7 วิธีสอนมารยาทในโรงหนัง ที่ผู้ปกครองควรสอนให้เด็ก ๆ

7 วิธีสอนมารยาทในโรงหนัง ที่ผู้ปกครองควรสอนให้เด็ก ๆ

หลังจากที่ประกาศอนุญาตให้ทางโรงภาพยนตร์เปิดบริการได้แล้ว คงมีบางบ้านที่วางแผนที่จะไปใช้บริการสิ่งบันเทิงนี้ บางครอบครัวการไปโรงภาพยนตร์อาจจะเป็นครั้งแรกของลูก ๆ หรือบางครอบครัวก็อาจจะเคยพาลูกไปโรงภาพยนตร์มาบ้างแล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่คงกังวลใจอยู่แล้วคงจะเป็นเรื่องที่กลัวเด็ก ๆ จะงอแงและส่งผลกระทบให้กับผู้ชมท่านอื่น วันนี้ TheAsianparent ขอนำ 7 วิธีสอนมารยาทในโรงหนัง มาแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ได้นำไปทดลองใช้และสอนให้เด็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหานี้กัน

มารยาทในโรงภาพยนตร์เป็นสิ่งที่ทุก ๆ คน จำเป็นต้องมี ไม่ว่าจะอยู่ในอายุหรือช่วงวัยใดก็ตาม บางครั้งการไม่มีมารยาทหรือไม่รักษากฎของโรงภาพยนตร์ก็อาจส่งผลกระทบให้กับผู้ชมคนอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก เป็นเรื่องที่ดีหากเด็ก ๆ ได้เรียนรู้มารยาทในการเข้าชมภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ที่มีการใช้บริการร่วมกันกับผู้อื่นแล้ว ถือว่าเป็นสิ่งที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดีในอนาคตได้

สาเหตุของการที่เราจะต้องรักษามารยาทการใช้โรงภาพยนตร์นั้นเพราะ

• มันเป็นสิ่งที่ดีสำหรับลูกค้าคนอื่น ๆ เราต้องรู้จักให้เกียรติลูกค้าคนอื่น ๆ ที่ใช้บริการร่วมกับเรา
• มันแสดงความเคารพต่อนักแสดง
• เป็นการเคารพเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง
• สร้างมารยาทขั้นพื้นฐานให้กับตัวเอง
• ฝึกให้ลูกได้ทำตามกฎระเบียบของสังคม
• ให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับการมารยาทและการเคารพซึ่งกันและกัน
• รู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเอง

สิ่งที่ทุกคนควรพึงปฏิบัติเมื่อใช้บริการที่โรงภาพยนตร์

• มาถึงก่อนเวลา
  หากเป็นไปได้ การมาก่อนเวลาที่จะทำการฉายภาพยนตร์เป็นเรื่องที่สมควรทำเป็นอย่างมาก อันดับแรก หากเราได้หมายเลขที่นั่งที่อยู่ตรงกลางของแถวที่นั่ง การมาก่อนจะทำให้เราสะดวกในการเดินเข้าที่นั่งโดนไม่ต้องเดินผ่านคนอื่น ๆ และการมาก่อนเวลา ก็เป็นการให้เกียรติคนที่ได้หมายเลขที่นั่งที่เราจะต้องรบกวนเขาก่อนที่จะเข้าที่นั่งเราเองด้วย
• เป็นคนใจดี
  หากเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าโรงภาพยนตร์ก่อนเวลาฉาย เมื่อเข้ามาแล้ว คุณก็ควรที่จะทำการขอโทษและขอบคุณคนอื่น ๆ ที่คุยต้องเดินผ่านไปเพื่อไปยั่งหมายเลขที่นั่งคุณเอง เพื่อเป็นการให้เกียรติ
• ปิดเครื่องสื่อสาร
  เป็นเรื่องสำคัญ ที่หลาย ๆ คนที่ใช้บริการโรงภาพยนตร์นั้นจะเห็นป้ายเตือนหรือโฆษณาขึ้นเตือนเป็นประจำ การเล่นโทรศัพท์ หรือแจ้งเตือนและแสงสว่างที่มาจากเครื่องมือติดต่อสื่อสารของเรา อาจจะเป็นการรบกวนผู้ชมที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงและอาจส่งผลกระทบต่อการชมภาพยนตร์ของพวกเขาด้วย
• ไม่ก้าวก่ายพื้นที่คนอื่น
  บ่อยครั้งที่เรามักจะโดนถีบหรือดันเบาะจากคนที่อยู่ข้างหลัง หรือ อาจจะมีเท้าของคนข้างหลังโผล่มาทักทายเรา คงเป็นเรื่องดีกว่านี้หากทุกคนควบคุมร่างกายของตัวเองให้อยู่ขอบเขตที่จำกัดโดยไม่เดือดร้อนผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หรือกระเป๋า

