แพ้ท้องหนักมาก ทำไงดี กลัวลูกขาดสารอาหาร

คุณแม่แพ้ท้องหนักมาก ต้องกินอะไรเพื่อช่วยให้บรรเทาลงจากอาการแพ้ท้อง และลูกน้อยในครรภ์ได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน ไม่ขาดสารอาหาร เพื่อเสริมสร้างพัฒนาร่างกาย สมอง และอวัยวะต่างๆ ให้แข็งแรงสมบูรณ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

แพ้ท้อง (Morning Sickness) เป็นอาการที่มักเกิดขึ้นในช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก (1 – 3 เดือน) สาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ท้อง เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่มาจากทารกและรกในครรภ์ส่งผลให้ภายในร่างกายคุณแม่มีปริมาณฮอร์โมนเพิ่มขึ้น  ซึ่งคุณแม่บางคน แพ้ท้องหนักมาก ทำไงดี หรือบางคนมีอาการเพียงเล็กน้อย ดังนั้นเพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถรับมือกับอาการแพ้ท้องได้ และป้องกันไม่ให้ลูกน้อยในครรภ์ขาดสารอาหาร วันนี้มีคำแนะนำมาฝากค่ะ

 

แพ้ท้องหนักมาก ทำไงดี กลัวลูกขาดสารอาหาร

คุณแม่ท้องที่มีอาการแพ้ท้องหนักมาก รับประทานอาหารได้น้อย ดื่มน้ำได้ไม่มากในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ อาจส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ เนื่องจากทารกมีความจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์มากเพียงพอ เพื่อใช้ในการพัฒนาสร้างร่างกายและอวัยวะสำคัญต่างๆ ให้สมบูรณ์แข็งแรง ฉะนั้นแนะนำว่าหากรับประทานอาหารมื้อหลักได้ไม่มาก ให้คุณแม่ปรับเป็นการรับพลังงานจากกลูโคส เพื่อให้ร่างกายมีแรงพลัง สดชื่นขึ้น และช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ดี โดยที่คุณแม่สามารถดื่มเป็นน้ำผลไม้คั้นสด หรือนมโยเกิร์ตพร้อมดื่มสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ รสชาติอร่อยจะออกเปรี้ยวอมหวานนิดๆ ช่วยเพิ่มความสดชื่น ลดอาการแพ้ท้องได้ดี ที่สำคัญคุณแม่สามารถดื่มต่อเนื่องได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ไปจนถึงระยะให้นมบุตรเลยนะคะ เพราะมีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ไม่ว่าจะเป็น แคลเซียม ที่ช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง ธาตุเหล็ก ช่วยในกระบวนการสร้างและเจริญเติบโตของตัวอ่อนและรก และโฟเลต ที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดง และช่วยในการสร้างหลอดประสาทและสมองที่สมบูรณ์ให้กับทารกในครรภ์ เป็นต้น

 

ทำไมคุณแม่บางคนมีอาการแพ้ท้อง

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์เป็นครั้งแรกมักจะมีโอกาสสูงที่จะเกิดอาการแพ้ท้องขึ้นมากกว่าคุณแม่ท้องสอง หรือท้องสาม ซึ่งสาเหตุของอาการแพ้ท้องเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยค่ะ

  1. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่มาจากทารกและรกในครรภ์ส่งผลให้ภายในร่างกายคุณแม่ท้องมีปริมาณฮอร์โมนเพิ่มขึ้น
  2. ความเครียดสะสมที่อาจมีมาก่อนตั้งครรภ์ หรือเกิดขึ้นขณะตั้งครรภ์
  3. กลไกในร่างกายขณะตั้งครรภ์มีการต่อต้านไม่ให้รับประทานอาหาร ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อทารกในครรภ์ จึงส่งผลให้คุณแม่มีอาการเหม็นเบื่อไม่อยากอาหาร ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรก

 

วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้อง

หากคุณแม่มีอาการแพ้ท้องหนักมาก หรือมีอาการแพ้ไม่มาก เพื่อช่วยให้คุณแม่บรรเทาจากอาการแพ้ท้อง และใช้ชีวิตประจำวันได้เป็นปกติ แนะนำให้ลองทำตามวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ นอนกลางคืนควรเข้านอนไม่เกิน 4 ทุ่ม คุณแม่ท้องควรนอนให้ได้ 7-9 ชั่วโมงต่อคืน และในช่วงกลางวันอาจงีบหลับ 10 – 20 นาที เพื่อช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปล่าขึ้น
  2. งดอาหารที่มีรสชาติจัด รสชาติเลี่ยน และอาหารที่มีกลิ่นฉุนต่างๆ
  3. อย่าปล่อยให้ท้องว่าง แนะนำให้แบ่งมื้ออาหารออกเป็นมื้อย่อยๆ ประมาณ 3 – 4 มื้อ โดยรับประทานปริมาณมื้อละน้อยๆ แล้วเสริมด้วยนมโยเกิร์ตพร้อมดื่มสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์หลากหลายชนิดค่ะ

