

การได้ทำกิจกรรมร่วมกับพ่อแม่หรือเพื่อนๆ จะทำให้เด็กๆ รู้สึกสนุกและมีความสุข ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม

 

8. เกมจับคู่ถุงเท้า

เกมจับคู่ถุงเท้า เป็นกิจกรรมกระตุ้นการรับรู้ทางสายตาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสมอง และยังช่วยพัฒนาทักษะอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ความจำ สมาธิ และการแก้ปัญหาอีกด้วย

  • พัฒนาสมอง: การทำกิจกรรมที่ท้าทายการมองเห็นจะช่วยสร้างเส้นใยประสาทใหม่ในสมอง ทำให้สมองแข็งแรงและทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • เพิ่มความจำ: การจดจำภาพและรายละเอียดต่างๆ จะช่วยฝึกความจำให้ดีขึ้น
  • เสริมสร้างสมาธิ: การโฟกัสที่ภาพหรือวัตถุจะช่วยฝึกสมาธิให้เราสามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานขึ้น
  • พัฒนาทักษะการแก้ปัญหา: การไขปริศนาภาพหรือเกมที่เกี่ยวกับการมองเห็นจะช่วยฝึกให้เราคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

9.  เกมหาชิ้นส่วนที่หายไป

เรียนรู้ผ่านจิ๊กซอว์ 4 ชิ้น โดยให้เด็กๆ หาส่วนที่หายไปว่าเป็นลวดลายแบบใด การต่อภาพจากชิ้นส่วนเล็กๆ จะช่วยฝึกการสังเกตและการวิเคราะห์ภาพรวมได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถดาวน์โหลดใบงานไปให้ลูกน้อยทำได้เลย โดยประโยชน์ของเกมนี้ ได้แก่

  • ฝึกทักษะการสังเกต: เด็กจะต้องสังเกตภาพรวมของภาพ และส่วนที่หายไปอย่างละเอียด เพื่อที่จะหาชิ้นส่วนที่ถูกต้องมาเติม
  • พัฒนาทักษะการวิเคราะห์: เด็กต้องวิเคราะห์ว่าชิ้นส่วนที่หายไปมีลักษณะอย่างไร และจะต้องวางในตำแหน่งใดจึงจะสมบูรณ์
  • เสริมสร้างความสามารถในการแก้ปัญหา: เด็กจะต้องคิดหาวิธีแก้ปัญหาในการหาชิ้นส่วนที่หายไป และประกอบภาพให้สมบูรณ์
  • พัฒนาทักษะการจดจำ: เด็กจะต้องจดจำลักษณะของชิ้นส่วนต่างๆ เพื่อนำมาประกอบเข้าด้วยกัน
  • เพิ่มความสนุกสนาน: เกมนี้เป็นกิจกรรมที่สนุกสนาน ทำให้เด็กอยากที่จะเล่นและเรียนรู้

 

10. การทดลองทิชชูสายรุ้ง

เป็นการทดลองวิทยาศาสตร์ง่ายๆ แต่ว้าวมากสำหรับเด็กๆ ที่ได้เห็นว่าน้ำสามารถเดินทางจากแก้วหนึ่งไปยังอีกแก้วหนึ่งได้เอง โดยอาศัยหลักการดูดซึมของกระดาษทิชชู เมื่อกระดาษทิชชู่ดูดซับน้ำสี น้ำสีจะเคลื่อนที่ผ่านเส้นใยของกระดาษทิชชู่ไปยังแก้วน้ำเปล่า ทำให้น้ำสีแพร่กระจายเข้าสู่แก้วน้ำเปล่า และเปลี่ยนสีกระดาษทิชชูเป็นสีรุ้งแสนสวย กิจกรรมนี้ช่วยพัฒนาในด้านต่างๆ ดังนี้

  • พัฒนาความคิดสร้างสรรค์: การได้ทดลองและสังเกตผลลัพธ์จะช่วยกระตุ้นให้เด็ก ๆ คิดหาคำถามและทดลองสิ่งใหม่ ๆ
  • เสริมสร้างความมั่นใจ: เมื่อทำการทดลองสำเร็จ เด็ก ๆ จะรู้สึกภูมิใจในตนเองและมีความมั่นใจมากขึ้น
  • สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว: การทำกิจกรรมร่วมกันจะช่วยให้สมาชิกในครอบครัวได้ใช้เวลาร่วมกันและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

7 เทคนิค ! ฝึกลูกทำงานบ้าน ช่วยพัฒนา EF ทักษะสำคัญของการใช้ชีวิต

5 คาเฟ่เด็ก นนทบุรี 2567 ปิดเทอม(เล็ก)นี้ จูงมือเล็กๆ ไปเล่น-ชิม-เช็ก

8 ทักษะจำเป็นที่เด็กอนุบาลต้องมี เพื่อก้าวสู่ศตวรรษที่ 21 (Part 1)