วิธีเลี้ยงลูกแบบคนฟินแลนด์
วิธีเลี้ยงลูกแบบคนฟินแลนด์ ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ประชากรมีความสุขคิดอันดับโลก และระบบการศึกษาที่ดี ผู้ปกครองไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าเทอม อุปกรณ์การเรียน มีการตรวจสุขภาพและทันตกรรมฟรี ให้พ่อแม่ได้ดูแลลูกน้อยหลังคลอดเป็นเวลานานเพื่อส่งเสริมให้ผู้ชายรับผิดชอบในการดูแลลูกมากขึ้น ให้มีบริการรับเลี้ยงเด็กเล็กในราคาที่รัฐบาลอุดหนุนหรือฟรี แต่ทุกคนต้องแลกด้วยการเสียภาษีในอัตราที่สุดในโลกเช่นกันคือ 51.6% ส่วนระบบการศึกษาของฟินแลนด์นั้นดีอย่างไร เรามาดูกันค่ะ
ระบบการศึกษาในโรงเรียน
- มีนักจิตวิทยาและครูคอยให้คำปรึกษา เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็กๆ อย่างใกล้ชิด
- ครูใช้เวลาในการสอนหนังสือวันละ 4 ชั่วโมง ทำให้พวกเขาได้มีเวลาเตรียมการสอน นำความรู้ที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ และมีเวลาใส่ใจเด็กนักเรียนมากขึ้น
- เด็กๆ ใช้เวลาในห้องเรียนน้อย หรือใช้เวลาราวๆ 670 ชั่วโมงต่อปีสำหรับโรงเรียนระดับประถมศึกษา
- สำหรับเด็กอายุ 15 ปีในฟินแลนด์ใช้เวลาทำการบ้านเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2.8 ชั่วโมง ขณะที่เด็กไทยใช้เวลาทำการบ้านเฉลี่ยมากถึง 5.6 ชั่วโมง/สัปดาห์
- เด็กๆ ไม่ต้องใส่เครื่องแบบไปโรงเรียน
- โรงเรียนไม่มีการสอบวัดความสามารถ แต่จะเด็กๆ จะถูกประเมินจากความสามารถในชั้นเรียน
- ให้เด็กๆ เข้าเรียนตอน 7 ขวบ
คนฟินแลนด์เลี้ยงลูกอย่างไร
1.เน้นให้เด็กเล่นมากกว่าเรียนในช่วงเตรียมอนุบาล
พ่อแม่จะปล่อยให้ลูกๆ ได้เล่นสนุกทั้งวัน ทั้งปีนต้นไม้ หริอการเล่นขายของ เพราะเด็กจะเกิดการเรียนรู้สิ่งต่างๆ จากเรื่องราวรอบตัวเองค่ะ ในขณะที่เด็กไทยจะเริ่มให้เด็กขีดเขียนเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่า
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์พงษ์ศักดิ์ น้อยพยัคฆ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม และรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช ได้กล่าวว่า “ถ้าพ่อแม่เข้าใจเรื่องพัฒนาการของเด็ก จะรู้ว่าตอนนี้ลูกของเราขาดทักษะด้านไหนและควรจะเติมอะไร และพัฒนาการทุกด้านจะสมบูรณ์ได้ มาจากเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันที่เราอาจคาดไม่ถึง เช่น เด็กทำลูกบอลกลิ้งเข้าไปใต้โต๊ะ การคิดว่าเขาจะคลานเข้าไปหยิบ เรียกคนอื่นมาช่วยหยิบ หรือไปเอาไม้กวาดมาเขี่ยลูกบอลออกมา
ทั้งหมดนี้ เป็นการพัฒนาสมองในส่วนการคิดวิเคราะห์ฉับไว ความคิดสร้างสรรค์ การร่วมมือแบ่งปัน และการสื่อสารเฉียบคม ซึ่งเป็น 4 ทักษะแห่งอนาคตที่สำคัญ และเด็กๆ จะขาดทักษะทั้งหมดนี้ไปถ้าหากมัวแต่นั่งเล่นหน้าจอต่างๆ หรือถ้าพ่อแม่ไปจำกัดทางเลือกโดยคิดทุกอย่างไว้ให้ล่วงหน้า หรือทำทุกอย่างให้หมด”
2.พ่อแม่จะร่วมกิจกรรมกับลูกในโรงเรียน
สำหรับประเทศไทยแล้วถึงแม้ว่าจะมีกิจกรรมที่ให้พ่อแม่เข้าไปมีส่วนร่วมด้วยส่วนใหญ่จะเฉพาะ วันพ่อ กับวันแม่เท่านั้น อีกทั้ง พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะไม่มีเวลา หรือมองว่าการเล่าเรียนเป็นเรื่องของความรับผิดชอบของครู อาจารย์ ไม่ใช่หน้าที่ของพ่อแม่ และจะยอมลงทุนเสียค่าใช้จ่ายแพงๆ เพื่อให้ลูกเข้าโรงเรียนที่ดี มีชื่อเสียง เพื่อหวังว่าลูกจะได้รับการศึกษาที่ดีเช่นกัน ในขณะที่ฟินแลนด์ พ่อแม่จะพยายามพาตัวเองเข้าไปร่วมกับทุกกิจกรรมนอกหลักสูตรที่จัดขึ้นในโรงเรียนของลูกเสมอ เช่น ร่วมกันจัดทัศนศึกษา เป็นโค้ช เป็นผู้จัดการให้ทีมเบสบอลโรงเรียน ฯลฯ
3.พลักดันให้ลูกได้อ่านหนังสือ
โดยที่พ่อแม่จะทำเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น เมื่อลูกเห็นบ่อยๆ ก็จะเกิดการซึมซับและเกิดการลอกเลียนแบบค่ะ เพราะวัฒนธรรมการอ่านมักจะอยู่ในสายเลือดของคนฟินแลนด์ สำหรับการใช้เทคโนโลยีนั้น คนฟินแลนด์ส่วนหนึ่งบอกว่าเทคโนโลยีอาจทำให้ระดับพัฒนาการลดลง แต่โดยภาพรวมของผู้ปกครองในประเทศฟินแลนด์มองว่า ขึ้นอยู่กับอายุและการสอนของผู้ใหญ่ว่าเด็กควรใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นอย่างไร
4.ลูกเล่นเกมได้ไม่ผิด
พ่อแม่คนฟินแลนด์ไม่ได้มองว่าเกมมีแต่ข้อเสียเท่านั้น แต่ขึ้นอยู่กับวิธีและการนำเกมไปใช้มากกว่า เช่น ส่งเสริมให้ลูกน้อยได้เรียนออกแบบเกมเพิ่มเติมค่ะ โดยที่พ่อแม่มีหน้าที่ในการส่งเสริมทุกเรื่องที่เด็กสนใจและถนัดให้มากที่สุดค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
มีลูกคนต่อไปเมื่อไหร่ดี พี่-น้อง ควรมีอายุห่างกันกี่ปีถึงจะดีที่สุด?
วิธีกําจัดเหา วิธีกําจัดไข่เหาออกจากเส้นผม สมุนไพรกําจัดเหาถอนรากถอนโคน! การป้องกันเหาขึ้นหัวลูก
วิธีเลี้ยงลูกให้ฉลาด และมีพรสวรรค์ พัฒนาความสามารถของลูกให้ดียิ่งขึ้น