เช็คสิ คุณพร้อมจะเป็นพ่อแม่เเค่ไหน???

เช็คสิ คุณพร้อมจะเป็นพ่อแม่เเค่ไหน??? เพราะการเป็นพ่อแม่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนก็ไม่เคยง่าย เเละถึงคิดว่าพร้อมรับมือลูกทุกสถานการณ์ เเต้ก็ยังมีความลังเลอยู่บ้าง

เช็คสิ คุณพร้อมจะเป็นพ่อแม่เเค่ไหน???

หากคุณกำลังจะเป็นพ่อแม่มือใหม่ มีเจ้าตัวน้อยอยู่ในท้อง เตรียมตัวรับการเปลี่ยนเเปลงขนานใหญ่ได้เลยค่ะ เเต่หากไม่เเน่ใจว่าจะเลี้ยงลูกได้ไหม ก็ลองมา เช็คสิ คุณพร้อมจะเป็นพ่อแม่เเค่ไหน???

คำถามเเรกที่ควรจะถามตัวเองในห้องเงียบๆ คนเดียว เหตุผลที่เเท้จริงของการมีลูกในครั้งนี้ เพราะอะไรกันเหรอคะ ทำไมคำถามนี้ถึงควรนำมาถามซ้ำอีกครั้ง นั่นก็เพราะ

คุณไม่ควรมีลูก เพราะอยากให้ลูกมารัก 

เพราะความรักที่คุณจะให้กับลูกนั้น ไม่มีทางเหมือนความรักที่คุณพบเจอมาเเน่ๆ ค่ะ ไม่เหมือนกับที่คุณรักสามีหรือภรรยา ไม่เหมือนกับที่คุณรักเพื่อนพ้อง เเละไม่เหมือนกับที่คุณรักพ่อแม่ (เเต่เเน่นอนว่าเหมือนกับที่พ่อแม่รักคุณ)

คุณไม่ควรมีลูก เพราะต้องการให้ลูกเกิดมาเพื่อเเก้ปัญหา

เพราะเด็กๆ ไม่ควรจะต้องมารับบทบาทเเบบนี้ค่ะ การคิดว่าถ้ามีลูกชีวิตเเต่งงานคุณจะดีขึ้น หรือสามี/ภรรยาจะไม่ทิ้งคุณ นั่นคือการคาดหวังให้ลูกต้องทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งตั้งเเต่เขายังไม่เกิดมาดูโลกด้วยซ้ำ

คุณไม่ควรมีลูก เพราะต้องการรักใครสักคนเเค่ชั่วครู่

เพราะการเลี้ยงเด็กคนหนึ่งคือการยึดถือคำมั่นสัญญาที่ยาวนานตลอดชีวิต คุณต้องเปลี่ยนเเปลงตัวเอง การใช้ชีวิต วิธีคิด เเละวิธีมองโลก เพื่ออนาคตของลูก

ต่อมาคือการเช็คลิสต์ ว่าคุณพร้อมที่จะเป็นพ่อแม่คนจริงๆ นะเหรอ

คุณสามารถเสียสละได้ไหม

  • คุณสามารถเสียสละเวลานอนได้ไหม เช่น ในคืนที่ลูกร้องให้งอแง เเละคุณมีประชุมเเต่เช้าในวันพรุ่งนี้
  • คุณสามารถเสียสละสิ่งที่ชอบได้ไหม เช่น การเข้าโรงหนังทุกวันศูกร์ ไปนั่งชิลทุกวันเสาร์
  • คุณสามารถเสียสละความก้าวหน้าในที่ทำงานได้ไหม เช่น การประชุมถึงดึกทุกวันเป็นเวลาสามเดือน ความรับผิดชอบในงานที่เพิ่มขึ้นจนกินเวลาที่คุณต้องให้ลูก
  • คุณสามารถเสียสละของที่ชอบ เพื่อให้ลูกได้กิน เเม้ว่าสิ่งนั้นจะมีเเค่ชิ้นเดียว
  • คุณสามารถเสียสละจำนวนเงินที่เอามาซื้อของให้ตัว เพื่อซื้อของให้ลูกเเทน

