อยากได้คอนโดฯ ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง อย่าลืมดู 10 ข้อนี้

หลายคนที่กำลังคิดจะซื้อคอนโดมิเนียม อันดับแรกมักจะเริ่มต้นด้วยการสืบค้นข้อมูลจากแหล่งต่างๆ เช่น การอ่านรีวิว ถามคนรู้จักหรือคนที่มีประสบการณ์ในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย รวมถึงการเข้าไปดูโครงการด้วยตนเอง ถึงแม้ว่าจะศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่แตกต่างกัน แต่เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่คนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยทุกคนย่อมต้องนั้น คือ “ความเป็นส่วนตัว”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อยากได้คอนโดฯ ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง อย่าลืมดู 10 ข้อนี้

หลายต่อหลายครั้งเรามักจะเห็นคำว่า “มีความเป็นส่วนตัวสูง” อยู่ในบทความโฆษณาของโครงการ ข้อมูลจากรีวิวโครงการคอนโดฯ หรือจากปากเซลล์โครงการที่กำลังเชื้อเชิญให้ซื้อ แต่กลายเป็นว่าเมื่อเข้าไปอยู่อาศัยจริงกลับไม่ได้รับความเป็นส่วนตัวอย่างที่โฆษณาเลย จนต้องกลับมาถามตัวเองว่าเราพลาดตรงจุดไหนไปล่ะ

ดังนั้นหากต้องการสิ่งที่ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวได้จริงๆ สิ่งที่ควรทำคือพิจารณาว่าโครงการที่คุณกำลังจะตัดสินใจซื้อหรือเช่ามีองค์ประกอบที่ดี 10 อย่างต่อไปนี้หรือไม่

 

ตั้งอยู่บนทำเลที่เงียบสงบ มีระยะห่างจากสิ่งรบกวน

หัวข้อนี้ถือเป็นหัวข้อแรกที่ต้องดูสำหรับคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยแนวคอนโดมิเนียมที่มีความเป็นส่วนตัว หลายโครงการตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพมากก็จริง แต่ด้วยความเจริญบนทำเลนั้น ทำให้พื้นที่โดยรอบโครงการประกอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ สถานบันเทิง แหล่งไลฟ์สไตล์แฮงค์เอาท์ หรือกระทั่งทำเลติดถนนที่มีรถยนต์วิ่งไปมาตลอดทั้งคืน เป็นต้น

โดยสิ่งที่จะรบกวนเรามากที่สุดก็คือ ภาวะทางเสียงแบบที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้นในแง่ของที่อยู่อาศัยคนที่มีไลฟ์สไตล์รักความเป็นส่วนตัวจึงมักเลือกโครงการที่อยู่ในซอย โดยส่วนใหญ่จะเป็นคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์

 

ยูนิตต่อชั้นที่ไม่เยอะเกินไป

เมื่อหาทำเลที่ตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัว โดยปราศจากมลภาวะภายนอกได้แล้ว สิ่งต่อไปที่ควรดูก็คือ ยูนิตต่อชั้นที่ไม่เยอะมาก โดยทั่วไปหากเป็นคอนโดมิเนียมไฮไรส์ในปัจจุบันจะมียูนิตต่อชั้นที่ประมาณไม่เกิน 30 ห้อง แล้วแต่โครงการ ซึ่งถือว่าเยอะมาก หากมองให้เห็นภาพลองนึกภาพคนเดินสวนกันไปสวนกันมาเข้าออก – ห้องตลอดเวลา อันนี้ไม่ได้เรียกว่าส่วนตัวอย่างแน่นอน แต่ทั้งนี้ก็ยังมีโครงการที่มียูนิตประมาณ 12-16 ยูนิต ในแง่ของคอนโดฯ แนวสูง ซึ่งถือว่ายังอยู่ในกรอบความเป็นส่วนตัว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ส่วนในแง่ของโลว์ไรส์ก็ยิ่งมีความเป็นส่วนตัวสูงเพราะยูนิตต่อชั้นจะน้อยกว่าคอนโดมิเนียมไฮไรส์ รวมไปถึงยูนิตรวมที่น้อยกว่าเป็นเท่าตัว

 

ทางเดินเข้ายูนิตแบบ Single Corridor

ส่วนใหญ่โครงการคอนโดมิเนียมจะถูกออกแบบมาให้มีทางเดินที่อยู่ระหว่างยูนิตทั้งสองฝั่ง (Double Corridor) หรือ เรียกว่าจะต้องเดินผ่านห้องของคนอื่นทั้งทางขวามือและซ้ายมือก่อนจะถึงห้องของเรา ซึ่งแน่นอนว่าความเป็นส่วนตัวจะน้อยกว่าทางเดินแบบที่มียูนิตเพียงฝั่งเดียว (Single Corridor) ข้อสำคัญสำหรับหัวข้อนี้ก็คือ หนึ่ง เราจะไม่ต้องเปิดประตูมาจ๊ะเอ๋! กับห้องอื่นแน่นอน สอง เสียงตบเท้าเวลาคนเดินเข้าห้องก็จะน้อยลง สาม การเดินเข้าออกห้องมีโอกาสที่จะเจอคนเดินสวนไปสวนมาหรือวุ่นวายน้อยกว่านั่นเอง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ระเบียงห้องไม่หันหน้าชนกับระเบียงยูนิตอื่น

