กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เลื่อนเปิดเทอม เป็น 1 ก.ค.
เนื่องจากสถานการณ์กระแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ทำให้ส่งผลกระทบต่ออะไรหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเรื่องงานของคุณพ่อคุณแม่ และถ้ายิ่งบ้านไหนมีลูก ตอนนี้โรงเรียนปิด ก็ต้องมีภาระเลี้ยงลูกอีก ล่าสุด กระทรวงศึกษาธิการเสนอ เลื่อนเปิดเทอม เป็น 1 ก.ค. 2563 พ่อแม่เตรียมเหนื่อยเพิ่มได้เลย
เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2563 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตร และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ในเรื่องการเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563
รายงานข่าวแจ้งว่า เดิมทีแล้ว ได้โรงเรียน ได้กำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 ไว้ในวันที่ 16 พฤษภาคม 2563 แต่เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาด ของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) ที่ยังคงแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง อาจไม่ปลอดภัยที่จะปล่อยให้เด็ก ๆ ไปโรงเรียน พบปะผู้คนเป็นจำนวนมาก
กระทรวงศึกษาธิการ จึงเสนอต่อคณะรัฐมนตรี ให้พิจารณาการเปิด ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 ของนักเรียนสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จากเดิมช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ไปเป็นวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม จะเปิดรับสมัครสอบนักเรียนในระดับชั้น ป.1 ม.1 และม.4 ทั่วประเทศ จากนั้นในเดือนมิถุนายน จะดำเนินการจัดสถานที่สอบ ก่อนจะเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2563
และเพื่อไม่ให้เป็นการกระทบต่อการเรียนการสอน หลังจากที่ต้องเลื่อนเปิดเทอมออกไป นานถึง 1 เดือนครึ่ง ทำให้อาจจะไม่มีปิดเทอม ในช่วงเดือนตุลาคม เหมือนปกติในปีก่อน ๆ ที่มีปิดเทอมเล็กอยู่เป็นประจำ
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ อาจมีการปรับวิธีการเรียนการสอน ถ้าหากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ยังไม่ดีขึ้น อาจมีการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ให้สอดคล้องกับหลักสูตร ในแต่ละระดับชั้นการศึกษาของนักเรียน
โดยที่เบื้องต้น จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ กลุ่มนักเรียนระดับชั้นที่ ต่ำกว่า ป.6 จะสอนทางเดียว ส่วนกลุ่มนักเรียนระดับชั้น ม.1 ขึ้นไป จะสอนในรูปแบบ 2 ทาง โดยทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์ และตัวครูผู้สอนด้วย
นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ระบุว่า นายกรัฐมนตรี ได้ย้ำให้มีการปรับตัว และต้องวางแผน เพราะการศึกษาหยุดรอไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ในเรื่องการเรียนการสอน
พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร กับการเลื่อนเปิดเทอมของลูก
การเลื่อนเปิดเทอมของลูก ๆ น่าจะส่งผลกระทบต่อคุณพ่อคุณแม่ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานไปด้วย เลี้ยงลูกไปด้วย เนื่องจากงานตัวเองก็ยังต้องทำ บางคนอาจจะได้ work from home แล้ว แต่แน่นอนว่านั่นก็หมายความว่า ยังต้องทำงานเหมือนเดิม จำนวนงานเท่าเดิม บวกกับภาระที่ต้องดูแลเจ้าเด็กแสบในบ้านด้วย
นี่จึงถือเป็นอีกสิ่งที่ท้าทายคุณพ่อคุณแม่ ที่ต้องอยู่ดูแลลูกที่บ้านต่อไป ในระหว่างที่ลูกยังปิดเทอมอยู่ โดยไม่ให้กระต่องานของคุณพ่อคุณแม่ด้วย ดังนั้น เราจึงมีวิธีการปฏิบัติตัวของคุณพ่อคุณแม่ ให้แต่ละบ้านนำไปปรับใช้กันได้
- การพูดคุยสื่อสารกับลูก
เด็ก ๆ อาจจะไม่เข้าใจคำว่า work from home มากนัก ดังนั้นการพูดคุยสื่อสารกับลูก ถือเป็นเรื่องสำคัญ ต้องอธิบายให้พวกเขาเข้าใจว่า คุณมีงานที่ต้องทำเหมือนเดิม เวลาไหนคือเวลางาน เวลาไหนคือเวลาเล่น เพื่อไม่ให้กระทบงานของคุณพ่อคุณแม่
- วางแผนจัดตารางชีวิต
การวางแผน จัดตารางชีวิตให้ดี ถือเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าหากอยู่บ้านแล้ว แน่นอนว่างานบ้าน ทำกับข้าวให้ลูก พาลูกกินข้าว เป็นสิ่งที่ยังต้องทำ การดูแลลูกเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้ และการเป็นพ่อเป็นแม่ เหมือนเป็นงานที่ต้องทำตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องจัดตารางเวลาให้ดี เพื่อไม่ให้กระทบทุกอย่างจนพังหมด
- วางแผนเรื่องลูกด้วย
ถ้าหากลูกของคุณ กำลังอยู่ในช่วงที่ต้องสอบ ต้องศึกษาต่อ นี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลย ต้องติดต่อข่าวอยู่เสมอ ในเรื่องการประกาศรับสมัครเข้าศึกษาต่อ วันสอบ สถานที่สอบ รวมไปถึงก็ต้องดูแลในเรื่องความสะอาด ป้องกันการเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ด้วย
- ถ้าไม่ไหว ให้ฝากญาติผู้ใหญ่เลี้ยง
สำหรับคุณพ่อคุณแม่บ้านไหน ที่ยุ่งจนรับมือไม่ไหวจริง ๆ หรือถ้าหากใครยังต้องออกไปทำงานนอกบ้านปกติ ไม่ได้อยู่บ้าน work from home แล้วลูกยังไม่เปิดเทอม ทีนี้ใครจะเลี้ยงลูกล่ะ การฝากญาติผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้เลี้ยง ถือเป็นทางออกอีกทาง ที่สามารถช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ ผ่านวิกฤติในช่วงนี้ไปได้
ที่มา : www.matichon.co.th www.tnnthailand.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
120 ไอเดีย ชื่อเล่นลูก ตามตัวละครดิสนีย์ 2020 ตั้งชื่อลูกน่ารัก ๆ ตามการ์ตูนดัง
5 ข้อดีของการ ปล่อยทารกเล่นคนเดียว ลูกเล่นคนเดียว พัฒนาการทางสมอง
ตาแดงเป็นอาการCovid-19 อาการตาแดง ก็อาจจะบอกว่าคุณเป็นโควิดได้