อาการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง ?

นี่ฉันท้องหรือว่าแค่บวม ๆ ขึ้นมาเนี่ย? อันที่จริงมีอาการเริ่มแรกของการตั้งครรภ์หลาย ๆ อย่างที่จะช่วยบอกคุณว่าคุณกำลังท้องอยู่หรือไม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อ้วนขึ้นหรือเปล่านะ ? ช่วงนี้ทานเยอะไป หรืออยู่แต่บ้าน นั่งทำงานอยู่หน้าคอม ไม่ค่อยได้ไปไหน ออกกำลังกาย ก็ไม่ค่อยได้ออก การเวิร์คฟอร์มโฮม (work from home) ก็อาจจะทำให้สาว ๆ รู้สึกถึงน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น สัดส่วนขยาย อาจจะอ้วนขึ้นก็ได้ แต่ถ้าหากมีอาการอื่น ๆ ที่ดูจะไม่ปกติแล้วล่ะก็ อาจจะเป็น อาการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง เช็กด่วน

อาการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ มีอะไรบ้าง ?

สาว ๆ ทั้งหลาย ลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่า นอกจากน้ำหนักขึ้น ตัวบวม ๆ ขึ้นแล้ว ประจำเดือนขาด ? คลื่นไส้ ? ไม่เจริญอาหาร ? บ้างหรือเปล่า เหล่านี้เป็นอาจบ่งชี้ว่า คุณกำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ได้ หากยังไม่แน่ใจลองเช็กอาการเริ่มต้นของคนท้องอื่น ๆ ประกอบดูได้ ดังนี้

  • ประจำเดือนมาไม่ปกติ

การตั้งครรภ์เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ประจำเดือนมาช้า หรือขาดช่วง หากคุณมีเพศสัมพันธ์ ไม่ว่าจะคุมกำเนิดหรือไม่ หากประจำเดือนขาดช่วงไป โอกาสในการที่จะตั้งครรภ์ ก็มีความเป็นได้อยู่ดี เพราะการคุมกำเนิด สามารถลดโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ แต่ก็ไม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม หากประจำเดือนขาด หรือมาช้า คุณอาจจะรอสัก 2 – 3 วัน เพราะการที่ประจำเดือนมาไม่ปกตินั้น ก็เกิดขึ้นได้จากอีกหลาย ๆ สาเหตุ เช่น ความเครียด อาหารการกิน การออกกำลังกายอย่างหักโหม และอื่น ๆ

ในช่วงการตั้งครรภ์เริ่มแรก สามารถมีเลือดออกมาคล้ายประจำเดือน อันเกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อน หากคุณรู้สึกไม่แน่ใจ ก็อาจจะซื้อชุดตรวจครรภ์มาลองตรวจดูด้วยตัวเองก่อนก็ได้

  • เหนื่อยอ่อน และคลื่นไส้

อาการเริ่มต้นของคนท้อง ก็คือมักจะอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย และคลื่นไส้อยู่บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่นอนมาแล้ว 8 ชั่วโมง แถมยังงีบอีก 2 – 3 ชั่วโมงด้วยซ้ำ แต่กลับยังรู้สึกเหนื่อยเหมือนวิ่งรอบสนามมาสักสามรอบ ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณนอนหลับได้ หากแต่ในขณะเดียวกัน ก็ลดระดับน้ำตาล ลดระดับความดันเลือด และ เพิ่มการผลิตเม็ดเลือด ซึ่งดูดกลืนพลังงาน ทำให้รู้สึกเหนื่อยล้าเป็นว่าเล่นเลยทีเดียว

  • อารมณ์แปรปรวน

ทั้งเหวี่ยงวีน เดี๋ยวก็โศกเศร้าเหงาหงอย สักพักก็อยากจะร้องไห้ ห้านาทีต่อมากลับรู้สึกอยากกอดทุกคนบนโลกนี้ แล้วต่อมาก็รู้สึกอยากหลีกหนีไปให้ไกล อาการแบบนี้แหละที่เรียกว่า อารมณ์แปรปรวน สาเหตุที่คนท้องมักจะมีอารมณ์แปรปรวน นั่นก็เป็นเพราะว่าฮอร์โมนที่หลั่งออกมามากมายในร่างกายช่วงแรก ๆ จะทำให้คุณเจ้าอารมณ์ และ เจ้าน้ำตา ภาวะนี้เป็นเรื่องปกติมาก สำหรับคนท้องในช่วงสามเดือนแรก

