หน่วยงานด้านสุขภาพทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรเตือนแม่บ้านและผู้ทำอาหารทั้งหลายให้งดการล้างไก่ดิบ โดยเตือนว่าน้ำล้างไก่ที่กระเซ็นออกมาอาจแพร่เชื้อโรคได้ไกลถึงเกือบเมตร
ข้อมูลจาก FDA หรือ สำนักคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริการะบุว่าการล้างไก่ดิบรวมถึงสัตว์ปีกที่ดิบชนิดอื่น ๆ ทำให้เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคที่ชื่อว่า campylobacter ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการลำไส้อักเสบ อาการท้องเสียอย่างหนัก และอาเจียน ได้ ในกรณีที่ส่งผลรุนแรงก็อาจทำให้เกิดภาวะลำไส้แปรปรวน โรคไขข้อ ไปจนถึง กลุ่มอาการกิลแลง-บาร์เร (กลุ่มอาการที่เกิดจากการอักเสบเฉียบพลันของเส้นประสาทหลายเส้นพร้อม ๆ กัน) ด้วยเช่นกัน
องค์การป้องกันและควบคุมโรคแห่งสหรัฐอเมริการายงานว่าเชื้อแบคทีเรีย campylobacter ทำให้ผู้คนในสหรัฐอเมริกากว่า 1.3 ล้านคนล้มป่วยต่อปี แม้อาจไม่ถึงตายเสมอไป แต่ก็ทำให้มีผู้คนเสียชีวิตเฉลี่ยถึงปีละ 76 คน
การล้างไก่ดิบหรือสัตว์ปีกชนิดอื่น ๆ จะทำให้แบคทีเรียกระจายไปทั่วผ่านน้ำและหยดน้ำ โดยน้ำที่ล้างไก่มักจะเปื้อนติดมือผู้ล้างอยู่แล้ว รวมไปถึงเปียกติดพื้นบ้าน เสื้อผ้า และอุปกรณ์ทำอาหารอื่น ๆ ด้วย
สิ่งที่ FDA แนะนำ คือ
1. อย่าล้างไก่ดิบและปรุงอาหารให้สุกเพื่อฆ่าเชื้อโรค
การทำไก่ให้สุกจะช่วยฆ่าแบคทีเรียและเชื้อโรคได้ นอกจากนี้การไม่ล้างไก่ดิบยังช่วยป้องกันไม่ให้แบคทีเรียและเชื้อโรคแพร่กระจายผ่านน้ำด้วย
ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิในการทำอาหาร (meat thermometer) วัดอุณหภูมิของเนื้อที่ปรุง เนื้อไก่และสัตว์ปีกอื่น ๆ โดยต้องมีอุณหภูมิมากกว่า 75 องศาเซลเซียสทั่วตัว เพื่อให้แน่ใจว่าเชื้อโรคตายหมดแล้ว
2. ล้างและทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกอย่าง
FDA แนะนำให้คุณล้างมือด้วยน้ำอุ่นและสบู่ก่อนและหลังจับอาหารใด ๆ นอกจากนี้ควรล้างอุปกรณ์และสิ่งต่าง ๆ รอบตัวก่อนและหลังเตรียมอาหารด้วย เช่น ล้างจาน อุปกรณ์ครัว และโต๊ะที่ใช้วางอาหาร
3. ไม่ใช้เขียงไม้กับเนื้อสัตว์ดิบ
ไม่ควรใช้เขียงไม้เพื่อรองการหั่นเนื้อสัตว์ดิบเพราะเชื้อโรคอาจยังติดอยู่กับเขียงแม้คุณคิดว่าล้างสะอาดแล้ว ควรเลือกใช้เขียงที่ทำจากแก้วแทน
4. อย่าวางไก่ดิบไว้ใกล้อาหารชนิดอื่น
อย่าวางไก่ดิบไว้ใกล้อาหารชนิดอื่น เช่น ผลไม้ และผัก ( หรืออย่าวางไว้บนพื้นที่เดียวกัน) หากต้องการฆ่าเชื้อโรคให้ล้างบริเวณที่คุณวางไก่ดิบด้วยน้ำยาทำความสะอาดครัวและน้ำทันที และถ้าอยากให้สะอาดกว่านั้นก็ใช้น้ำส้มสายชูตามด้วยไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรคก็ได้
5. นำอาหารเก็บเข้าตู้เย็น
นำอาหารหรืออาหารที่เหลือเข้าตู้เย็นเก็บเข้าตู้เย็นภายในสองชั่วโมง ไม่เช่นนั้นเชื้อโรคจะเติบโตต่อไปได้
ที่มา https://www.rodalenews.com