เบคอน ของโปรดเด็กน้อย ควรทานแต่น้อยเพื่อสุขภาพที่ดี พูดถึงเบคอนแล้วไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือเด็กโตคนไหนก็ต้องแพ้ (ทาง) ทุกที มีเท่าไหร่หมดเท่านั้น แล้วเบคอนเนี่ย มันดีหรือไม่ดียังไงกันนะ ไปรู้จักเบคอนกัน
เบคอน ทำมาจากอะไร?
ปกติแล้วเบคอนนั้นจะทำมาจากส่วนท้อง หรือหลังของหมู เพราะส่วนดังกล่าวมีปริมาณไขมันที่มากกว่าเนื้อแดงในส่วนอื่นๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามเบคอนก็ไม่ได้ทำจากหมูเสมอไป โดยมีที่ทำจากวัตถุดิบอื่นอีก เช่น
- เบคอนไก่งวง หรือเป็ด นิยมมากในแถบประเทศที่นับถือศาสนาอิสลาม อาทิ อินโดนีเซีย ปากีสถาน บังกาเทศ อิหร่าน ตุรกี เป็นต้น
- เบคอนมังสวิรัติ มักทำมาจากโปรตีนถั่วเหลือง เหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติ หรือทานอาหารเจ
- เบคอนแกะ
- เบคอนเนื้อ
- เบคอนกวาง
กรรมวิธีในการทำเบคอน
การทำเบคอนนั้นถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ก็คือการทำแบบ “แห้ง” และ “เปียก”
เบคอน แบบแห้ง
เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการทำเบคอน คือการนำเนื้อส่วนหลังหรือส่วนท้องของหมูมาทาเกลือ และสมุนไพรต่างๆ ก่อนที่จะนำไปอบด้วยอุณหภูมิพอเหมาะ เพื่อเป็นการรีดน้ำ และน้ำมันส่วนเกินที่อยู่ในเนื้อหมูออกมา เวลานำไปทอด เบคอนจะเหลืองกรอบน่ารับประทาน
เบคอน แบบเปียก หรือการดอง
โดยใช้เนื้อหมูและวัตถุดิบเหมือนกับการทำแบบแห้ง ซึ่งจะไม่อบเหมือนกับแบบแห้ง แต่จะเป็นการนำเนื้อหมูลงไปแช่ในน้ำเกลือแทน ซึ่งการดองเป็นการเพิ่มปริมาณน้ำในเนื้อหมู ดังนั้นเวลานำเบคอนชนิดนี้ไปทอด เบคอนจะหดตัวลง และปล่อยน้ำมันมันออกมา เมื่อสุกจะไม่กรอบเท่ากับแบบแห้ง
บทความที่น่าสนใจ : รวม 30 เมนูไข่ อาหารเช้า เอาใจลูก กับสูตรเมนูไข่ง่าย ๆ
สารอาหารในเบคอน
แค่เห็นน้ำมันที่ออกมาตอนทอดก็คงพอจะเดาออกกันแล้วว่า เบคอนหนึ่งชิ้นนั้นมีปริมาณไขมันเยอะแค่ไหน เราลองมาดูกันอย่างละเอียดดีกว่าว่าจริงๆ แล้วมันมีแต่ไขมันจริงหรือไม่
ข้อมูลโภชนาการสำหรับเบคอน 1 ชิ้น (35 กรัม)
- แคลอรี : 161 กิโลแคลอรี
- ไขมัน : 12 กรัม
- โซเดียม : 581 มิลลิกรัม
- คาร์โบไฮเดรต : 0.6 กรัม
- ไฟเบอร์ : 0 กรัม
- น้ำตาล : 0 กรัม
- โปรตีน : 12 กรัม
ซึ่งจะเห็นได้ว่าเบคอนไม่ได้มีแคลอรีที่สูงมากนัก แต่มีไขมันอิ่มตัวในปริมาณที่สูงมาก และปริมาณโซเดียมที่สูงถึง 1 ใน 4 ที่ของปริมาณที่ควรบริโภคต่อวันเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้คนที่ใส่ใจสุขภาพ หรือคนที่กำลังไดเอท แต่ร่างกายต้องการเบคอน จึงหันมาทาน เบคอนไก่งวง หรือเบคอนมังสวิรัติ แทน เพื่อเป็นการชดเชยเบคอนหมู และเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
เบคอน ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ จริงหรือเปล่า
