พ่อพาลูกแท้ๆออกมาขอทาน พ่อใจดำพาลูกแท้มาตากฝนขอทานหาเงิน

พ่อพาลูกแท้ๆออกมาขอทาน พ่อใจดำพาลูกแท้มาตากฝนขอทานหาเงิน

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊คที่มีชื่อว่า Awie Bkhori Abdul Halim ลงรูปเด็กชายตัวน้อย นั่งอยู่ในรถเข็นนั่งขอทานอยู่ตัวคนเดียวกลางเมือง Perda, Penang ในภาพเด็กชายตัวน้อยคนนี้นั่งหน้าสลด อยู่ในรถเข็นเด็ก และมีกล่องพลาสติคสำหรับการบริจาคอยู่ตรงหน้า ฝนกำลังตกอย่างหนัก เด็กน้อยไม่ได้ใส่รองเท้า ไม่มีเสื้อไว้กันหนาวอีกต่างหาก และไม่มีผู้ปกครองให้เห็น แท้จริงแล้วนี่เป็นฝีมือของ พ่อพาลูกแท้ๆออกมาขอทาน เพื่อหวังจะให้คนสงสาร

พ่อหาเงินมาจ่ายหนี้

จากคำบอกเล่าของผู้คนแถวนั้นบอกว่าพ่อ ของหนูน้อยคนนี้ เป็นหนี้ ของเจ้าหนี้นอกระบบ โดยเขาจะใช้หนี้ให้วันละประมาณ 400 บาท ตามการรายงานของสำนักข่าว report by Oriental Daily News คุณพ่อของเด็ก ไม่เปิดเผยชื่อ ได้ออกมาขอโทษผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากทนต่อกระแสสังคม ที่ตำหนิเขาอย่างรุนแรงไม่ไหว ทำให้พ่อต้องลุกขึ้นมมาขอโทษ และ บอกเล่าเรื่องราวในฝั่งของตน ว่าตนนั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำแบบนี้เลยแม้แต่น้อย

พ่อออกมาขอโทษ

ในบทความที่ระบุการขอโทษนั้นกล่าวว่า เขาเคยมีหน้าร้านเพื่อจะทำธุรกิจ แต่เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมานั้นแปรปรวนเกิดอาการเปียกแฉะ ทำให้เขาไม่สามารถที่จะ หาเงินมาจ่ายหนี้ ที่เขาติดกับเจ้าหนี้ได้ คืนนั้นเขาตั้งใจที่จะไปขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากในสุเหร่า แต่เมื่อไปถึงกลับไม่พบใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว เขาเลยตัดสินใจ ให้ลูกทั้ง 2 คน ออกมาขอทาน เขายังบอกอีกว่าเขาไม่ได้ทิ้งลูกไว้คนเดียว ตอนที่เขาเอาลูกไว้เพื่อจะไปเอารถ ก็มีคนถ่ายรูปไปแล้ว ชายผู้เป็นพ่อกล่าวว่า เขาคือคนผิดแค่คนเดียว ภรรยาของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการตัดสินใจครั้งนี้ โชคดีที่ในเหตุการณ์ครั้้งนี้เด็กไม่ได้โดนทำร้าย หรือ ลักพาตัว เพราะมีผู้หวังดีมาพบเห็น เด็กถูกทิ้งไว้ซะก่อน

อ้างอิงจาก กฏหมายเกี่ยวกับเด็กของประเทศ มาเลเซีย Malaysia’s Child Act ผู้ที่นำเด็กออกมาขอทานจะต้องเสียค่าปรับกว่า RM20,000 หรือประมาณ 5000 หรือ โทษอีกอย่างก็คือการจำคุก 5 ปี

Source : asiaone

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :

พ่อแม่ทิ้งลูกแรกเกิดใส่ถังขยะหลังวัด ตำรวจเร่งติดตามตัวคนใจร้าย! เอาทารกมาทิ้งง่าย ๆ

ทำได้ลงคอ แม่ใจร้าย!!! จับลูกห่อพัสดุ จ้างแมสเซนเจอร์ส่งไปสถานรับเลี้ยงเด็ก

ใจร้ายเกินไปไหม? แค่เด็กนักเรียนพูดเก่งถึงกับต้องทำกันขนาดนี้เลยหรือ?