ดาบพิฆาตอสูร การ์ตูนญี่ปุ่น (มังงะ) ที่สร้างปรากฏการณ์ต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั่วโลกที่กำลังซบเซาอย่างหนัก โดยการทำสถิติให้ประเทศญี่ปุ่นกลับมาคึกคักเมื่อ ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ กลายเป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ทำรายได้สูงสุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ซึ่งแม้จะสร้างรายได้มหาศาลเพียงใด แต่การ์ตูนเรื่องนี้ยังถูกจัดเรทว่าเหมาะสำหรับเด็กอายุ 12-14 ปีขึ้นไปเท่านั้น
ทำไมจึงกำหนดเรทผู้ชมภาพยนตร์อยู่ที่ PG12
ในประเทศญี่ปุ่นมีการกำหนดอายุผู้ชมภาพยนตร์คือ PG12 กำหนดให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปีต้องมีผู้ปกครองชี้แนะ ส่วน R15+ คือ ห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีเข้าชม และR18+ อนิเมะ18+ดาบพิฆาตอสูร หาต่ำกว่านี้จะไม่สามารถเข้าชมได้ สำหรับการ์ตูนดาบพิฆาตอสูรฉบับภาพยนตร์อนิเมะอย่าง Mugen Ressha-hen (ศึกรถไฟสู่นิรันดร์) ถูกจัดอยู่ในเรท PG12 ซึ่งมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าตัวภาพยนตร์มีความสยดสยองมากเกินไปจนทำให้เด็กร้องไห้ ทั้งที่มีรายงานว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เหมาะสำหรับการดูเป็นครอบครัว แต่ไม่มีการอธิบายชัดเจนเกี่ยวกับเรทผู้เข้าชมอายุ 12 ปี ว่ามีฉากไม่เหมาะสม เช่นการล้างแค้น เข่นฆ่า เลือดสาด จึงเกิดเหตุการณ์เด็กๆ พากันร้องไห้
คอมเมนท์ของชาวญี่ปุ่นหลังชมภาพยนตร์
A: “หา… เพราะว่ามันเป็น R12 ไง ต้องคิดดูให้ดีนะว่าเนื้อเรื่องเหมาะจะให้ลูกของเราดูไหม ต้องคุยกับลูกให้ดี มันเป็นความรับผิดชอบของผู้ปกครอง”
B: “มันไม่ใช่ภาพยนตร์ครอบครัวนะ”
C: “ที่นั่งข้าง ๆ มีเด็ก 5 ขวบอยู่ด้วยนะ แต่รู้สึกเหมือนพ่อแม่จะอยากมาดูมากกว่าเลยพามาดูด้วย”
D: “เขียนกำหนดเรท R12 ไว้แล้วแท้ ๆ มีพ่อแม่ที่กล้าร้องเรียนแบบนี้ด้วยแฮะ”
E: “เดี๋ยวๆ ภาคหลักก็สยองเป็นปกติไม่ใช่เหรอ ยังไม่ได้ดูหรือไง”
F: “ไม่ใช่ว่าร้องไห้เพราะ…หรอกนะ”
อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่ได้ชือว่าสร้างจากอนิเมะจึงทำให้ผู้ใหญ่ชะล่าใจ อาจคิดว่าคือการจูงลูกหลานไปดู One Piece หรือโดราเอม่อน ถ้าอย่างนั้นเรามาทำความรู้จักการ์ตูนเรื่องดาบพิฆาตอสูรให้มากขึ้นกันสักนิดค่ะ
ความเป็นมาของ การ์ตูนดาบพิฆาตอสูร
จากหนังสือการ์ตูน ชื่อ ดาบพิฆาตอสูร (Demon Slayer) มีชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า คิเมะสึ โนะ ไยบะ ซึ่งเป็นเรื่องแนวผจญภัย-แฟนตาซี เขียนโดย โคโยฮารุ โกโตเกะ (Koyoharu Gotouge) ได้รับการตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 2016 จนถึงปัจจุบันมียอดขายมากกว่า 120 ล้านเล่ม และถูกนำไปสร้างเป็นซีรีส์อนิเมะทางโทรทัศน์อีกหลายตอน จนได้รับความนิยมไปทั่วประเทศ อนิเมะที่ทํารายได้สูงสุด 2021 ทำให้เป็นการ์ตูนที่สามารถทำรายได้ในญี่ปุ่นสูงถึง 2,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือราว 78,000 ล้านบาท) โดยล่าสุดในปี 2020 ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์อนิเมะเรื่อง “ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์” ซึ่งประสบความสำเร็จเช่นกัน