ประสบการณ์ของคุณแม่ลูกสองเล่าให้เราฟังว่า เธอเคยตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วจู่ ๆ ก็กรี๊ดใส่สามีอย่างไร้เหตุผล จากนั้นก็กลับไปมุดใต้ผ้าห่ม และหลับต่อ ตอนนั้นเธอยังไม่ทันรู้ตัวว่า ตัวเองกำลังตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้ว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • เจ็บหน้าอก คัดตึงที่เต้านม

ถ้าหากคุณพอจะจำความรู้สึกเจ็บหน้าอก คัดตึงเต้านมตอนที่ประจำเดือนกำลังจะมา อาการเจ็บหน้าอกในระยะเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ก็เป็นแบบนั้นเลย เมื่อเกิดการปฏิสนธิ และตั้งครรภ์ได้ราว ๆ 2 สัปดาห์ อาการคัดตึงหน้าอก เจ็บบริเวณเต้านมจะมากขึ้น รู้สึกแน่นขึ้น เมื่อร่างกายจะค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนได้ อาการเหล่านี้ก็จะลดลง แต่อาการคัดตึงหน้าอก ก็ไม่ใช่อาการที่จะเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ทุกคน

  • อยากอาหาร

ความอยากอาหารอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้หมายความว่า คุณกำลังตั้งครรภ์ก็จริง แต่ความรู้ที่สึกอยากกินโน่น ทานนี่ เฝ้าคิดถึงโจ๊กร้อน ๆ มะม่วงลูกโต หรืออะไรแปลก ๆ ก็อาจเป็นหนึ่งในอาการของคนท้องเช่นกัน

ความอยากอาหารของคนท้อง ไม่ได้มาเฉพาะไตรมาสที่ 2 หรือ 3 ของการตั้งครรภ์เท่านั้น แต่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงไตรมาสแรก ก็ทำให้คุณอยากอาหารมาก ๆ ได้เช่นเดียวกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งคิดว่าการอยากกินโน่น กินนี่ จะเป็นเพราะการตั้งครรภ์อย่างเดียว คุณอาจจะแค่หิว หรือประจำเดือนใกล้มาก็ได้ ยังไงก็อย่าลืมสังเกตอาการอื่น ๆ ควบคู่ไปด้วยล่ะ

  • เลือดออกเล็กน้อย หรือ มีหยดเลือด

ผู้หญิงบางคนอาจมีหยดเลือดหรือ เลือดออกเล็กน้อยราวสัปดาห์ที่ 2 ของการตั้งครรภ์ ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว เข้ามาฝังตัวกับเยื่อบุมดลูก เลือดที่ไหลออกมามักมีสีอ่อนกว่าประจำเดือนปกติ และไหลไม่นานนัก แม่ท้องอ่อนบางคนจะเป็นตะคริว เนื่องจากการขยายตัวของมดลูก

  • ลองตรวจด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์

หากคุณมีอาการเพียงหนึ่ง หรือ สองอย่างจากที่กล่าวมาข้างต้น อาจจะยากเกินไปที่จะบอกว่าเป็นอาการเริ่มต้นของการตั้งครรภ์หรือไม่ หากประจำเดือนขาดช่วง มาช้า มาไม่ปกติ ร่วมกับการมีเพศสัมพันธ์ และอาการอื่น ๆ ข้างต้น ลองซื้อชุดตรวจครรภ์มาตรวจดูด้วยตัวเองในเบื้องต้น เพราะชุดตรวจครรภ์นี้สามารถให้ผลลัพธ์ที่แน่นอนถึง 90 เปอร์เซ็นต์ และใช้กันอย่างแพร่หลาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตัวเองได้อย่างไร ?

