ทาสแมวนั้นมาคู่กับบาดแผลจากน้องแมวแสนรักเสมอ โดยเฉพาะเวลาอาบน้ำให้น้องแมว แทบจะได้แผลกันทุกราย ในวันนี้ เราจะมาแนะนำให้รู้จักกับนวัตกรรมใหม่ สุดยอดตัวช่วยสำหรับทาสแมว ตู้เป่าขนแมว ที่จะช่วยให้การเป่าขนหลังอาบน้ำให้น้องแมวเป็นเรื่องง่าย ประหยัดเวลา และไม่โดนแมวข่วนอีกต่อไป! ไปดูกันเลย!
ทำไมถึงควรซื้อ ตู้เป่าขนแมว
เพราะการทำความสะอาดอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยงที่รักของเราเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งใครที่ปล่อยให้น้องแมวออกไปซุกซนนอกบ้าน ยิ่งต้องใส่ใจในเรื่องความสะอาดของสัตว์เลี้ยงเป็นพิเศษ เพราะเราไม่รู้เลยว่าน้องออกไปพบเจออะไรมาบ้าง ไปสัมผัสเชื้อโรคอะไรมาหรือเปล่า ดังนั้น การอาบน้ำและเป่าขนให้น้อง ๆ อย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญในการทำให้ทั้งน้องและทั้งเราอยู่ห่างจากเชื้อโรคนั่นเอง
และแน่นอน อย่างที่เรารู้ ๆ กันว่า การอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะน้องแมวที่ไม่ชอบน้ำ ไม่ใช่เรื่องง่ายแน่นอน ยิ่งเมื่อถึงขั้นตอนที่ต้องเป่าขนของน้องแล้ว วิธียอดนิยมที่เราจะเป็นการเป่าไดร์ หรือเป่าพัดลม ซึ่งใช้เวลานานมาก และยังอาจทำให้แห้งไม่สนิทจนอาจเกิดเชื้อราที่ขนของน้องแมวได้ด้วย ด้วยเหตุนี้ ตู้เป่าขนแมว จึงถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์ในการใช้งานในจุดนี้ เพื่อให้สามารถเป่าขนน้องแมวได้ง่าย และประหยัดเวลา
ตู้เป่าขนแมว คืออะไร ต่างจากใช้ไดร์เป่าอย่างไร
ตู้เป่าขนแมว จะช่วยเป่าขนของน้องแมวได้อัตโนมัติ โดยที่เพื่อน ๆ สามารถเอาเวลาไปทำงานอย่างอื่นได้ เพียงนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในตู้ จากนั้นกดทำงานตัวเครื่องก็จะเป่าขนอัตโนมัติได้ภายใน 30 – 45 นาที โดยที่คุณไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด นอกจากนี้ เหล่าทาสแมวอย่างเราก็ไม่ต้องเสี่ยงเจ็บตัวจากการโดนแมวข่วนอีกด้วย!
บทความที่เกี่ยวข้อง : 15 คาเฟ่หมาแมว ในกรุงเทพ ร้านไหน ที่ไปแล้วทำให้ใจฟู
ข้อดีของตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ
- ประหยัดเวลาในการเป่าขน เราสามารถนำเวลาที่ต้องใช้เป่าขนน้องแมวด้วยตนเอง ที่ใช้เวลานานบางครั้งเกือบ 1 ชั่วโมง ไปทำอย่างอื่นได้ เพราะเครื่องเป่าขนน้องแมวใช้เวลาโดยประมาณเพียง 30-45 นาทีเท่านั้น
- กำจัดเชื้อโรคและแบคทีเรียได้หมดจด บางครั้งการเป่าขนด้วยไดร์ปกติอาจจะทำได้เพียงแค่เป่าขนแห้ง แต่มันไม่ช่วยกำจัดเชื้อโรค แต่สำหรับเครื่องเป่าขนแล้วมันจะช่วยในการกำจัดเชื้อโรคที่จะทำให้สัตว์เลี้ยงไม่เกิดปัญหาขนและผิวหนังอีกด้วย
- ทำงานเสียงเบา เพราะคำนึงถึงความกลัวของสัตว์เลี้ยง การทำงานจึงมีเสียงที่เบา จึงทำให้ไม่ทำให้รำคาญทั้งคนและสัตว์เลี้ยง
- เคลื่อนย้ายง่ายและสะดวก เครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถพกพาไปใช้ที่อื่นได้
ข้อเสียของตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ
- ราคาแพง แม้ว่าจะราคาแพง ก็เปี่ยมไปด้วยคุณภาพเช่นกัน ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของน้องแมว จึงทำให้มีฟังก์ชันหลายอย่าง ส่งผลให้ราคาออกมาค่อนข้างสูงนั่นเอง
- ใช้พลังงานไฟฟ้า เพราะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า จึงทำให้ใช้ไฟฟ้าค่อนข้างมาก ในการรักษาอุณหภูมิให้คงที่เป็นเวลานานนั่นเอง
- ใช้ได้กับน้องแมวหรือสัตว์เลี้ยงขนาดเล็ก-กลางเท่านั้น เพราะขนาดของตู้เป่าขนนั้นไม่ใหญ่มาก จึงสามารถใช้ได้แค่สัตว์ที่มีขนาดเล็ก-กลางเท่านั้น
วิธีการเลือกตู้เป่าขนสัตว์เลี้ยงอัตโนมัติ
-
ขนาดของตู้เป่าขน
ด้วยสัตว์เลี้ยงแต่ละตัวจะมีขนาดต่างกัน ดังนั้นสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องพิจารณาคือ ขนาด ของตู้หรือเครื่องเป่าขน ว่ามันมีขนาดใหญ่พอที่จะให้สัตว์เลี้ยงของเราเข้าไปใช้งานหรือไม่ เพราะถ้าหากมันมีขนาดที่พอดีตัวเกินไป หรือแคบมากเกินไป มันจะทำให้สัตว์เลี้ยงของเราอึดอัดและอยู่ได้ไม่นานนั่นเอง