เรื่องย่อ
ดาบพิฆาตอสูร เล่าเรื่องราวในยุคไทโชของประเทศญี่ปุ่น มีเด็กหนุ่มผู้มีชื่อว่า “คามาโดะ ทันจิโร” เป็นลูกชายคนโตของครอบครัวที่มีอาชีพเผาถ่านขาย เขาเป็นเสาหลักในการทำงานเพื่อเลี้ยงดูแม่และน้องๆ หลังพ่อเสียชีวิต แต่แล้ววันหนึ่งในขณะที่ทันจิโรเดินทางกลับจากขายถ่าน เขาพบว่ามีอสูรบุกเข้ามาฆ่าครอบครัว เหลือน้องสาว “เนซึโกะ” เพียงคนเดียวที่รอดชีวิต แต่เธอกลับกลายเป็นอสูร ทำให้ทันจิโรตั้งใจฝึกฝนร่างกายเพื่อเป็นนักดาบที่เก่งกาจแห่งหน่วยพิฆาตอสูร เพราะเขามีภารกิจในการตามชำระแค้น และหาหนทางให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเดิมอีกครั้ง
ตัวละครหลัก รูปภาพอนิเมะดาบพิฆาตอสูร
คามาโดะ ทันจิโร่
ลูกชายคนโตของตระกูลคนเผาถ่าน ครอบครัวของเขาถูกอสูรฆ่าตายในขณะที่เขาออกไปขายถ่านในเมือง เหลือเพียงเนะซึโกะ น้องสาวของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้นที่รอดชีวิต เขาตัดสินใจเข้าร่วมกลุ่มนักล่าอสูร เพราะเป้าหมายของเขาคือหาทางรักษาเนะซึโกะให้กลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง
คามาโดะ เนะซึโกะ
น้องสาวของทันจิโร่ และเป็นลูกสาวของครอบครัวคนเผาถ่าน เธอรอดชีวิตเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่จากเหตุการณ์อสูรบุกเข้าโจมตีครอบครัวคามาโดะ แต่การโจมตีนั้นได้ทำให้เธอกลายเป็นอสูรไป แม้กระนั้นเนะซึโกะก็ผิดจากอสูรที่เกิดใหม่ตนอื่นๆ เพราะเธอสามารถคงสติสัมปชัญญะบางส่วนในช่วงก่อนที่จะกลายเป็นอสูร ทำให้เธอยังคงจดจำทันจิโร่ได้ว่าเป็นพี่ชายและไม่ทำร้ายเขา
อากัตสึมะ เซ็นอิตสึ
เด็กหนุ่มขี้ขลาดซึ่งถูกบังคับให้เข้าร่วมกลุ่มนักล่าอสูรในรุ่นเดียวกับทันจิโร่เพื่อชดใช้หนี้สิน เขาได้ร่วมกลุ่มกับทันจิโร่ในภารกิจหนึ่งและเริ่มติดตามทันจิโร่มานับตั้งแต่นั้น เหตุผลส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาหลงใหลในความน่ารักของเนะซึโกะ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เพราะเขายอมรับในความใจดีและความซื่อตรงของทันจิโร่ด้วย
ฮาชิบิระ อิโนะสุเกะ
อิโนะสุเกะเป็นเด็กหนุ่มที่ถูกหมูป่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่ยังอยู่ในวัยทารก อิโนะสุเกะเป็นคนหุนหันพลันแล่นและมักชอบใช้ความรุนแรงในการตัดสินปัญหา รั้ง รูปลักษณ์ภายนอกของเขาเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อมากและเนื้อตัวหยาบกร้าน ผิดกับใบหน้าที่งดงามราวกับผู้หญิงอย่างน่าประหลาด ซึ่งปกติเขาจะปิดบังไว้ด้วยหน้ากากหัวหมูป่าอยู่เสมอ
จากมังงะยอดนิยม สู่ภาพยนตร์
