ในปัจจุบันคอมพิวเตอร์ ได้เข้ามามีบทบาทเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และ กลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตมนุษย์มากขึ้น ไม่ใช่แค่ในกลุ่มผู้ใหญ่ แต่รวมไปถึงในกลุ่มเด็ก ๆ ด้วยเช่นกัน ทำให้พ่อแม่ หรือผู้ปกครองบางคน มีข้อสงสัยว่า คอมพิวเตอร์กับเด็ก นั้น เหมาะสมที่จะเริ่มใช้ในวัยไหน
ด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาไปอย่างต่อเนื่อง และ เกิดขึ้นในทั่วทุกมุมโลก นับว่าเรื่องของคอมพิวเตอร์ ที่อีกไม่นานจะมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง เช่นเดียวกับโทรทัศน์ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ มีสถิติแสดงให้เห็นว่าเกือบทุกบ้านเรือนในประเทศที่พัฒนาแล้ว จะมีคอมพิวเตอร์ และปัจจุบันเราจะพบว่าเด็ก ๆ มักจะมีโอกาสได้ใช้งาน และใกล้ชิดกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์นี้มากกว่าในสมัยก่อน
ปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะเห็นเด็ก ๆ มีความชำนาญในการควบคุมใช้งาน และจัดการกับเจ้าเครื่องมือ ที่ทั้งมีประโยชน์และทรงอิทธิพลขนาดนี้ แต่พ่อแม่ของเด็ก ๆ มีความกังวลเกี่ยวกับปรากฏการณ์นี้ และเกิดความกังวลเกี่ยวกับความสุขของลูก ๆ ที่เกิดจากการใช้คอมพิวเตอร์ พ่อแม่หลาย ๆ คนถามคำถามว่า ” ฉันควรอนุญาตลูก ๆ ของฉัน ให้เริ่มใช้คอมพิวเตอร์ได้เมื่อพวกเขาอายุเท่าไหร่? ”
มีหลาย ๆ ความคิดเห็นที่เกี่ยวเนื่องกับประเด็นนี้ ส่วนใหญ่มักอยู่เป็นความคิดเห็นที่ต่างกันสุดขั้ว บางคนบอกว่า ผู้ปกครองไม่ควรอนุญาตให้ลูกใช้คอมพิวเตอร์ แต่มีหลายคนกลับบอกว่าเด็ก ๆ ควรได้รับอนุญาตให้ใช้คอมพิวเตอร์ได้โดยไม่ต้องมีข้อจำกัดใด ๆ ความคิดเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ กลับอยู่ตรงกลางความคิดเห็นต่างขั้วทั้งสอง
ผู้เขียนเชื่อว่าคอมพิวเตอร์นั้น เป็นเครื่องมือที่มีคุณประโยชน์อย่างมากในการให้ความรู้ และเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาของเด็ก ๆ ผู้ปกครองที่ไม่เข้มงวดกับเด็กเลย จำเป็นต้องมีวิสัยทัศน์เกี่ยวกับวิธีการที่พวกเขาให้ลูก ๆ ของพวกเขาใช้คอมพิวเตอร์ เนื่องจากอุปกรณ์ชนิดนี้ อาจกลายเป็นสิ่งสร้างความไม่ยุติธรรมกับเด็กได้ หากพ่อแม่หรือผู้ปกครองไม่ได้ให้คำแนะนำในการใช้งานที่ถูกต้อง ผู้ปกครองที่ไม่ค่อยมีเวลา หรือยุ่งกับงานหรือธุรกิจของตนมากเกินไป มักใช้คอมพิวเตอร์เป็นสิ่งทดแทนการอยู่เป็นเพื่อนกับเด็ก ๆ (จำได้หรือไม่ว่าโทรทัศน์เข้ามามีอิทธิพลแทนที่พี่เลี้ยงเด็กอย่างไร?)
ในอีกนัยหนึ่ง ผู้ปกครองที่มีความคิดเห็นสุดขั้วในฝั่งตรงข้ามนั้น เชื่อว่าคอมพิวเตอร์เป็นอันตรายต่อเด็กอย่างแท้จริง มีการให้คำแนะนำนี้โดย American Academy of Pediatrics ที่มีออกมากหลังจากได้มีการศึกษาว่า พ่อแม่ หรือผู้ปกครองนั้นควร “ห้ามปรามเด็ก ๆ อายุต่ำกว่า 2 ปี ในการดูโทรทัศน์ และควรมีการสนับสนุนให้ทำกิจกรรมที่มีการโต้ตอบ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาสมองอย่างเหมาะสม เช่น การพูดคุย การเล่น การร้องเพลง และการอ่านหนังสือด้วยกัน”
การแปลความหมายคำแนะนำนี้ในทางที่ผิด ทำให้พ่อแม่หลายคนเชื่อว่า คอมพิวเตอร์สามารถยับยั้งการพัฒนาสมองให้เป็นไปอย่างปกติได้ นอกจากนี้ พวกเขายังเชื่อว่า อาจกระตุ้นให้เกิดผลกระทบในทางลบกับลูก ๆ ของพวกเขาด้วย พ่อแม่ที่อยู่ในกลุ่มนี้ ไม่ควรปิดหูปิดตาไม่รับรู้ว่าปัจจุบันคอมพิวเตอร์ได้เข้าครอบครองโลกไปเสียแล้ว ดังนั้น ทำไมไม่พยายามที่จะค้นหาวิธีต่าง ๆ ที่คอมพิวเตอร์สามารถสร้างประโยชน์ในการพัฒนาทักษะด้านการศึกษาของลูก ๆ ล่ะ?