-
มีฟังก์ชันในการปรับอุณหภูมิ
ฟังก์ชันการปรับอุณหภูมิ ถือว่าสำคัญมากสำหรับตู้เป่าขนแมว เพราะเราจะได้ปรับให้ความร้อนพอดีหรือเหมาะสมสำหรับขนของสัตว์เลี้ยง ที่ไม่เหมือนกันในแต่ละตัว บางตัวมีขนที่ยาวมาก บางตัวมีขนสั้นมาก ก็เลือกใช้อุณหภูมิที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้บนตัวเครื่องควรจะมีหน้าจอที่คอยบอกอุณหภูมิแบบ Real Time ให้กับเราด้วยว่ามันทำความร้อนในเวลานั้น ๆ ที่ประมาณเท่าไหร่ เพราะหากเกิดปัญหา เราจะได้รีบนำสัตว์เลี้ยงออกมาได้ทันเวลานั่นเอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ไอเดีย ถ่ายรูปกับแมว เอาใจทาสหมา ทาสแมว ถ่ายรูปกับสัตว์เลี้ยงอย่างไรให้สวย
-
ฟังก์ชันการเชื่อมต่อกับมือถือ
สำหรับส่วนนี้ถือเป็นฟังก์เสริมที่ช่วยให้เจ้าของสะดวกสบายในการใช้งานมากยิ่งขึ้น ซึ่งปกติแล้วการเชื่อมต่อตู้เป่าขนกับมือถือจะใช้ WIFI หรือแอปพลิเคชันของทางแบรนด์นั้น ๆ โดยข้อดีตรงนี้จะช่วยทำให้เราสามารถควบคุม และรู้สถานะของเครื่องได้จากระยะไกล ไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งเฝ้าตลอดเวลา ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกสบายของเจ้าของแมวเป็นหลักค่ะ
-
วัสดุของตัวเครื่องเป่าขน
ตู้เป่าขนเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นเครื่องทำความร้อนชนิดหนึ่ง ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสำหรับสัตว์เลี้ยงของเรา วัสดุของตัวเครื่องจะต้องสามารถทนความร้อนได้เป็นอย่างดี ทั้งยังต้องมีความทนทานสูง สามารถรองรับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงได้มีประสิทธิภาพ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดในการใช้งานนั่นเอง
-
เสียงระหว่างการทำงาน
เพราะน้องแมวนั้นขี้กลัวต่อเสียงมาก หากเราเลือกเครื่องเป่าขน ที่มีเสียงในการทำงานที่เงียบ นอกจากจะไม่ทำให้สัตว์เลี้ยงไม่ตระหนก และดีต่อหูคุณแล้ว เพราะเสียงที่เบา จะทำให้ไม่ไปรบกวนคนภายในบ้านจนรู้สึกรำคาญ ดังนั้นนี่จึงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเลยค่ะ
-
มีกระจกใสและช่องระบายอากาศ
การที่ตู้เป่าขนมีกระจกใสจะทำให้เราสามารถเฝ้ามองสัตว์เลี้ยงของเราได้ ว่าเขารู้สึกอย่างไรบ้าง ยังคงปลอดภัยดีหรือไม่ในระหว่างอยู่ภายในตู้ ทั้งนี้ การให้น้องแมวได้มองออกมาข้างนอกยังช่วยลดความเครียดของสัตว์ได้ด้วย นอกจากนี้ตู้เป่ายังจะต้องมีช่องระบายอากาศ ที่ปล่อยความร้อน และทำให้น้องหมาน้องแมวสามารถหายใจได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของน้องนั่นเอง
-
ตรวจสอบประกันสินค้า
ตู้เป่าขนแมวที่มีคุณภาพส่วนใหญ่จะราคาค่อนข้างสูง ดังนั้นถ้าหากเครื่องเกิดพังขึ้นมา เราอาจจำเป็นจะต้องจ่ายเพื่อซ่อมค่อนข้างมาก ยิ่งถ้ามาเสียหลังจากซื้อไปไม่นานคงทำให้ใครหลายคนหัวเสียไม่ใช่น้อย ดังนั้นเพื่อความมั่นใจว่าสินค้าของเราจะมีประสิทธิภาพ เราควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องที่เราจะซื้อนั้นมีประกัน เพื่อให้เรานำไปเคลมได้เมื่อมีปัญหาตามมานั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับ ตู้เป่าขนแมว ที่เรานำมาแนะนำให้เพื่อน ๆ เหล่าทาสแมวกันในวันนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับทาสแมวที่ลำบากในการอาบน้ำเป่าขนให้น้องแมวมาก ๆ นอกจากจะประหยัดเวลา ง่าย และยังปลอดภัยกับน้องแมวอีกด้วย สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาตู้เป่าขนแมวลองนำบทความของเราไปพิจารณาเลือกซื้อกันได้นะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 ยี่ห้อ ห้องน้ำแมวอัตโนมัติ ยี่ห้อไหนดี ทำความสะอาดตัวเองได้
8 ของเล่นแมว ใน Shopee ไว้เล่นกับน้องแมวสนุก ๆ ที่ทาสแมวต้องมี!
รวม 9 อาหารแมว ที่น้องเหมียวต้องปลื้ม ยี่ห้อไหนดีกินแล้วอ้วน ขนสวย น่าฟัด
ที่มา : komchadluek