กระแสฮิตของมังงะเรื่องนี้นำไปสู่การสร้างซีรีส์อนิเมะที่ใช้ชื่อว่า Demon Slayer: Kimetsu No Yaiba หรือ “ดาบพิฆาตอสูร” ในปี 2020 ทั้งหมด 26 ตอนจบ กลายเป็นอนิเมะที่ได้รับความนิยมไปทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทยเองเรื่องนี้ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะซับไทยที่ฉายผ่าน Netflix ติดอันดับ Top 10 ซีรีส์ที่คนไทยเข้าชมมากที่สุดหลายสัปดาห์ติดต่อกัน
ปีที่ผ่านมาการ์ตูนเรื่องนี้ยังถูกนำไปสร้างเวอร์ชั่นภาพยนตร์ “ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์” (Demon Slayer: Kimetsu no Yaiba the Movie: Mugen Train) ซึ่งเป็นภาคต่อจากซีรีส์อนิเมะ โดยในภาพยนตร์ยังคงมีตัวละครหลักที่แฟนๆ ชื่นชอบ และตัวละครใหม่เข้ามาเพิ่มสีสัน โดยเล่าเรื่องราวการต่อสู้ของทันจิโรอีกเช่นเคย แต่ครั้งนี้เขาและเพื่อนๆ นักดาบหน่วยพิฆาตอสูรต้องไปทำภารกิจปราบปิศาจบนรถไฟนิรันดร์ เพื่อต่อสู้กับ “เอ็นมุ” อสูรข้างแรมฝีมือฉกาจ ทำให้เรื่องราวการต่อสู้แสนสนุกเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
คล้ายว่าเป็นเพียงการ์ตูนผจญภัยธรรมดา แต่ด้วยเนื้อเรื่องกว่าครึ่งเป็นการต่อสู้ ฆ่าล้างแค้น ฉากหลายฉากที่เผยแพร่ออกมาเป็นภาพยนตร์และซีรีส์บน Netfilx ผู้ใหญ่หลายท่านที่เป็นคุณพ่อคุณแม่อาจมีความเป็นห่วงว่าการ์ตูนเรื่องนี้อาจไม่เหมาะกับเด็กเท่าไหร่นัก ลองมาดูกันว่า เหมาะกับเด็กอายุเท่าไร และมีเรื่องใดที่น่าเป็นสำหรับเด็กบ้าง
บทความที่เกี่ยวข้อง: 8 การ์ตูนที่เด็กไม่ควรดู การ์ตูนเรื่องไหนบ้างต้องมีพ่อแม่ คอยดูด้วย
เหมาะสมกับเด็กอายุ 14 ปีขึ้นไป
จากเว็บไซต์ www.commonsensemedia.org แนะนำว่า เป็นการ์ตูนที่เหมาะสำหรับเด็กอายุ 14 ปีขึ้นไปซึ่งเว็บดังกล่าวจะมีการจัดเรตรายการสำหรับเยาวชน ทั้งการ์ตูน ภาพยนตร์ หรือซีรีส์สำหรับเด็ก โดยแบ่งแต่ละช่วงวัย แบ่งเรทของสื่อที่ให้เด็กดูจากการวิเคราะห์ของนักจิตวิทยาและผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องว่าสื่อนั้นเหมาะสำหรับช่วงอายุใดนั่นเอง
แน่นอนว่าเป็นการยากที่จะห้ามลูกอายุต่ำกว่า 14 ปีรับชมการ์ตูนสุดฮิตเรื่องนี้ ดังนั้นหากลูกจะดูคุณพ่อคุณแม่ควรนั่งดูการ์ตูนเรื่องนี้กับลูกและสอนพวกเขาไปพร้อมๆ กัน อย่างน้อยเพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ปกครองที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปพร้อมกับเด็ก และที่สำคัญพวกเขาก็จะไว้ใจคุณถึงเรื่องที่จะปรึกษาหากอยากดูการ์ตูน ภาพยนตร์สักเรื่อง
ข้อดีในเรื่องตัวละครที่เป็นแบบอย่างที่ดี
ข้อดีรคือ เรื่องความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว เนื่องจากตัวละครเอกอย่างทันจิโร่ เขาเป็นคนรักครอบครัวและน้องสาวมาก หลังจากที่สูญเสียพ่อแม่ไป และเหลือน้องสาวเพียงคนเดียว แถมน้องยังกลายเป็นอสูร เขาก็ไม่ยอมแพ้ กลับไปฝึกร่างกายและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อให้น้องสาวกลับมาเป็นมนุษย์เหมือนเดิม อีกทั้งเขายังเป็นคนที่มีจิตใจดี และสามารถคลายปมในใจอสูรที่เป็นศัตรูของเขาอย่างอ่อนโยนอีกด้วย