 

แนะนำอาหารแก้แพ้ท้อง เพื่อช่วยให้คุณแม่สดชื่นขึ้น และบรรเทาลงจากอาการแพ้ท้องหนักมาก

เครื่องดื่ม

อาหาร

1.    เลือกดื่มเป็นนมโยเกิร์ตพร้อมดื่มสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน จะช่วยเพิ่มความสดชื่น ลดอาการแพ้ท้องได้ดี 1.     ยำผลไม้รวม
2.    ดื่มน้ำขิงผสมน้ำแอปเปิ้ล จะช่วยลดอาการคลื่นไส้อาเจียน 2.    โจ๊กข้าวกล้อง
3.    ดื่มนมอุ่นๆ ช่วงเช้า(ตื่นนอน) หรือก่อนอน 3.    ปลากพงนึ่งมะนาว
4.    น้ำผลไม้คั้นสด เช่น น้ำส้ม น้ำฝรั่ง น้ำสับปะรด น้ำแอปเปิ้ล น้ำแตงโม เป็นต้น 4.    บรอกโคลีผัดกุ้ง
5.    หากคุณแม่เหม็นกลิ่นข้าว ในบ้างมื้อสามารถเปลี่ยนมารับประทานเป็นขนมปังโฮลวีทพร้อมกับดื่มนมอุ่นๆ หรือรับประทานเป็นเผือกต้ม มันต้ม หรือข้าวโพดต้มก็ได้เช่นกันค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

สารอาหารที่คุณแม่ท้องควรได้รับในไตรมาสแรก เพื่อบำรุงคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ เป็นช่วงที่ทารกในครรภ์มีการเจริญเติบโตทางโครงสร้างร่างกาย และมีการพัฒนาสร้างระบบการทำงานต่างๆ มีการสร้างอวัยวะทั้งหมดของร่างกาย และเซลล์สมองให้มีความสมบูรณ์แข็งแรง ดังนั้นคุณแม่จึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย

  • โปรตีน มีส่วนสำคัญช่วยในการเสริมสร้างอวัยวะและกล้ามเนื้อของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ โปรตีนที่แนะนำในคนท้องคือ 75 – 110 กรัมต่อวัน แหล่งอาหารที่มีโปรตีน เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เนื้อหมู ไข่ นม ต้นอ่อนทานตะวัน ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง และเมล็ดพืชต่างๆ เป็นต้น
  • คาร์โบไฮเดรต ช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย แหล่งอาหารของคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ขนมปังโฮลเกรน เป็นต้น
  • โฟเลต มีความสำคัญช่วยในการเจริญเติบโตของสมอง ระบบประสาทและไขสันหลังของทารก โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรรับประทานอาหารที่มีโฟเลตให้มาก แหล่งอาหารที่มีโฟเลต เช่น ผักใบเขียวทุกชนิด กล้วย แคนตาลูป ถั่วเหลือง และนมเสริมโฟเลต เป็นต้น
  • แคลเซียม มีความจำเป็นต่อการพัฒนาสร้างกระดูกและฟันของลูกน้อยในครรภ์ และเสริมให้กระดูกของคุณแม่ท้องแข็งแรง ป้องกันโรคกระดูกเสื่อม ขณะตั้งครรภ์ควรได้รับแคลเซียมต่อวันให้ได้ 1,000 มิลลิกรัม แหล่งอาหารที่มีแคลเซียม เช่น นม ปลาตัวเล็กตัวน้อย ชีส โยเกิร์ต เป็นต้น
  • ธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ช่วยสร้างเมล็ดเลือดแดง และช่วยในการนำส่งสารอาหารและออกซิเจนไปให้ลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้นขณะตั้งครรภ์ควรได้รับธาตุเหล็กต่อวันไม่ต่ำกว่า 27 มิลลิกรัม แหล่งอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ไข่แดง เนื้อแดง ตับหมู ตับไก่ งาดำ งาขาว ผักโขม ผักคะน้า เป็นต้น
  • ไอโอดีน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนา ของร่างกายและสมอง แหล่งอาหารที่มีไอโอดีน เช่น อาหารทะเล สาหร่ายทะเล เกลือเสริมไอโอดีน เป็นต้น
  • ไขมันดี มีความสำคัญต่อระบบประสาทสมองของลูกน้อยในครรภ์ และระบบต่างๆ ภายในร่างกายของแม่ท้อง แหล่งอาหารที่มีไขมันดี เช่น น้ำมันพืชต่างๆ ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ถั่วเหลือง อะโวคาโด เป็นต้น
  • วิตามินซี ช่วยกระตุ้นเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก และช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับรก แหล่งอาหารที่มีวิตามินซี เช่น ผลไม้ตระกูลเบอรี่ต่างๆ ฝรั่ง  ส้ม มะขามป้อม มะนาว สับปะรด เป็นต้น
  • วิตามินดี มีส่วนสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียม และฟอสฟอรัสจากอาหาร ช่วยให้มวลกระดูกแข็งแรง แหล่งอาหารที่มีวิตามินดี เช่น นม ไข่แดง ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแซลมอน และยังได้จากแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า เป็นต้น
  • วิตามินบี 2 6 12 ช่วยบำรุงสมองให้กับคุณแม่ และช่วยสร้างเซลล์สมอง และความจำให้กับลูกน้อยในครรภ์ แหล่งอาหารที่มีวิตามินบี เช่น นม โยเกิร์ต ตับ และไข่แดง มันฝรั่ง และถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ เป็นต้น