อีกหนึ่งจุดสำคัญในเรื่องของตัวห้อง นอกจากการเลือกห้องที่มีผนังกั้นส่วนต่างๆ อย่างเป็นสัดส่วนแล้ว ระเบียงก็ถือเป็นสิ่งที่มองข้ามไม่ได้สำหรับความเป็นส่วนตัว หลายโครงการมีอาคาร A อาคาร B รวมไปถึงการออกแบบตัวอาคารที่เป็นรูปตัว U ตัว L หรือ ตัว H ก็ตาม การเลือกยูนิตที่ดีมีความเป็นส่วนตัวสูงจะต้องดูว่า เมื่อเราออกไปสู่ระเบียงห้องของเรานั้นเรามองเห็นอะไร ยิ่งถ้าไม่ชนกับระเบียงยูนิตอื่นหรือมองออกไปเป็นวิวเคลียร์ไม่ติดถนนยิ่งดี ถึงแม้การหันระเบียงไปชนกันของโครงการจะมีระยะห่างพอสมควร แต่การออกมาแล้วมองเห็นราวตากผ้าของห้องอื่นไม่น่าเป็นอะไรที่พิศมัย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ยูนิตที่พักอาศัยที่ไม่อยู่ใกล้ลิฟท์โดยสาร

ปัจจุบันหลายคนมักเลือกห้องที่มีตำแหน่งอยู่ใกล้ลิฟท์โดยสาร เรียกว่าออกจากลิฟท์มาก็สามารถเดินเข้าห้องได้เลย ในส่วนนี้สามารถตอบโจทย์ความสะดวกสบายได้ก็จริง แต่ในเรื่องของความเป็นส่วนตัวนั้นคงไม่ใช่ เพราะเนื่องจากห้องอยู่ในทำเลที่ใกล้ลิฟท์โดยสาร แน่นอนคนที่จะใช้ก็ต้องเดินผ่านห้องเรา รวมถึงมายืนรออยู่บริเวณใกล้เคียงกับห้องของเรา ไหนจะเสียงลิฟท์ขึ้น – ลง หรือ หยุดจอดที่ชั้นนั้นๆ ด้วย บางโครงการเรียกได้ว่าแอบได้ยินเสียงลิฟท์เบาๆ ตอนนอนเลยก็ว่าได้

 

ลิฟท์โดยสารที่พอเพียงต่อยูนิตที่พักอาศัย

ค่าเฉลี่ยของลิฟท์โดยสารอยู่ที่ประมาณ 100 ยูนิตต่อลิฟท์หนึ่งตัว ยังถืออยู่ในขอบค่ายความเป็นส่วนตัวอยู่ถึงแม้จะไม่ได้มากเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ส่วนใหญ่กระโดดการใช้งานลิฟท์โดยสาร ไปที่ 120 – 150 ยูนิตต่อลิฟท์โดยสารหนึ่งตัว แน่นอนว่านอกจากความเป็นส่วนตัวที่น้อยลงแล้ว ระยะเวลาในการรอลิฟท์ก็จะนานขึ้นด้วย หากใครที่ต้องการเป็นส่วนตัวสูงลองมองหาคอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ที่มีอัตรายูนิตต่อลิฟท์ที่ประมาณ ไม่เกิน 30 – 50 คน ก็สามารถตอบโจทย์ความไม่วุ่นวายสำหรับการใช้ลิฟท์โดยสารได้ บางโครงการที่เป็นระดับ Luxury และสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวระดับสูงถึงกับมีการล็อคลิฟท์ส่วนตัวเข้าไปสู่ Foyer หน้ายูนิตที่พักอาศัยเลย

 

ลิฟท์โดยสารแบบล็อคชั้น

หัวข้อนี่คงเป็นสิ่งพื้นฐานที่ทุกโครงการเลือกใช้ และคงเป็นหนึ่งเหตุผลให้ตีความหมายของคำว่า “ความเป็นส่วนตัว” ออกมาจากระบบลิฟท์ล็อคชั้น ตรงจุดนี้จะว่ายังงั้นก็ไม่ผิด เพราะการล็อคชั้นคือการล็อคไม่ให้ผู้อื่นที่ไม่ได้พักอาศัยอยู่ในยูนิตชั้นนั้นๆ เข้ามาได้ ไม่ว่าจะกรณีไหนก็ตาม ซึ่งในปัจจุบันถือว่าทุกโครงการสามารถตอบโจทย์ในเรื่องนี้ได้ ทั้งในเรื่องของความเป็นส่วนตัวที่อาจจะไม่ได้มากนัก แต่จะเน้นไปที่ความปลอดภัยมากกว่า

 