7 วิธีสอนมารยาทในโรงหนัง

1.ลูก เราถึงวัย พร้อมไปดูหนังนอกบ้านหรือยัง

ข้อนี้ถือว่าสำคัญ แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่ จะเป็นคอหนังและอยากส่งต่อความสุขให้ลูกผ่านการชมภาพยนตร์ แต่สิ่งจำเป็นนั้น ก็ต้องคิดถึงอายยุและความเหมาะสมของวัยลูกเราก่อนด้วย ว่าพร้อมแล้วที่จะมีสมาธินั่งนิ่ง ๆ นาน ๆ ดูหนังยาวเป็นชั่วโมงจนจบหรือไม่โดยทั่วไปเด็กจะพร้อมเข้าโรงหนังได้เมื่ออายุ 3 – 4 ขวบ เพราะจะสามารถทำความเข้าใจ กับเรื่องราวของหนังได้ และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ต้องแน่ใจว่า ลูกไม่กลัวความมืด และไม่ตกใจกลัวเมื่อเกิดเสียงดังอย่างกระทันหัน

 2.เช็คอารมณ์ลูกก่อน

เมื่อลูกถึงวัยพร้อมไปดูหนังนอกบ้านแล้ว สิ่งสำคัญลำดับต่อมา คือ อารมณ์ของเจ้าตัวน้อย  หากวันที่คุณวางแผนพาลูกไปดูภาพยนตร์นอกบ้าน แล้วเจ้าตัวเล็กงอแง นอนไม่อิ่ม หรืออยู่ไม่นิ่งอยากวิ่งเล่นตลอดเวลา นั่นอาจจะแสดงว่าวันนั้นมีฤกษ์ที่ไม่ดีแล้ว เพราะพฤติกรรมดังกล่าวอาจส่อแววว่า คุณพ่อคุณแม่อาจจะดูหนังไม่สนุก และดูไม่จบเรื่องแน่นอน ดังนั้นอาจจะดีกว่าถ้ายังไม่ควรพาลูกไปโรงภาพยนตร์ ทางที่ดีควรรอให้เจ้าตัวแสบอารมณ์ดีก่อนค่อยพาไปและลองใหม่อีกครั้งในคราวหน้า

3.จำลองสถานการณ์ เปลี่ยนบ้านให้เป็นโรงภาพยนตร์

ถ้าอยากรู้ว่าลูกเราพร้อมเข้าโรงภาพยนต์หรือยัง? คุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มทำการทดลองโดยการสร้างบรรยากาศ สร้างโรงภาพยนตร์ขนาดย่อม ไว้ที่ห้องนั่งเล่น เช่น หรี่หรือปิดไฟภายในบ้าน เรียงเก้าอี้เป็นแถวตามแบบของโรงภาพยนตร์หากเป็นไปได้ แล้วให้เปิดหนังจากในอินเตอร์เน็ต หรือ DVD , CD ที่คุณพ่อคุณแม่มี ให้ลูกดูก่อนเพื่อเป็นการเฝ้าดูพฤติกรรมและหาวิธีรับมือกับสิ่งที่ลูกอาจจะเป็นเมื่อไปใช้บริการที่โรงภาพยนตร์ พร้อมทั้งอธิบายถึงมารยาทในการดูหนัง ว่า ห้ามพูดคุยเสียงดัง ห้ามลุกขึ้นเดินไปมา ถ้าไม่ทำตาม คุณจะพาออกจากโรงภาพยนตร์ เพื่อเตรียมความพร้อมและให้ช่วยเจ้าตัวเล็กเข้าใจกติกา และมารยาทในการชมภาพยนตร์ร่วมกับผู้อื่น และทำความคุ้นเคยกับบรรยากาศขณะชมภาพยนตร์ในโรงได้มากขึ้น

