หกล้มเลือดคลั่งในสมอง คิดว่าลูกแค่ล้ม แต่พบเป็นเลือดคั่งในสมอง

แม่เกือบใจสลาย เพราะคิดว่าลูกล้มไม่เป็นไร แต่กลับตรวจพบว่าเลือดคั่งในสมองลูก เกือบจะสายเกินไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เลือดคลั่งในสมอง อาการเลือดคั่งในสมอง คิดว่าลูกแค่หกล้ม แต่พบเป็นเลือดคั่งในสมอง

อุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ไม่อยากให้เกิด ยิ่งหัวอกคนเป็นแม่ที่แสนรักแสนจะห่วงลูกน้อย ทั้งปกป้องและป้องกันทุกวิถีทาง ก็ยังหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ยาก แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือหลังจากที่เกิดอุบัติเหตุแล้ว แม่พาลูกไปตรวจเช็คร่างกายอย่างละเอียดหรือไม่

 

อาการเลือดคั่งในสมอง

 

จากประสบการณ์ของคุณแม่ Kim ได้ถูกกระแสโซเชียลแชร์เรื่องราวนี้ผ่านเฟสบุ๊กกันอย่างล้นหลาม เป็นเรื่องราวของลูกชายเธอ Liam ที่ตกจากรถสกู๊ตเตอร์ แล้วล้มหัวกระแทกบริเวณทางเท้า อาการเลือดคั่งในสมอง

 

ตอนที่เกิดอุบัติเหตุหัวของ Liam ก็ปูดโนในทันที เขามีอาการมึนงง และไม่มีเรี่ยวแรง ตอนที่แม่ของเขาพยายามพยุงขึ้นมา แต่แล้ว Liam ก็ลุกขึ้นเดินกลับไปที่รถ แล้วบอกแม่ว่าไม่ต้องมาจับตัวเขา

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

หลังจากเกิดอุบัติเหตุขึ้น Kim ก็โทรศัพท์ไปขอคำปรึกษาว่าต้องสังเกตอาการอย่างไรบ้าง ถ้าลูกมีอาการผิดปกติบางอย่างต้องจัดการอย่างไร และต้องโทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือได้จากที่ไหน คืนวันนั้นราวๆ 1 ทุ่ม ลูกชายของเธอก็มีอาการผิดปกติบางอย่าง จึงพากันไปโรงพยาบาลเพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา 6 ชั่วโมง

 

“พวกเขาบอกว่าลูกไม่จำเป็นต้องสแกน เพราะดูไม่ได้มีอาการป่วยอะไรในตอนนี้ และเด็กๆ ก็มักจะหกล้มหัวกระแทกกันเป็นเรื่องธรรมดา พวกเราจึงตัดสินใจกลับมาบ้าน” Kim เล่าถึงเหตุการณ์ในวันนั้น แล้วบอกต่ออีกว่า “วันต่อมา ลูกก็ปกติดี ลูกเล่น กินและดื่ม ได้เหมือนเดิม เหมือนไม่เคยเกิดอุบัติเหตุนั้นขึ้น แล้วหัวที่เคยปูดก็หายไปแล้ว”

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

แต่เหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในวันถัดมา Liam ตื่นตั้งแต่ตี 2 แล้วบ่นว่าปวดหัว ทางโรงพยาบาลแนะนำว่า หาก Liam อาการแย่ลงก็ให้รีบมาโรงพยาบาล… ในที่สุด Liam ก็ถูกสแกนสมอง แล้วสิ่งที่พบทำให้ Kim ต้องช็อคเมื่อรู้ว่า ลูกชายของตัวเองเกิด อาการเลือดคั่งในสมอง

 

จากเหตุการณ์หกล้มหัวกระแทกของเด็กชายคนหนึ่ง กลับเกิดเป็นอันตรายมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทางโรงพยาบาลระดมคนเพื่อมาช่วยชีวิต Liam มีวิสัญญีแพทย์ 3 คน กุมารแพทย์ 3 คน หมอด้านประสาทวิทยา 2 คน และนางพยาบาล 5 คน พร้อมทั้งเตรียมคนขับรถพยาบาลไว้ถึง 2 คน ในกรณีฉุกเฉินต้องย้ายโรงพยาบาล

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

อุบัติเหตุในครั้งนี้ทำให้ Liam เป็น hysterical รอบตัวเขามีสายยางห้อยระโยงระยางไปทั่ว ทั้งที่มือ 2 ข้าง และที่เท้าด้วย จากนั้นทางโรงพยาบาลก็เตรียมการผ่าตัดศีรษะแบบ Craniotomy (เปิดกระโหลกศีรษะเพื่อนำเลือดออกจากสมอง) โดยใช้เวลานาน 2 ชั่วโมง ในการผ่าตัด โชคดีที่การผ่าตัดเป็นไปได้อย่างดี Liam ปลอดภัย และกลับมาใช้ชีวิตได้อีกครั้ง

 

แม้ว่าเหตุการณ์ของ Liam จะจบลงอย่างมีความสุข แต่ไม่ใช่ว่าเด็กทุกคนจะปลอดภัยเช่นนี้ Kim จึงตัดสินใจแชร์เรื่องราวของลูกชายเธอ ให้พ่อแม่ที่ได้อ่านบังคับลูกๆ สวมหมวกกันน็อกทุกครั้งที่เล่นเครื่องเล่น ขี่จักรยาน หรือสกู๊ตเตอร์ เพื่อความปลอดภัยของเด็กทุกคน

 

อาการผิดปกติและสัญญาณบ่งบอกว่าเกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะ เลือดคั่งในสมอง

การบาดเจ็บทางสมองไม่เหมือนกับการบาดเจ็บส่วนอื่นๆ ของร่างกายที่มองเห็นด้วยตา และส่งผลในทันที แต่บางครั้งการบาดเจ็บของสมองใช้เวลาหลายวันถึงสัปดาห์กว่าจะออกอาการ ทั้งยังซับซ้อนขึ้นไปอีกเมื่ออาการที่เกิดนั้นเกิดกับเด็ก เพราะเด็กไม่สามารถอธิบายถึงความเจ็บปวดได้ละเอียดเท่ากับผู้ใหญ่ กว่าจะรู้ว่าเกิดอันตรายก็อาจจะสายเกินแก้ เราจึงรวบรวมวิธีสังเกตอาการลูกน้อยว่ามีความผิดปกติหรือไม่มาบอกกัน

1.พฤติกรรมการกินที่แปลกไป
2.ร้องไห้นานผิดปกติและไม่ยอมหยุดร้อง
3.ลูกดูหงุดหงิดไม่สบายตัว
4.ไม่ค่อยมีสมาธิ
5.พฤติกรรมการนอนเปลี่ยนไป ดูเศร้าซึมอยู่บ่อยๆ
6.ไม่สนใจของเล่นชิ้นโปรด และไม่ไปเล่นกิจกรรมที่ชอบ

 

นอกจากนี้ พ่อแม่ต้องใส่ใจพาลูกไปพบแพทย์บ่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือลูกมีพฤติกรรมที่แปลกไป เพราะเรื่องที่พ่อแม่คิดว่าไม่เป็นอะไร อาจส่งผลร้ายให้ต้องเสียใจภายหลัง

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ที่มา : sg.theasianparent.com

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

แชร์กระหน่ำ! แม่ใจสลายน้ำร้อนลวกลูกวัยหัดเดิน

ช็อค ลูกเล่นสไลเดอร์ลงมาพร้อมรอยเลือด

บทความโดย

Tulya