คนเป็นพ่อ มีมุมมองอย่างไร คุณพ่อมือใหม่ รู้สึกอย่างไรเมื่อได้กลายเป็นพ่อ

คนเป็นพ่อ มีมุมมองอย่างไร คุณพ่อมือใหม่ รู้สึกอย่างไรกันนะ

คนเป็นพ่อ รู้สึกอย่างไรเมื่อมีลูกครั้งแรก ต้องรับมืออย่างไร หรือ จะตื่นเต้นดีใจขนาดไหน ลองมาฟังคุณพ่อท่านนี้กันดูนะคะ

ผมเคยบอกตัวเองเสมอว่าผมอยากมีลูกตอนอายุ 35 ปี เพราะผมจะได้สนุกกับอิสรภาพไร้ภาระผูกมัดก่อนที่จะตัดสินใจอุทิศชีวิตเพื่อครอบครัว ผมสัญญากับตัวเองไว้ตอนอายุประมาณ 17 ปีกว่า ตอนนั้นผมคิดว่าผมมีเวลาเหลือตั้งเยอะจะได้เต็มที่กับชีวิตให้หนำใจ แต่แล้วเวลาก็ผ่านไปอย่างไวเหมือนโกหก ตอนนี้ผมอายุ 38 ปี ภรรยาผมอายุ 27 ปี เราเพิ่งจะมีลูกสาวด้วยกันคนหนึ่ง ไม่อยากจะอวดครับว่าลูกสาวผมน่ารักมากเพราะว่าลูกหน้าตาเหมือนผมเลย ที่จริงผมอยากจะมีลูกชายคนแรกแต่ตอนนี้ผมว่ามีลูกสาวคนแรกนี่เหมาะสมกับสถานการณ์ของครอบครัวเราที่สุดแล้วครับ

ภรรยาผมผ่าคลอดลูกสาวของเราเนื่องจากเธอมีเชิงกรานที่เล็ก ลูกกลับหัวแล้วแต่ไม่สามารถลงมาถึงปากช่องคลอดได้ ภรรยาผมก็เหมือนกับคุณแม่ท่านอื่น ๆ ที่อยากจะคลอดธรรมชาติ เมื่อพูดถึงการผ่าคลอดกระบวนการทุกอย่างมันผ่านไปเร็วมากครับ ผมรู้สึกเสียดายที่ไม่อยู่เคียงข้างภรรยาตลอดกระบวนการผ่าคลอด

ผมเองก็รู้ครับว่าภรรยาของผมเสียใจมากเพราะเธออยากได้กำลังใจ เธอไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างเพราะนี่คือลูกคนแรก เลยทำให้เธอรู้สึกว่าเธอต้องผ่าฟันทุกอย่างไปคนเดียว ทีมแพทย์เรียกผมเข้าไปตอนที่กำลังจะดึงลูกออกมาจากท้องของภรรยาผม พอพยาบาลพาลูกไปอาบน้ำเขาก็เชิญให้ผมออกจากห้องผ่าตัดทันที คงจะดีกว่านี้นะถ้าผมได้อยู่กุมมือภรรยาตลอดการผ่าตัด ภรรยาผมคงกังวลมากไม่รู้ว่าหมอกำลังทำอะไรบ้างเพราะมีผ้าเป็นฉากกั้นไม่ให้เธอมองเห็นกระบวนการผ่าตัด เธอเพียงแค่รู้สึกว่าโดนกดโดนดึง ผมสังเกตว่าเธอก็เจ็บแม้ว่าจะบล็อกหลังก็ตาม เวลาที่ทีมแพทย์ดึงลูกออกมาผมว่ามันสยองครับเหมือนกับว่าหัวลูกจะหลุดออกมาอย่างไงอย่างนั้น สงสัยว่าคุณพระรักษาเธอเลยออกมาอย่างปลอดภัย

พยาบาลอุ้มลูกที่มีเหมือกคลุมตัวมาแล้วค่อยตัดสายสะดือ ช่วงนี้ผมเห็นทุกขั้นตอนแล้วครับแต่ภรรยาผมอยู่ในจุดที่มองไม่เห็นอะไรเลยจากฉากที่กั้นอยู่ช่วงอกของเธอ ผมเห็นสีหน้าที่กังวลของภรรยาผม เพราะเธอไม่รู้จะคาดหวังอะไร เธอคงกลัวว่าลูกจะออกมามีสองหัวอะไรประมาณนั้น เธอได้ยินเสียงแหลม ๆ ของลูกร้องออกมาแล้วก็เงียบไปแต่เธอยังไม่เห็นลูกนะครับ ตอนที่ตัดสายสะดือแล้วพยาบาลก็อุ้มลูกมาให้ดู ลูกไม่ร้องเลยครับแต่ดิ้นนิดหน่อย ลูกที่อยู่ตรงหน้าของเราทั้งสองคนเป็นสิ่งมหัศจรรย์เล็ก ๆ ดิ้นได้แต่เป็นที่สุดของที่สุดเท่าที่เราเคยพบมา