หนึ่งในวิธีตรวจการตั้งครรภ์ที่นิยมกันอย่างมาก เพราะสามารถทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน และรู้ผลภายในเวลาไม่ถึง 10 นาที นั่นก็คือ การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ โดยใช้ชุดตรวจครรภ์ที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป

การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดตรวจครรภ์นี้ เป็นการตรวจหาฮอร์โมนการตั้งครรภ์ หรือ เอชซีจี (HCG) ในปัสสาวะ ซึ่งจะถูกหลั่งออกมาหลังจากเกิดการปฏิสนธิ และการฝังตัวของตัวอ่อนบนเยื่อบุผนังมดลูก

หากประจำเดือนมาช้า อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่การตั้งครรภ์ ดังนั้น ควรรอให้เลยรอบเดือนประมาณ 7 วัน แล้วจึงค่อยทำการตรวจในตอนเช้าก่อนรับประทานอาหาร ตรวจย้ำอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 2 – 3 วัน เพื่อผลที่แน่นอน เนื่องจากระดับฮอร์โมนตั้งครรภ์ในระยะเริ่มต้น อาจมีความผันผวน และไม่เท่ากันในแต่ละวัน

ชุดตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง มีกี่แบบ ?

ชุดตรวจครรภ์แต่ละแบบใช้วิธีการเดียวกันคือการตรวจผ่านปัสสาวะ มีหลายราคา และมีวิธีการใช้ที่แตกต่างกัน ดังนี้

  • ชุดตรวจครรภ์แบบจุ่ม วิธีการใช้ชุดตรวจครรภ์แบบจุ่มคือ การปัสสาวะใส่ถ้วย แล้วนำแผ่นทดสอบจุ่มลงไปประมาณ 3 วินาที จากนั้นรอประมาณ 5 นาที ก็จะได้ผลตรวจออกมา
  • ชุดตรวจครรภ์แบบปัสสาวะผ่าน ชุดตรวจครรภ์แบบนี้จะมีเพียงแท่งที่ใช้ในการทดสอบเท่านั้น โดยเปิดฝาครอบออก แล้วถือให้ลูกศรหันลงชี้ไปที่พื้น จากนั้นปัสสาวะผ่านในบริเวณที่ต่ำกว่าลูกศร ประมาณ 30 วินาที จากนั้นรอผลประมาณ 3 – 5 นาที
  • ชุดตรวจครรภ์แบบหยดใส่ วิธีการคือ ปัสสาวะใส่ถ้วยตวง และใช้หลอดหยดดูดปัสสาวะไปหยดลงบนตลับตรวจครรภ์ประมาณ 3 – 4 หยด และรอผลประมาณ 5 นาที

วิธีการอ่านผลตรวจจากชุดตรวจครรภ์

บนชุดตรวจครรภ์จะมีขีด C (Control line) ซึ่งหมายถึงอายุการใช้งานของชุดตรวจครรภ์ และ T (Test line) ซึ่งจะแสดงผลการตรวจพบฮอร์โมนการตั้งครรภ์ในปัสสาวะ

หลังจากการตรวจ ชุดตรวจครรภ์ที่ผ่านการใช้งาน และมีประสิทธิภาพสมบูรณ์ดี จะขึ้น 1 ขีด ที่ขีด C แสดงว่าไม่พบการตั้งครรภ์ แต่หากขึ้น 2 ขีดคือ ทั้งขีด C และ T แสดงว่ามีการตั้งครรภ์ หากไม่ขึ้นขีดใดเลย หมายความว่าชุดตรวจครรภ์อาจเสีย หรือมีข้อผิดพลาดในการตรวจ ต้องทำการตรวจอีกครั้ง โดยใช้ชุดตรวจครรภ์อันใหม่

อย่างไรก็ตาม ควรตรวจอย่างน้อย 2 ครั้ง และห่างกัน 2 – 3 วัน เพื่อผลที่แน่นอน


บทความอ้างอิง : mayoclinic.org , petcharavejhospital.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

อาการเริ่มแรกที่พบบ่อยเมื่อตั้งครรภ์ไตรมาสแรก

ท้องแล้ว ทำไงต่อล่ะ

คุณแม่ตั้งครรภ์ในวัย 40

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team