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

คุณแม่จำเป็นต้องได้รับการเสริมนมระหว่างตั้งครรภ์

ช่วงที่แพ้ท้องหนักมาก อาจทำให้ร่างกายของคุณแม่ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากรับประทานได้น้อย ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณแม่เสริมด้วยการดื่มนม โดยเฉพาะนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เนื่องจากมีสารอาหารหลายชนิดครบถ้วนดีและมีประโยชน์ต่อตัวคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์  โดยเฉพาะสารอาหารที่เสริมพัฒนาการสมองของลูกน้อยได้ดีมากๆ อาทิเช่น

  • ดีเอชเอ DHA เป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย ช่วยในการพัฒนาสมองการเรียนรู้ และระบบการมองเห็นให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • แกงกลิโอไซด์ GA เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมองบริเวณเส้นใยประสาทและจุดเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยทำให้การเรียนรู้จดจำได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับการดื่มนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีทั้งดีเอชเอ DHA และแกงกลิโอไซด์ GA อย่างในแอนมัม มาเทอร์น่า นมผง จะช่วยให้คุณแม่มีร่างกายที่แข็งแรงและลูกน้อยในครรภ์มีพัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนาการสมองที่สมบูรณ์แข็งแรงด้วยเช่นกันค่ะ แต่สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้องหนักมาก ก็ต้องเพิ่มความสดชื่น ให้ร่างกายมีพลังงานที่ดีด้วยแอนมัม นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม

 

แอนมัม มาร์เทอน่า นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม

คุณแม่ท้องที่มีอาการแพ้ท้องหนัก แนะนำนมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม จากแอนมัม มาร์เทอน่า แบรนด์อันดับ 1 ที่คุณแม่ไว้วางใจมาอย่างยาวนาน แอนมัม นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม รสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี ดื่มแล้วสดชื่น ช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องให้กับคุณแม่ แอนมัม นมโยเกิร์ตพร้อมดื่มมีส่วนผสมจากน้ำผลไม้และโยเกิร์ต ปราศจากไขมัน มีคุณค่าจากสารอาหารหลายชนิดที่ให้ประโยชน์กับคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ คุณแม่ดื่มแอนมัม มาร์เทอน่า นมโยเกิร์ตพร้อมดื่มได้ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ และสามารถดื่มต่อเนื่องไปจนถึงช่วงให้นมบุตร เพื่อที่ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารครบถ้วนต่อเนื่องไปจนกว่าจะเริ่มอาหารตามวัยค่ะ

แอนมัม มาร์เทอน่า นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ไขมัน 0% อร่อยเปรี้ยวหวานกำลังดี คุณแม่ดื่มแล้วสดชื่น ช่วยลดอาการแพ้ท้องได้ดี มาพร้อมด้วย 8 คุณประโยชน์ของสารอาหารที่จำเป็นต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์

