ส่งลูกไปโรงเรียนวันแรก
ทำให้ลูกอยากไปโรงเรียน
ก่อนที่จะถึงวันเปิดเรียน ลองให้ลูกเลือกกระเป๋า สมุด และเครื่องเขียนด้วยตัวเองดู ถ้าลูกอยากใช้ของที่เขาเลือกเองแล้วละก็ ลูกก็จะตื่นเต้นกับการไปโรงเรียน ทีนี้ก็ตัดปัญหาร้องไห้งอแงออกไปได้เลย
ไม่ต้องรีบเร่งจนลูกตกใจ
ในวันแรกที่เปิดเรียน ทั้งคุณและลูกมักจะตื่นเช้ากว่าปกติ ก็ต้องปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไป ค่อยทานข้าวเช้าเหมือนเคย ลูกจะได้ไม่รู้สึกว่าทุกอย่างดูเร่งรีบไปหมดจนลูกรู้สึกเครียด
ตั้งความหวังให้ลูก
เด็กบางคนตื่นเต้นที่จะได้ไปโรงเรียน แต่ถ้าลูกไม่อยากไป คุณก็ลองตั้งความหวังให้ลูกดู ลองอธิบายให้ลูกฟังว่าทำไมโรงเรียนถึงมีเด็กเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วคุณครูจะให้ลูกทำอะไรบ้าง ถ้าลูกพอรู้ว่าเขาต้องทำอะไรบ้างที่โรงเรียน เขาก็พอจะเข้าใจแนวทางที่เขาควรทำ
อย่ากดดันลูก
ใคร ๆ ก็อยากให้ลูกเรียนเก่งกันทั้งนั้น แต่อย่ากดดันลูกตั้งแต่วันแรกที่เขาเริ่มเข้าเรียน ถ้าลูกไม่ยอมเรียนก็ค่อยหาวิธีพูดกับลูก ลองบอกลูกว่า แม้ลูกจะรู้พื้นฐานอย่าง ก-ฮ ตัวเลขต่าง ๆ แต่รับรองว่ายังมีเรื่องสนุก ๆ อีกหลายเรื่องกำลังรออยู่ในห้องเรียน แล้วคุณครูจะช่วยแนะนำเรื่องสนุก ๆ อีกหลายอย่างให้ลูกเอง
อย่าเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่น
คุณต้องยอมรับว่าเด็กทุกคนก็มีนิสัยที่ต่างกัน บางคนอาจปรับตัวได้ง่ายกว่า ฉลาดกว่า และมีสมาธิมากกว่าลูกของคุณ ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะว่าคุณรู้ดีว่าจุดแข็งของลูกคุณคืออะไร ลูกอาจจะเป็นเด็กฉลาดพูด หรือถนัดด้านอื่น ที่สำคัญคุณไม่ควรเปรียบเทียบลูกของตัวเองกับเด็กคนอื่น ๆ คุณจะได้ไม่ต้องกังวลหรือเสียใจไป
ไม่ต้องบอกบ๊ายบายกับลูก
นับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับคุณและลูกที่จะต้องปล่อยให้ลูกเรียนตามลำพังที่โรงเรียน เพราะว่าลูกมีความกลัวที่จะต้องแยกจากคุณมากทีเดียว ดังนั้นแทนที่จะบอกบ๊ายบายนะลูก ก็ให้บอกว่าเดี๋ยวพอโรงเรียนเลิกแล้วเจอกันนะจ๊ะแทน คุณก็ควรกอดลูกแล้วอวยพรให้ลูกสนุกกับเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน เดี๋ยวหนูก็จะได้เจอเพื่อนใหม่อีกเยอะเลย แต่ถ้าลูกยังร้องไห้งอแงหรือติดอยู่กับคุณไม่ยอมห่างอาจจะต้องเอาของมาล่อสักหน่อย คุณอาจจะบอกว่า เดี๋ยวหลังเลิกเรียนแล้ว แม่จะมารับพร้อมของเล่นชิ้นใหม่เลย หรือไม่ก็ใช้ขนมที่ลูกชอบมาล่อ อย่าลืมย้ำนะคะว่าถ้าคุณครูบอกว่าลูกเป็นเด็กดี ลูกถึงจะได้รับรางวัล ที่สำคัญคุณควรใช้วิธีนี้เฉพาะวันแรกเท่านั้น
ไม่ต้องคิดมากหรือกังวลมากจนเกินไป
คุณควรผ่อนคลายเวลาที่ลูกอยู่ที่โรงเรียน ไม่ต้องคิดว่าตอนนี้ลูกกำลังทำอะไร เรียนอะไร เข้ากับเพื่อนได้ไหม เพราะพอถึงเวลาที่คุณไปรับลูก เดี๋ยวลูกก็จะเล่าให้คุณฟังเอง สู้เอาเวลามาทำงานหรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่คุณอยากทำดีกว่า เช่น ซื้อของ ทำงานบ้าน พักผ่อน หรือนอนสักงีบ พอถึงเวลารับลูกคุณก็จะรู้สึกสดชื่น ไม่เหนื่อย
ลูกไม่กล้าเข้าห้องน้ำที่เนอสเซอรี