คุณหมอสงสัยว่าน้องจะแพ้นมวัว จึงให้คุณแม่พยายามให้น้องทานแต่นมแม่ โดยคุณแม่งดอาหารประเภทนมวัวและผลิตภัณฑ์จากนมวัวทุกชนิด หากจำเป็นต้องเสริมนมผงก็ให้ใช้นมสูตรสำหรับเด็กแพ้นมวัวที่มีโปรตีนซึ่งย่อยแล้ว และนัดติดตามอาการ พบว่า อาการอาเจียนและถ่ายเป็นมูกเลือด และหายใจเสียงครืดคราดดีขึ้น น้ำหนักเริ่มขึ้น แต่ยังมีผื่นคันเป็น ๆ หาย ๆ ขึ้นที่แก้มและแขน-ขา มาตลอด
เมื่อน้องใบเตยอายุ 6 เดือน คุณแม่ได้เริ่มป้อนอาหารเสริมคือ ไข่ตุ๋น ปรากฏว่าน้องใบเตยมีอาการอาเจียนและหายใจครืดคราดขึ้นมาอีก บางครั้งมีผื่นลมพิษ และปากบวมหลังจากทานไข่ตุ๋นไม่เกิน 1 ชั่วโมง คุณหมอได้นัดมาทำการทดสอบภูมิแพ้ด้วยวิธีสะกิดผิวหนัง พบว่าผลการทดสอบเป็นบวกต่อ นมวัว และไข่ คุณหมอจึงสรุปว่าน้องแพ้นมวัวและไข่ เนื่องจากน้องยังทานนมแม่เป็นหลักจึงให้คุณแม่งดอาหารทุกอย่างที่มีส่วนผสมของ นมวัว และ ไข่ และให้คุณแม่ทำอาหารเสริมที่ไม่มีส่วนผสมของนมและไข่ให้กับน้องใบเตย และนัดตรวจติดตามอาการในหนึ่งเดือน ปรากฏว่าอาการทุกอย่างของน้องหายไปทั้งหมด น้ำหนักตัวขึ้นดีและเจริญเติบโตสมวัย
จนเมื่อน้องอายุครบสองขวบ คุณแม่สังเกตว่าน้องใบเตยมีอาการคัดจมูก คันจมูก น้ำมูกไหล เป็น ๆ หาย ๆ ในช่วงกลางคืน บางครั้งนอนกรน และหายใจเสียงดัง โดยที่น้องยังคงงดอาหารที่แพ้อยู่และดื่มนมถั่วเหลือง คุณหมอจึงทำการทดสอบภูมิแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ในอากาศด้วยวิธีสะกิดผิวหนังพบว่าผลการทดสอบเป็นบวกต่อไรฝุ่น
คุณหมอแนะนำว่าน้องใบเตยเป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ จึงให้คุณแม่กำจัดไรฝุ่นโดยหมั่นทำความสะอาดห้อง ซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนในน้ำร้อนทุก 1 – 2 สัปดาห์ เลิกใช้พรม เก็บตุ๊กตาที่เป็นขน ซักผ้าม่านเป็นประจำ ร่วมกับการใช้ยาแก้แพ้ และนัดติดตามอาการในเวลา 2 เดือนต่อมา ปรากฏว่าอาการทางจมูกดีขึ้นอย่างชัดเจน
น้องใบเตยเป็นตัวอย่างของเด็กที่มีอาการแพ้อาหาร คือ นมวัว และไข่ ร่วมกับจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ (แพ้อากาศ) ซึ่งเป็นกลุ่มโรคภูมิแพ้ที่พบร่วมกันได้บ่อย และมีประวัติโรคภูมิแพ้ในครอบครัว หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีอาการต่าง ๆ คล้ายกับน้องใบเตย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาตั้งแต่มีอาการเริ่มแรก เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ของโรคนะคะ