  1. แคลเซียมสูง มีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
  2. ธาตุเหล็กสูง เป็นส่วนประกอบสำคัญของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง
  3. โฟเลตสูง มีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง หญิงตั้งครรภ์ ในเดือนแรกจำเป็นต้องได้รับโฟเลตเพื่อช่วยในการ สร้างหลอดประสาทและสมองที่สมบูรณ์ของทารก
  4. วิตามินดีสูง ช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส
  5. ฟอสฟอรัสสูง เป็นส่วนประกอบสำคัญของกระดูกและฟัน
  6. ไอโอดีน เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของฮอร์โมนไทรอยด์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการเจริญเติบโตและการพัฒนา
  7. วิตามินบี 2 ช่วยให้ร่างกายได้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรต โปรตีนและไขมัน
  8. วิตามินเอ ช่วยในการมองเห็น

แอนมัม มาร์เทอน่า นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน จะช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นขึ้น และบรรเทาลงจากอาการแพ้ท้อง เพราะมีส่วนผสมจากน้ำผลไม้ ในรูปแบบโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ปราศจากไขมัน พร้อมคุณด้วยค่าจากสารอาหารหลายชนิด เพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์ของครรภ์ ที่สำคัญคุณแม่สามารถดื่มแอนมัม นมโยเกิร์ตต่อเนื่องไปจนถึงระยะให้นมบุตรได้เลยนะคะ แอนมัม มาร์เทอน่า นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม มี 2 รสชาติ คือ รสผลไม้รวม และ รสส้ม ขนาด 180 มล.ต่อกล่อง หาซื้อได้ง่ายๆ ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ หรือช็อปผ่านช่องทางออนไลน์ตามลิงค์ด้านล่างได้เลยค่ะ ทั้งสะดวก โปรโมชั่นเพียบ ส่งตรงถึงบ้าน

🛒 Lazada https://bit.ly/48shrQC

🛒 Shopee https://bit.ly/48rk7O2

🛒 Big C https://bit.ly/4aX811s

🛒 Lotus https://bit.ly/484NK8l

 

หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ แอนมัม มาเทอร์น่า นมโยเกิร์ตพร้อมดื่ม ผลิตภัณฑ์นมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้แล้วที่  Anmum Thailand

ใส่ใจดูแลตัวเองตั้งแต่ตั้งครรภ์ถึงให้นมบุตร เลือกดื่มแอนมัม

  

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อ้างอิง:

  1. แพ้ท้องคุณแม่ต้องพร้อมรับมือ, โรงพยาบาลกรุงเทพ, https://www.bangkokhospital.com/content/get-ready-for-morning-sickness
  2. แพ้ท้องอยู่ใช่ไหม ต้องทำอย่างไรมีคำตอบ, โรงพยาบาลเพชรเวช, https://www.petcharavejhospital.com/th/Article/article_detail/Morning-Sickness-symptom
  3. เมนูอาหารแม่ท้อง, โรงพยาบาลสมิติเวช, https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/เมนูอาหารแม่ท้อง
  4. 3 เทคนิค “ลดอาการแพ้ท้อง”, โรงพยาบาลเปาโล, https://www.paolohospital.com/th-TH/phahol/Article/Details/3-เทคนิค–ลดอาการแพ้ท้อง-
  5. คุณแม่ตั้งครรภ์กับความเสี่ยงในไตรมาสแรก, โรงพยาบาลสมิติเวช, https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ตั้งครรภ์ไตรมาสแรก
  6. การนอนหลับสำหรับหญิงตั้งครรภ์, สสส, https://www.thaihealth.or.th/การนอนหลับสำหรับหญิงตั-2/
  7. โภชนาการแม่ท้องต้องรู้, โรงพยาบาลกรุงเทพ, https://www.bangkokhospital.com/content/nutrition-pregnant-mothers-must-know
  8. สารอาหารสำคัญ คุณแม่ตั้งครรภ์ห้ามพลาด, กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข, https://multimedia.anamai.moph.go.th/help-knowledgs/สารอาหารสำคญ-คณแมต/
  9. วิตามินดีมีดีกว่าที่คิด, โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์, https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/march-2019/vitamin-d
  10. โอเมก้า 3 (OMEGA 3) สารอาหารสำคัญ อุดมคุณประโยชน์, โรงพยาบาล MedPark, https://www.medparkhospital.com/lifestyles/omega-3-health-benefits-of-nutrition
  11. พัฒนาการที่ดีของลูกน้อยในครรภ์เริ่มดูแลได้ตั้งแต่วันนี้, โรงพยาบาลวิภาวดี, https://www.vibhavadi.com/Health-expert/detail/368#:~:text=แกงกลิโอไซต์,มีอยู่ในน้ำนมแม่

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team