ด้วยปริมาณของโซเดียมในเบคอนแล้ว สำหรับเด็กเล็กหรือเด็กที่มีอายุไม่เกิน 12 เดือน ไม่ควรให้บริโภคเบคอนเพียงอย่างเดียว โดยในระยะ 12 เดือนแรกเด็กๆ ควรได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตมากที่สุด
ช่วงอายุต่ำกว่า 2 เดือน
วัยทารกแรกเกิด เด็กๆ ไม่ควรได้รับอาหารอื่นใดนอกจาก “นมแม่” ด้วยความที่นมแม่นั้นมีสารอาหารที่ครบถ้วน และมีประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อยมากที่สุด อีกทั้งยังช่วยสร้างภูมิต้านทานให้กับทารกแรกเกิดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดอัตราความเสี่ยงของการเกิดโรคต่างๆ รวมถึงการพัฒนาการทางด้านสมองและสติปัญญาของลูกน้อยของคุณอีกด้วย
ช่วงอายุ 2-5 เดือน
เป็นช่วงอายุที่ฟันของเด็กๆ เริ่มขึ้น เด็กๆ มักเกิดการอาการคันฟัน และคว้าสิ่งของรอบข้างมาทานอยู่เป็นประจำ ซึ่งในระยะนี้ก็ยังถือว่าเสี่ยงมาก ถ้าให้เด็กๆ ทานเบคอนทอดกรอบโดยตรง โดยอวัยวะภายในของเด็กๆ กำลังอยู่ในระยะเติบโตจึงไม่ควรให้เขาได้ทานในช่วงเวลานี้
ช่วงอายุ 5 เดือนถึง 12 เดือน
การพัฒนาทางร่างของเด็กๆ เริ่มเติบโตมากขึ้น พวกเขาสามารถเริ่มเคี้ยว หรือเริ่มทานอาหารได้บ้างแล้ว แต่ก็ยังขอยืนยันว่าไม่ควรให้เขาทานเบคอนเพียงอย่างเดียวอยู่ดี แนะนำให้คุณแม่ผสมเบคอนเข้ากับไข่ หรือว่าให้ในปริมาณที่น้อยเท่านั้น
ช่วงอายุมากกว่า 12 เดือน
เด็กวัยกำลังโต ที่มักเกิดอาการแพ้ (ทาง) ให้กับของทอดกรอบทุกที เบคอนเป็นอีกหนึ่งเมนูที่เด็กๆ หลายบ้านเรียกร้องอยากจะทาน แล้วเราก็ไม่สามารถห้ามได้ เพราะพวกเขาจะงอแงกันเป็นอย่างมาก วิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้ก็คือ การทำให้รสชาติของเบคอนอ่อนลง อาจนำไปประกอบกับเมนูอื่นๆ ที่มีรสจืด หรือลดความเค็มด้วยการนำไปต้มในน้ำเดือด เพื่อลดความเค็มก่อนก็ได้นะคะ
บทความที่น่าสนใจ : เช็คพัฒนาการลูกยังไง? ติดตามพัฒนาการลูก ง่ายๆได้ด้วยตัวเอง!
ผลเสียของการทานโซเดียมมากเกินไป
การทานโซเดียมมากเกินไปนั้นอาจส่งผลให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ในเด็ก และวัยรุ่น อีกทั้งยังส่งผลทำให้เด็กๆ มีน้ำหนักตัวที่มากเกินมาตรฐาน หรือเกิดโรคอ้วนได้ โดยเด็กที่ทานอาหารที่มีปริมาณโซเดียมสูงมีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูงกว่าเด็กทั่วไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์ นอกจากความดันโลหิตสูง และโรคอ้วนแล้ว การทานโซเดียมในปริมาณที่มากเป็นเวลานาน หรือสะสมเป็นจำนวนมากนั้น อาจส่งผลทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ และเสียชีวิตก่อนวัยอันควร
อย่างไรก็ตามก็อยากให้บรรดาคุณแม่ทั้งหลาย เลือกเมนูอาหารที่ครบ 5 หมู่และถูกสุขลักษณะให้กับเด็กๆ นะคะ เพื่อสุขภาพที่ดี หากไกลโรคภัยไข้เจ็บของลูกน้อยของคุณ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการด้านสติปัญญา และกล้ามเนื้อ ที่กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต
ที่มา : verywellfit, healthline, sleepbaby