ตอนนั้นต้องบอกว่าผมจุกที่คอหอยเลยครับพอลูกร้องเสียงแหลมขึ้นมาอีกครั้งผมรู้สึกมีความสุขที่สุดที่ผมได้สัมผัสกับความเป็นพ่อ ส่วนภรรยาผมก็มีน้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาที่แก้มเพราะในที่สุดวันที่เธอรอคอยมาตลอด 9 เดือนก็มาถึง วันที่เธอได้พบลูกที่อยู่ในท้อง อยากรู้ใช่ไหมครับว่าแว็บแรกที่ผมเห็นหน้าลูกผมคิดอะไร ผมคิดว่า “ทำไมลูกถึงหน้าสงสารอย่างนี้นะ เป็นเวรเป็นกรรมอะไรที่ลูกหน้าตาเหมือนผมเป๊ะเลย”

ติดตามอ่านมุมมองของคนเป็นพ่อหน้าถัดไป

ผมอยากบอกว่าการเป็นพ่อคือสิ่งที่วิเศษที่สุดที่ผมเคยทำ เวลาอยู่กับลูกมันมีแต่ความสุข ตอนนี้เจ้าตัวน้อยของผมจะ 5 เดือนแล้วครับ ผมต้องทำงานไกลบ้านเป็นเวลานานพอสมควรเลยทำให้ผมเห็นความแตกต่างทุกครั้งที่เห็นลูก เริ่มที่ขาของลูกนะครับตอนแรกก็เหมือนน่องไก่ติดสะโพก แต่ตอนนี้เหรอครับเหมือนน่องไก่งวงติดสะโพกเลย ลูกตัวใหญ่ขึ้น มีผมเยอะขึ้น มีพุงใหญ่ขึ้นเริ่มมีเค้าพุงแบบผมแล้ว ลูกคล้ายผม มีแก้มยุ้ยเหมือนผม คาง 2 ชั้น ยิ่งเวลาคางของลูกห้อยมาอยู่บนอกลูก แก้มและคางที่ห้อยนี่ใหญ่กว่าหัวลูกอีกครับ แต่ลูกได้ตาแบบตี่ ๆ ของแม่ ผมอยากบอกว่าลูกผมนักรักเว่อร์

ผมเป็นคนออสเตรเลียครับ ภรรยาผมเป็นคนไทยเลยมีเรื่องวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเยอะทีเดียว ผมหวังว่าความแตกต่างของเราจะไม่ทำให้ลูกสับสน ผมหวังว่าลูกจะเลือกเอาแต่สิ่งดี ๆ ของทั้ง 2 วัฒนธรรมนี้ไปใช้และปรับตัวให้เข้ากับบริบทได้อย่างเหมาะสม แต่อย่างไรก็ตามลูกก็ยังคงเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ๆ ในสายตาของผมตลอดไป

ทุกวันนี้ผมคิดถึงแต่ภรรยาและลูก ไม่รู้ว่าจะเหนื่อยไหมเพราะว่าผมไม่ได้อยู่ช่วยเลี้ยงลูก ใจจริงอยากอยู่ใกล้ ๆ  เพื่อช่วยดูลูก แต่ตอนที่ผมเขียนเรื่องนี้ผมอยู่ในป่าแถบกะลิมันตรันตะวันออก บนเกาะบอร์เนียว เหลืออีกตั้ง  3 สัปดาห์กว่าผมจะได้กลับบ้านไปหาผู้หญิง 2 คนที่ผมรัก ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดถึง แต่โชคดีครับที่ครอบครัวของเธอคอยดูแลและช่วยดูแลลูก ช่วยให้ภรรยาผมได้พักบ้าง ที่สำคัญยังได้กลับไปทำงานเร็วกว่าที่เราคิดกันไว้อีกด้วย

ทีนี้คุณพ่อมือใหม่แต่ละคนอาจจะมีการรับมือที่แตกต่างกันออกไป เรามีคำแนะนำเล็กๆน้อยมาให้คุณพ่อได้ลองอ่านแล้วเตรียมตัวนำไปปรับใช้กันดูนะคะ

คุณพ่อเกือบทุกคนคงอยากเข้าไปให้กำลังใจคุณแม่ และรอคอยที่จะได้เห็นหน้าลูกน้อย หลังคุณแม่คลอดน้องทันที แต่กฎและข้อห้ามของการเข้าห้องคลอดนั้นมีหลายอย่าง คุณพ่อควรเตรียมตัวศึกษาให้ดีก่อนนะคะ เรียกได้ว่า ต้องเตรียมพร้อมทั้งกายและใจเลยค่ะ