สนุกสนานและส่งเสริมการเรียนรู้
งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า มีซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์จำนวนมากที่มีเกมส์ส่งเสริมการเรียนรู้ และให้ความสนุกสนานที่ถูกออกแบบมาอย่างดี ซอฟท์แวร์เหล่านี้ถูกสร้างสรรค์มาอย่างพิถีพิถัน เพื่อใช้ในการกระตุ้นการพัฒนาในเด็ก ดังนั้น เมื่อซื้อซอฟท์แวร์คอมพิวเตอร์ให้กับเด็ก ๆ คุณควรใส่ใจในการเลือกซอฟท์แวร์ที่ดี แยกแยะซอฟท์แวร์จากผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่จำนวนมากมายมหาศาลที่คุณหาซื้อได้ตามท้องตลาด มันน่าเศร้าที่ผู้พัฒนาซอฟท์แวร์จำนวนไม่น้อยสนใจเพียงแค่การสร้างความนิยม และการหาเงินเข้าบัญชีของตนในการพัฒนาคิดค้นเกมส์คอมพิวเตอร์ที่ส่งเสริมการศึกษาของเด็ก ๆ ดังนั้น ซอฟท์แวร์ที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อเด็ก ๆ ถูกนำมาจำหน่ายโดยไม่มีการคิดพิจารณาให้รอบคอบ โปรดจำไว้ว่ามีเพียงเกมส์ที่ต้องมีการโต้ตอบ และมีปฏิกิริยาต่อกันเท่านั้นที่จะช่วยให้ลูกของคุณได้เรียนรู้จริง ๆ
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการที่ให้เด็กอ่อนได้เล่นเกมส์คอมพิวเตอร์บ้างก็ไม่ได้เสียหายอะไรตราบเท่าที่มีการดึงการตอบสนองของพวกเขาออกมาได้ มีเกมส์ออนไลน์จำนวนมากที่สามารถหาได้ฟรี ลองเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.sesamestreet.com, www.fisher-price.com, www.kiddiesgames.com และ www.babyfungame.com มีเกมส์สำหรับเด็กอ่อนในเว็บไซต์เหล่านี้ที่มีรูปภาพกราฟฟิกต่าง ๆ ที่ทั้งฉูดฉาด และมีสีสัน เด็ก ๆ เพียงแค่ต้องกดที่ปุ่มบนคีย์บอร์ดเพื่อที่จะควบคุมเกมส์ นี่จะช่วยสอนให้พวกเขารู้ถึงความคิดของเหตุและผล
นอกจากนี้ ยังมีเกมส์สำหรับเด็กในวัยกำลังหัดเดิน ที่มีความท้าทายมากกว่าเด็กอ่อน ซึ่งจะให้เด็กมีการโต้ตอบมากขึ้น และมีเนื้อหาสำหรับการศึกษามากกว่า เกมส์ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาในทางที่สร้างความคิดทางบวกให้เด็กมีความภูมิใจในตนเอง เด็กในวัยหัดเดินที่เรียนรู้ผ่านเกมส์เหล่านี้สามารถเรียนรู้รูปร่างลักษณะ สี รูปแบบตัวอักษร ตัวเลข รูปแบบต่าง ๆ และการอ่านคำง่าย ๆ ซึ่งช่วยให้เด็ก ๆ มีการเรียนรู้ที่จะจำแนก และสังเกตสิ่งต่าง ๆ ได้
ทางสายกลางเป็นกุญแจสำคัญ
อย่างไรก็ตาม คุณควรมีการจำกัดเวลาที่ลูก ๆ ของคุณใช้ในการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ และส่งเสริมให้พวกเขาได้มีเวลาในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยในการพัฒนาการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และกล้ามเนื้อมัดเล็ก รวมไปถึงทักษะทางด้านสังคมด้วย นอกจากนี้ ผู้ปกครองควรมีการกำหนดข้อจำกัดในเรื่องของตารางเวลาการใช้คอมพิวเตอร์อย่างแน่ชัด เพื่อไม่ให้เด็ก ๆ ละเลยการศึกษาของพวกเขา เพียงแค่จำไว้ว่าคอมพิวเตอร์ไม่ได้เป็นเครื่องมือเพียงชนิดเดียวที่จะช่วยการเรียนรู้ของลูกคุณได้ คอมพิวเตอร์เป็นเพียงหนึ่งในทางเลือกของคุณเท่านั้นเอง
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
source หรือ บทความอ้างอิง : www.typekids.com
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
10แอพฯ น่าเล่นสำหรับลูกวัยอนุบาล