คุณมีวุฒิภาวะเเค่ไหน

  • คุณจะมีความอดทนติดต่อกันยาวนานได้ไหม เมื่อต้องเจอวันที่ลูกงี่เง่าติดต่อกันหลายชั่วโมง หลายวัน
  • คุณจะอดทนได้ไหม ถ้าต้องรับมือการที่ลูกทำเสื้อผ้าเลอะเเล้วเลอะอีก หรือเวลาที่ลูกถามคำถามซ้ำๆ
  • คุณจะอดทนได้ไหม ถ้ามือหรือตัวคุณต้องรองรับ สิ่งปฏิกูลที่ออกมาจากตัวลูก (น้ำลาย น้ำมูก แหวะนม อาเจียน รวมถึงการขับถ่ายต่างๆ)
  • คุณจะอดทนได้ไหม เมื่อลูกพูดไม่รู้เรื่องสักที (ซึ่งเป็นไปตามวัยของเขา)
  • คุณจะอดทนได้ไหม เมื่อลูกทำในสิ่งที่ขายหน้าคุณมากที่สุด เพราะลูกเพียงเเค่อยากทำ

คุณพร้อมที่จะอยู่กับเด็กๆ เเค่ไหน

  • คุณจะเข้าใจลูกไหม ในวันที่เขาทำตามพัฒนาการที่เป็นไปตามวัย เช่น ทิ้งของลงพื้น หรือขว้างปาของ
  • คุณจะเข้าใจลูกไหม ถ้าอยู่ๆ เขาก็งอแง เเลดูงี่เง่าในสายตาคุณ
  • คุณจะควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ไหม ในวันเเย่ๆ เพราะการปรี๊ดต่อหน้าลูกเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ
  • คุณจะมีจิตสำนึกต่อส่วนรวมได้ไหม หากลูกคุณสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น (คุณจะรู้ตัวไหมว่าคนอื่นเดือดร้อน)

คุณพร้อมที่จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกได้ไหม

  • พิจารณาตัวเองเเละคู่ชีวิต ว่าสิ่งที่คุณเป็นอยู่หรือคู๋ของคุณทำอยู่ คือการเป็นคนดีหรือยัง
  • เเละคุณเต็มใจจะเปลี่ยนทั้งตัวเองเเละสามี/ภรรยาหรือไม่ หากมีสิ่งที่ต้องเปลี่ยน
  • ความชั่วหรือตัวอย่างที่ไม่ดีทำง่าย เเต่คุณจะยับยั้งตัวเองได้ไหม ไม่ต้องทำสิ่งนั้น
  • คุณพร้อมที่จะรักลูกอย่างไม่มีเงื่อนไข เเละไม่คาดหวังในตัวลูกได้หรือไม่
  • คุณพร้อมเเค่ไหน ที่จะต้องดูเเลคนอีกคน ไปอย่างน้อยๆ ก็ 20 ปี

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ลองดูค่ะว่าคุณพร้อมกี่ข้อ เเละอีกกี่ข้อที่คิดว่าไม่พร้อม หรือไม่มั่นใจ การปรึกษาหรือพูดคุยกับพ่อแม่ของคุณเอง หรือพ่อแม่ของสามี/ภรรยา เพื่อคำเเนะนำดีๆ นั้นช่วยได้อย่างมาก

การอ่านพัฒนาการเด็ก เรื่องที่ต้องรู้ เเละเรื่องที่ต้องรับมือ ใน theAsianparent ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีค่ะ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณเเม่พร้อมที่จะเป็นพ่อแม่ของลูกน้อยที่อยู่ในท้องได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เเละพร้อมมากขึ้นอีกด้วย

ที่มา psychcentral

 

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

50 ข้อที่คุณอาจไม่รู้เมื่อกำลังจะได้เป็นพ่อแม่มือใหม่

เมื่อลูกน้อยเกิดมาพร้อมกับ เชื้อเอชไอวี

6 สิ่งที่แม่ลูกอ่อนพร้อมจะหยุดทำหลังมีลูก