1. ทำจิตใจให้สงบ

เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญเลยนะคะ ห้ามตื่นตระหนก ทำจิตใจให้สงบ นิ่งไว้ค่ะคุณพ่อ เนื่องจากคุณแม่อาจจะมีความกลัวในจิตใจอยู่แล้วไม่มากก็น้อย ถ้าเราตื่นเต้นและตกใจไปอีกคน คุณแม่อาจจะกดดันได้นะคะ

2. ศึกษาเรื่องการคลอดแบบต่างๆ ทั้งวิธีธรรมชาติ และ การผ่าคลอด

หากเรามีความรู้ในเบื้องต้นแล้วไม่มากก็น้อย เราจะได้เข้าใจวิธีการต่างๆของหมอและพยาบาล อาจเป็นประโยชน์มากขึ้นหากเราวางตำแหน่งการยืนและนั่งอย่างเหมาะสม ช่วยให้หมอและพยาบาลทำงานได้สะดวกขึ้น และเราก็จะไม่มีความตื่นตระหนกหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นนะคะ

เรื่องแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน อะไรที่คุณพ่อสามารถทำได้ก็ควรทำ อย่างเช่น การขอคุณหมอตัดสายสะดือให้ลูกเอง หรือฝากพี่พยาบาลถ่ายรูปให้เป็นครั้งคราว หรือคุณพ่อจะอัดวีดีโอด้วยตนเองเลยก็ได้นะคะ แต่ถ้าคุณพ่อไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในห้องคลอด ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง คุณก็ควรจะให้หมอและพยาบาล แจ้งความคืบหน้าในการรอคลอดเป็นระยะ

เมื่อลูกน้อยคลอดออกมาแล้ว หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่คุณพ่ออย่างสมบูรณ์แล้วนะคะ
แล้วหลังจากลูกคลอดแล้ว คุณพ่อควรทำตัวอย่างไรดีนะ..

1.วันแรกควรให้ภรรยาได้พักผ่อนมากที่สุด

พยายามให้คุณแม่ได้พักผ่อนให้มากที่สุดสำหรับวันแรก พยายามกันคนที่จะเข้ามาเยี่ยมให้น้อยที่สุด เพราะลูกและแม่ต้องการ การพักผ่อนให้มากที่สุดสำหรับวันแรกที่สำคัญนี้

2.บอกญาติพี่น้องให้ทราบ

แจ้งญาติสนิทให้ทราบก่อน ว่าเด็กคลอดแล้วนะ เพราะพวกเขาจะดีใจและตื่นเต้นไม่แพ้ตัวคุณเลย

3.ปล่อยให้คุณยายได้ดูแลภรรยาของคุณ

ให้เวลากับคุณยายได้ดูแล ภรรยาของคุณ นี่เป็นช่วงสำคัญมาก คุณสามารถดูแลลูกได้ ส่วนภรรยาให้คุณยายเป็นคนดูแล มันเป็นการผูกสัมพันธ์ที่ดี เป็นช่วงเวลากระชับความสัมพันธ์ของแม่ลูกให้แนบแน่นขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง

4.อย่าให้เด็กคนอื่นมาสัมผัสกับทารกตอนนี้

อย่าปล่อยให้เด็กวัยหัดเดิน หรือเด็กวัยเรียนได้เข้าใกล้หรือสัมผัสลูกแรกคลอดของคุณ ไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หรือ ลูกพี่ลูกน้อยที่สนิทกัน อย่าให้เด็ก ๆ ได้สัมผัสกันจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เด็กวัยหัดเดิน หรือ เด็กวัยอนุบาลเป็นเด็กที่ เสี่ยงนำเชื้อโรคต่าง ๆ มาติดเด็กแรกคลอดมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

5.หาเวลาพักผ่อนเอาแรงบ้าง

เมื่อมีเวลา คุณพ่อควรพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะคุณต้องมีเวลา และ แรงกายเพื่อดูแลคุณแม่และลูกแรกคลอดไปอีกหลายสัปดาห์ กว่าคุณแม่จะช่วยเหลือตัวเองได้ทุกอย่าง

6.ทำหน้าที่ตากล้องมืออาชีพ

ภาพถ่ายและวีดีโอต่าง ๆ ต้องบันทึกเก็บไว้อย่าให้ขาด แต่เชื่อว่าคุณพ่อมือใหม่คงจะถ่ายรูปลูกอยู่ตลอดเวลาแน่ ๆ ถ่ายแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่า

The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

ที่มา : แม่รักลูก

บทความที่เกี่ยวข้อง :

คุณพ่อมือใหม่ ต้องรู้! วิธีเลี้ยงลูกยังไงให้รอด พร้อมคู่มือเลี้ยงลูกแบบพ่อมือโปร

หนูรู้พ่อทำได้! แชร์ประสบการณ์คุณพ่อมือใหม่ เป็นกำลังใจให้คุณพ่อทุกคน

สะกิดสามีให้อ่าน เตรียมตัวเป็นพ่อคน สิ่งที่หมออยากบอกคุณพ่อมือใหม่