ตั้งสติ
สิ่งแรกที่คุณแม่ควรทำคือทำใจปล่อยเขาไปค่ะ รู้ว่ามันทั้งยาก ทั้งเจ็บ และทรมาน แต่ถ้าคนมันจะไปรั้งอย่างไรก็ไม่ไม่อยู่ ก็ต้องปล่อย ต่อมาคือตั้งสติค่ะ อย่าพยายามตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราผิดตรงไหน เราไม่ดีอย่างไร หรือทำไมเขาทำกับเราอย่างนี้ เราจะไม่ได้คำตอบอะไรเลยเพราะคนที่รู้เหตุผลทั้งหมดเขาไม่อยู่ให้คำตอบ ไม่มีประโยชน์ที่จะถามคำถามที่ไม่มีวันได้คำตอบ หรือบางทีคำตอบที่ได้อาจทำให้ช้ำหนัก แสบไปถึงทรวงยิ่งกว่าเดิมเพราะฉะนั้นไม่ต้องรู้เลยน่าจะดีกว่า
ดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน อยู่กับลูกในท้อง และต้องพยายามเข้มแข็งขึ้น กลับมาดูแลของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตของเราให้ดี นั้นก็คือลูกในท้อง เศร้าเสียใจได้ ร้องไห้ได้แต่คุณแม่ต้องกลับมาตั้งหลักให้เร็วที่สุดเพื่อลูกในท้อง ดูแลเขาให้ดีทั้งพัฒนาการทางด้านร่างกายและจิตใจนับถอยรักรอวันเห็นหน้าลูกดีกว่าค่ะ
พึ่งที่ปรึกษา
ผู้ชายที่เราเคยคิดว่ารักเราที่สุด กลับกลายเป็นคนทรยศหักหลังทิ้งเราให้เผชิญกับความอับอาย อยู่ดีๆก็มาหมดรักกันดื้อๆ และสร้างความทุกข์ใจแสนสาหัสให้กลับเรา หลังจากดึงสติกลับมาได้แล้วคุณแม่ก็คงทราบดีว่ายังมีคนที่รักไม่เคยคิดทรยศและไม่มีแม้สักวันที่จะหยุดรักคุณ นั้นก็คือคุณพ่อคุณแม่และคนในครอบครัวที่ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไร ก็ยังเป็นลูกสาวตัวน้อยของท่านเสมอไม่ใช่เรื่องหน้าอับอายเลยถ้าเราจะล้มเหลวในการสร้างครอบครัว
คุณพ่อคุณแม่ยังอยู่ การที่ลูกกลับไปขอที่พักพิงก็ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรือเสียศักดิ์ศรีอะไร ในวันที่เราทุกข์ใจที่สุดคุณพ่อคุณแม่ก็พร้อมที่จะให้คำปรึกษาและดูแลจนกว่าเราจะตั้งหลักในชีวิตได้ หากพ่อแม่อยู่ไกลหรือไม่อยากให้ท่านทุกข์ใจไปกับเราก็ควรขอคำปรึกษาจากผู้ใหญ่ที่เราให้ความนับถือไม่ว่าจะเป็นครู อาจารย์หรือพ่อแม่ของเพื่อนสนิทที่เรานับถือ
อย่าเก็บปัญหาไว้กับตัว อย่าคิดสั้น อย่าคิดทำแท้ง เพราะคนเราเกิดมามีโอกาสทำผิดพลาดได้ทุกคน ครั้งนี้เราพลาดก็ถือเสียว่าเป็นบทเรียนเตือนใจตัวเองเพื่อวันข้างหน้าจะได้ไม่ทำผิดซ้ำรอยเดิม และยังมีตัวอย่างให้ลูกดูเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้ลูกและตัวคุณเอาชีวิตรอดบนโลกที่แสนโหดร้ายใบนี้ได้อย่างเข้มแข็งและสง่าผ่าเผยต่อไป
ศึกษากฎหมาย
ท้องแล้วถูกทิ้ง ใช้กฎหมายเอาผิดกับฝ่ายชายได้หรือไม่ หากมโนธรรมในใจเขาไม่มีก็ต้องพึ่งกฎหมายแล้วค่ะ
ในกรณีที่เราเป็นคุณแม่วัยใส
- ต้องให้ผู้ปกครองไปแจ้งความดำเนินคดีข้อหาพรากผู้เยาว์กับฝ่ายชายที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน แต่หากเราคิดว่าแจ้งความไม่ได้เพราะเราสมยอม ก็ให้คิดใหม่ค่ะ เพราะการพรากผู้เยาว์แม้ว่าจะไม่เกิดการร่วมเพศกันเลย แต่ฝ่ายชายพาเราไปโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติจากพ่อแม่ของฝ่ายหญิงก็ถือว่าเป็นการพรากผู้เยาว์แล้ว ในกรณีที่พาไปแล้วเกิดมีอะไรกันฝ่ายชายก็ได้ข้อหาเพิ่มคือ กระทำอนาจารเพิ่มอีก 1คดี ซึ่งทั้ง 2 คดีถือเป็นคดีอาญา ยอมความไม่ได้ มีโทษจำคุก 2-10 ปี แต่การแจ้งความข้อหาพรากผู้เยาว์จะต้องทำภายใน 3 เดือนหลังจากที่ถูกพรากไปหรือผู้เสียหายทราบถึงเรื่องนะคะ