4.หนังดัง หนังเข้าใหม่ ไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป

ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะวางแผนพาลูก ๆ ไปดูหนัง สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคำนึงถึงก่อนไม่ใช่แค่กระแสความดังของหนัง หรือความชอบส่วนตัวของคุณพ่อคุณแม่เหมือนเมื่อก่อน แต่ควรคำนึงถึงเนื้อหาของหนัง ว่าเหมาะกับวัยของลูกเราหรือไม่ เนื้อหาเหมาะสม มีสาระสอดแทรก และที่สำคัญสามารถดึงความสนใจของลูกเราให้อยู่ที่เนื้อเรื่องได้จนจบหรือไม่มากกว่า ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ ควรดูก่อนว่าหนังที่จะพาลูกไปดูอยู่ในความเหมาะสมกับวัยไหน เหมาะกับเด็กหรือไม่ มีฉากสยองขวัญหรือเสียงดังมากชวนให้ตกใจรึเปล่า เรทที่เหมาะกับเด็กคือ G หรือ PG  ซึ่งเป็นหนังแนวที่คุณควรพาลูกไปดูหรือไม่ คุณพ่อคุณแม่สามารถหาข้อมูลได้ตามเว็บไซต์ภาพยนตร์ต่าง ๆ ก่อนพาลูกไปดูภาพยนตร์เรื่องนั้น ๆ และควรตกลงกับลูกให้เรียบร้อยก่อนว่า จะพาไปดูเรื่องอะไรเพื่อไม่ให้ลูกร้องงอแงหากภายนตร์ที่พาเขาไปดูไม่ถูกใจพวกเขา

5.สร้างอารมณ์ความอยากดูให้กับลูก

เมื่อเลือกได้แล้วว่าจะพาลูกไปดูเรื่องอะไร ก็ควรบิ้วท์อารมณ์ให้ลูกเกิดความสนใจโดยการเล่าโครงเรื่องคร่าวๆให้ลูกฟังก่อนว่าเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไร ลุกจะได้เห็นอะไรบ้าง หรือเปิดตัวอย่างหนังให้ลูกดู เจ้าตัวเล็กจะได้เข้าใจเนื้อเรื่องมากขึ้น ดูหนังได้สนุกและนั่งนิ่งๆได้นานขึ้น

6.พาลูกไปดูรอบไหนถึงจะดี

รอบหนังที่เหมาะแก่การพาลูกไปดูที่สุดคือรอบเช้าสุด เพราะส่วนมากคนจะไม่แน่นจนเกินไป และลูกได้นอนมาเต็มอิ่ม อีกทั้งยังเป็นช่วงที่เด็กตื่นตัว สดชื่นที่สุด ตัดปัญหางอแงเพราะง่วงนอนไปได้ 1 ข้อ และควรจัดการให้ลูกกินอาหาร และเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนเข้าชมภาพยนตร์ เพื่อตัดปัญหาลูกหิว หรือต้องเข้าห้องน้ำระหว่างชมภาพยนตร์ทำให้ขาดความต่อเนื่อง และที่สำคัญควรพาลูกเข้าโรงภาพยนตร์ก่อนเวลาฉาย เพื่อจะได้ดูแล จัดการที่นั่งให้ลูกได้สะดวกก่อนปิดไฟ

7.ตำแหน่งที่นั่งก็สำคัญ

ที่นั่งที่เหมาะสมสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กเข้าชมในโรงภาพยนตร์ คือ ที่นั่งด้านริมติดทางเดิน หากอยากลุกออกจากที่นั่ง หรือเดินออกไปเข้าห้องน้ำ  ที่นั่งตรงนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีความสะดวกในการพาลูกลุกออกจากที่นั่งได้สะดวกโดยไม่เป็นการรบกวนผู้อื่น

อย่างไรก็ตาม บางครั้งพฤติกรรมของลูก ๆ ก็อาจจะไม่สามารถจัดการและควบคุมได้ คุณพ่อคุณแม่ควรคิดวิธีควบคุมลูก ๆ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เพื่อเป็นการเคารพและให้เกียรติผู้ชมคนอื่น ๆ นั่นเอง

Source : kapook , artsplorers

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

สอนลูกให้มีมารยาทดีต้องเริ่มต้นที่พ่อแม่เป็นแบบอย่าง

5 วิธีสอนลูกไม่ให้ก้าวร้าว ดื้อด้าน เอาแต่ใจ พ่อแม่ต้องทำยังให้ลูกเป็นเด็กดี มีมารยาท

6 มารยาทแย่ ๆ ที่แม่อย่างเราไม่ปลื้ม รู้ไว้ด้วยว่าอย่ามาทำกับลูกฉันแบบนี้