ส่วนกลางที่ไม่อยู่ระหว่างชั้นที่พักอาศัย

ทำไมต้องไม่มีส่วนกลางระหว่างชั้นพักอาศัย เนื่องจากเมื่อมีส่วนกลาง คำว่าระบบลิฟท์ล็อคชั้นตามหัวข้อด้านบนนั้น ก็จะถูกเพิ่มชั้นเข้าไป จากที่สามารถไปได้แค่ชั้นที่มียูนิตที่พักอาศัยกับชั้นล่าง ก็กลายเป็นว่าสามารถไปยังชั้นอื่นๆ ที่มีส่วนกลางด้วย หลายคนเข้าใจว่าการเลือกยูนิตบนชั้นที่มีส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนระหว่างชั้นถือเป็นสิ่งที่ดีสะดวกสบาย แต่หากคุณเป็นผู้หญิง ผู้คนจากทั้งโครงการที่แวะเวียนมายังส่วนกลางบนชั้นของคุณอาจทำให้คุณลืมคิดเรื่องความเป็นส่วนตัวไปโดยปริยาย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ส่วนกลางที่มากพอรองรับทุกยูนิตที่พักอาศัยได้

นอกจากไม่ควรมีส่วนกลางอยู่บนยูนิตที่พักอาศัยแล้ว ส่วนกลางที่มากพอสำหรับรองรับทุกยูนิตที่พักอาศัยได้ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ส่วนกลางในที่นี้อาจไม่ได้หมายถึงขนาดสระว่ายน้ำ ขนาดฟิตเนสที่มีพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมไปถึงส่วนกลางต่างๆ ภายในโครงการที่แบ่งออกเป็นหลายๆ ส่วนด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น สระว่ายน้ำ สวนส่วนกลาง ซาวน่า สตรีม ฟิตเนส ห้องสมุด เป็นต้น ยิ่งมีส่วนกลางมากเท่าไหร่ ก็สามารถกระจายผู้พักอาศัยออกไปที่ส่วนกลางนั้นๆ ได้ แบบไม่หนาแน่นและมีความเป็นส่วนตัวเวลาใช้งาน

 

ที่จอดรถ 100% แบบ Fix ที่จอด และไม่มีที่จอดแบบซ้อนคัน

แน่นอนว่าจากหัวข้อข้างต้นทั้งหมด โครงการที่มีแนวโน้มที่จะสามารถตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวได้ครบครัน ก็คือโครงการคอนโดมิเนียมแบบโลว์ไรส์ ซึ่งส่วนใหญ่ทำเลที่ตั้งของโครงการเหล่านี้จะมักอยู่บริเวณในซอย ไม่ติดกับแนวรถไฟฟ้า ซึ่งดีมานด์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนที่ใช้รถยนต์ ดังนั้นเรื่องที่จอดรถจึงเป็นอีกจุดหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้ การจอดรถควรมีที่จอดแบบ Fix คัน ชนิดที่ว่าจะเข้าจอดเวลาไหนก็เหลือช่องจอดให้จอด รวมไปถึงข้อกำหนดในการจอดซ้อนคัน ซึ่งถือว่าเป็นการรุกล้ำความเป็นส่วนตัวในการจะเข้าออกช่องจอดมาก ในขณะเดียวกันโครงการคอนโดมิเนียมไฮไรส์ซีรีส์ใหม่ๆ ก็หาวิธีการที่จะมอบความเป็นส่วนตัวให้กับผู้อยู่อาศัยด้วยเทคโนโลยีการจอดรถอย่างที่จอดรถอัจฉริยะ (Mechanical Parking) เพื่อแก้ปัญหาเรื่องที่จอดไม่เพียงพอต่อยูนิต และมอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับผู้อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมแบบไฮไรส์

 

สุดท้ายนี้ถึงแม้ว่า ‘โครงการแบบโลว์ไรส์’ จะสามารถตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวได้มากที่สุดด้วยปัจจัยหลายอย่าง แต่อย่าเพิ่งผลีผลามตัด ‘โครงการแบบไฮไรส์’ ออกจาก List เพราะการซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยใดๆ จะต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่น นอกจากความเป็นส่วนตัว เช่น สิ่งอำนวยความสะดวก ราคา ความใกล้ไกลที่ทำงาน-สถานศึกษา ฯลฯ รวมถึงรสนิยมส่วนตัว เป็นองค์ประกอบในการตัดสินใจ แต่ไม่ว่าจะเลือกแบบใด โลว์ไรส์ หรือ ไฮไรส์ เราควรตอบคำถามให้ได้ว่าแบบไหนที่ใช่ที่สุด!

 

บทความข้างต้นเผยแพร่ครั้งแรกที่ DDproperty.com เว็บไซต์สื่อกลางอสังหาริมทรัพย์ ที่รวบรวม ข่าวอสังหาฯ คู่มือซื้อขาย และรีวิวโครงการใหม่ ไว้กว่า 10,000 บทความ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

6 วีธีฝึกนิสัย สร้างวินัยการออมให้ลูก

โรคภูมิแพ้กับแม่ท้องรับมืออย่างไร? อันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่?

 

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team