- หากต้องการให้ฝ่ายชายรับรองบุตร และส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรให้ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าฝ่ายหญิงอายุไม่เกิน18 ปี ให้ผู้ปกครองของฝ่ายหญิงไปฟ้องเป็นคดีแพ่งที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางในพื้นที่ที่เด็กมีทะเบียนบ้านอยู่ โดยศาลจะสั่งให้ตรวจ DNAหากพิสูจน์แล้วว่าเป็นพ่อลูกกันจริง ศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้เด็กเป็นบุตรตามกฎหมายของฝ่ายชาย และให้ฝ่ายชายต้องส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรด้วย หากฝ่ายชายไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตรตามคำพิพากษา ฝ่ายหญิงสามารถตั้งเรื่องบังคับคดี เพื่ออายัดเงินเดือน หรือนำทรัพย์สินของฝ่ายชายขายทอดตลาดได้
- ในกรณีที่ฝ่ายชายต้องการรับผิดชอบโดยการแต่งงานแต่ฝ่ายหญิงอายุไม่เกิน 17ปี ศาลสามารถออกคำสั่งให้แต่งงานกันได้อย่างถูกกฎหมาย
ในกรณีที่แม่ท้องอายุเกิน 18 ปี เมื่อท้องแล้วถูกสามีทิ้งต้องการดำเนินคดีทางกฎหมายเพื่อให้ได้ค่าเลี้ยงดูบุตรทำได้โดย
- ข้ามขั้นตอนการแจ้งความที่สถานีตำรวจได้เลย และไปยื่นคำรองด้วยตัวเองได้ที่ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางให้ฝ่ายชายรับรองบุตร และส่งเสียค่าเลี้ยงดู ไม่ต้องใช้ใบแจ้งความจากตำรวจ
- เมื่อพิสูจน์ได้ว่าฝ่ายชายเป็นพ่อของเด็กจริง ศาลจะมีคำสั่งหรือคำพิพากษาให้เด็กเป็นบุตรตามกฎหมายของฝ่ายชาย และให้ฝ่ายชายต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูบุตร หากต่อมาภายหลังมีคำพิพากษาแล้วฝ่ายชายไม่ส่งเสียค่าเลี้ยงดูบุตร แม่เด็กสามารถตั้งเรื่องบังคับคดีเพื่ออายัดเงินเดือน หรือนำทรัพย์สินของฝ่ายชายขายทอดตลาดได้
ข้อควรรู้ในส่วนของการแจ้งเกิดและรับรองบุตรในกรณีไม่มีสามี
- คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสามารถเว้นในช่องชื่อบิดาผู้ให้กำเนิดเด็กในใบเกิดได้
- ลูกที่เกิดจากพ่อแม่ที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส อำนาจสิทธิขาดหรือการปกครองในตัวลูกอยู่ที่แม่ 100%
- ในกรณีที่พ่อแม่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แล้วพ่อยอมให้ลูกใช้นามสกุลไม่ได้หมายความว่าเป็นการรับรองบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- ในกรณีที่พ่อต้องการรับรองบุตรต้องรอให้เด็กโตจนพูดรู้เรื่องและยอมรับคนคนนั้นเป็นพ่อด้วยวาจาและลงชื่อต่อหน้าเจ้าหน้าที่พ่อจึงสามารถเซ็นต์ชื่อรับรองบุตรได้ ในกรณีเด็กแรกเกิดหรือไม่สามารถให้ถ้อยคำและลงชื่อยินยอมได้ ต้องให้ศาลมีคำสั่งเท่านั้น
- ก่อนคุณพ่อเซ็นต์รับรองบุตร หากคุณแม่ไม่อยากเสียอำนาจการดูแลหรือปกครองลูก สามารถจดรายละเอียดเกี่ยวกับอำนาจการปกครองบุตร เพื่อให้แม่มีสิทธิ์ปกครองบุตรแต่เพียงผู้เดียวได้ และให้ฝ่ายชายมีหน้าที่ต้องส่งเสียเลี้ยงดูบุตรร่วมกัน
พี่งบ้านพักฉุกเฉิน
ปัญหาการตั้งท้องในวัยเรียนและปัญหาแม่วัยใสในประเทศไทยกลายเป็นปัญหาอันดับต้นๆของโลกและเป็นอันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงทำให้ภาครัฐและเอกชนหันมาตระหนักและให้ความสนใจในการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจึงมีโครงการบ้านฉุกเฉิน ของสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีในพระอุปถัมภ์ พระเจ้าวรวงค์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาธินัดดามาตุ เพื่อเป็นที่พึ่งให้กับแม่วัยใสที่ไร้ที่พึ่ง
หากคุณแม่วัยใสมีการท้องไม่พร้อม และครอบครัวปฏิเสธการยอมรับ สามีไม่เหลียวแกก็อย่าพึ่งหมดความหวังนะคะเพราะสามารถมาขอที่พึ่งที่บ้านฉุกเฉินได้ ที่นี่มีโครงการเพิ่มต้นทุนให้แม่วัยใส เอื้อให้แม่วัยใสได้มีโอกาสเรียนหนังสือต่อและสามารถเลี้ยงลูกได้ไปพร้อมกัน ให้ที่พักอาศัย ให้ความช่วยเหลือโดยมีเงื่อนไขในเรื่องการศึกษาและดูแลลูกด้วยตัวเองซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดทางสมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรีฯเป็นคนดูแลให้ทั้งหมด โดยทางสมาคมจะให้ความรู้เกี่ยวกับการตั้งท้อง
เริ่มจากสร้างสายสัมพันธ์กับลูกในระหว่างท้อง ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลต้นเองทั้งก่อนคลอดและหลังคลอด รวมไปถึงการพัฒนาทักษะการใช้ชีวิต ความรู้ด้านสุขภาพทางเพศและอนามัยเจริญพันธุ์รวมถึงทักษะอาชีพที่แต่ละคนสนใจเช่นคอมพิวเตอร์ เรียนทำอาหาร หรือนวด
ไม่ใช่เฉพาะคุณแม่วัยใสเท่านั้น หากคุณแม่วัยใดต้องการความช่วยเหลือเมื่อมีปัญหาการท้องไม่พร้อม ถูกข่มขืน ถูกล่วงละเมิด ก็สามารถเข้ามาขอความช่วยเหลือได้ เจ้าหน้าที่ทุกคนพร้อมดูแลผู้เข้าขอความช่วยเหลือด้วยความบริสุทธิ์ใจพร้อมที่จะดูแล มอบความรักความอบอุ่นให้กับผู้หญิงทุกคน และทุกวัยเมื่อต้องการเข้ามาพึงบ้านที่พักใจหลังนี้เพื่อดูแลจนกว่าคุณแม่จะแข็งแรงพอ มีต้นทุนชีวิตที่เพิ่มขึ้น พร้อมดูแลลูกน้อยและเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้อย่างมั่นคง ขอคำปรึกษาจากนักสังคมสงเคราะห์และนักจิตวิทยาได้ตลอด 24 ชั่วโมง เบอร์โทรศัพท์ 0-2929-2222
โปรดอย่าลืมว่าทุกปัญหามีทางออกเสมอ ถ้าตอนนี้หนทางชีวิตดูมืดมนก็ต้องตั้งสติแล้วขอความช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้าง เชื่อว่าความมีน้ำใจยังไม่เหือดหายไปจากสังคมไทยค่ะ ช่องทางทางกฎหมายที่พอจะให้ความช่วยเหลือและความยุติธรรมต่อแม่และเด็กก็ยังมี การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมไทยอีกแล้ว แม้ว่าทางแก้ที่มีจะลำบากไปบ้าง แต่เมื่อเรื่องเลวร้ายผ่านไปลูกลืมตามาดูโลก ในวันที่ลูกเรียกแม่ครั้งแรกเชื่อว่าวันนั้นจะเป็นวันที่คุณจะมีความสุขที่สุดวันหนึ่ง
อย่าเพิ่งคิดทำแท้ง นอกจากจะเป็นการทำบาปแล้วยังอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตต่อคุณแม่เองได้ เพื่อไม่ให้เกิดการท้องไม่พร้อม ท้องไม่พึงประสงค์หรืออะไรก็แล้วแต่การวางแผนครอบครัวและการคุมกำเนิดจึงสำคัญและเป็นการแก้ปัญหาที่ถูกวิธีที่สุด หากยังไม่พร้อมรับผิดชอบชีวิตเด็กคนหนึ่ง ก็หันมาป้องกัน ซื้อยาคุมกำเนิด หรือใช้ถุงยางอนามัยเสียเงินน้อยว่าค่าคลอดลูก ค่าเลี้ยงดูลูกแน่นอนค่ะ
แหล่งข้อมูล
นายปารย์พิรัชย์ จันทรังษี ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย
https://www.apsw-thailand.org/index.htm
https://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9480000158349
https://www.apsw-thailand.org/Article%20t4.html