ทันจิโร่ยังเป็นคนที่มีความพยายามและกล้าหาญเป็นอย่างมาก ส่งผลไปสู่ตัวละครอื่นๆ ทำให้ตัวละครทุกตัวมีพัฒนาการ เชื่อมั่นในตนเอง และพร้อมที่จะพัฒนาตัวเองโดยมีทันจิโร่เป็นแบบอย่าง จุดนี้เองคุณพ่อคุณแม่สามารถนำเรื่องนี้มาใช้ในการพูดคุยกับลูก เพื่อให้เขารู้สึกว่าตนเองก็สามารถเป็นคนมุ่งมั่น มีความพยายาม และกล้าหาญแบบทันจิโร่ได้เหมือนกัน
มีภาพความรุนแรงให้เห็นเป็นระยะ
เรื่องนี้มีมีฉากต่อสู้ ฆ่าฟัน เพราะตามเรื่องนั้นคือจุดเปลี่ยนของพระเอกและเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เหมาะสำหรับเด็กอายุ 14 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะเรื่องของความรุนแรง เพราะเนื้อเรื่องเต็มไปด้วยเหตุการณ์การตามล่าอสูร มีฉากเข่นฆ่า เลือดสาดน่ากลัว ซึ่งการ์ตูนเรื่องนี้ก็แสดงฉากเลือดสาดอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมีภาพการแทงคน ฟันแขน-ขา หรือตัดคอ ในหลายๆ ฉากที่รุนแรงและฉากที่อสูรกกินเนื้อมนุษย์ ทั้งที่นักล่าอสูรในเรื่องส่วนใหญ่จะยังอายุน้อย ราวๆ เด็กวัยรุ่น ต่างจากอสูรที่มีชีวิตยืนยาวกว่ามนุษย์ ส่งให้เห็นอีกมุมที่ถือว่าเป็นการใช้ความรุนแรงของเยาวชนก็เป็นได้
ในทางเศษฐกิจคือการ์ตูนที่มากู้วิกฤติเศรษฐกิจญี่ปุ่น
นโยบาย Cool Japan ของรัฐบาลญี่ปุ่นที่ส่งเสริมเอกลักษณ์ของประเทศ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการผลักดันสินค้าและบริการอันเป็นเอกลักษณ์ของญี่ปุ่น เช่น มังงะ การ์ตูน อนิเมะ ภาพยนตร์ เพลง ดนตรี เกม ฯลฯ เพื่อหวังเจาะกระแสตลาดกระแสความนิยมในต่างประเทศ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวทำให้ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวที่ญี่ปุ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งอุตสาหกรรมภาพยนตร์ก็ถือเป็นอีกหัวใจหลักที่สร้างรายได้มหาศาลให้แก่ประเทศ ทั้งในรูปแบบลิขสิทธิ์ สินค้า บริการ และการท่องเที่ยวต่างๆ
ด้วยลายเส้นที่สวยงาม เนื้อหาที่สนุกสนาน พร้อมข้อคิดดีๆ ที่สอนให้ไม่ยอมจำนนต่ออุปสรรคในชีวิต ล้วนเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ครองใจผู้ชมส่วนใหญ่ แต่ในขณะเดียวกัน การได้รับการส่งเสริมจากรัฐบาลญี่ปุ่นอย่างจริงจัง ก็ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกอบกู้วงการภาพยนตร์ให้รอดพ้นจากวิกฤติ
เมื่อภาพยนตร์ “ดาบพิฆาตอสูร เดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์” เข้าฉายในเดือนตุลาคม 2020 และเกิดกระแส “ดาบพิฆาตอสูรฟีเวอร์” ท่ามกลางสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในรอบปีที่ผ่านมา จะทำให้เศรษฐกิจในทุกวงการซบเซาอย่างเห็นได้ชัด แต่ในวงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นกลับมีคนญี่ปุ่นยอมซื้อตั๋วเข้าโรงภาพยนตร์ สอดคล้องกับแนวทางของภาครัฐที่ไม่ได้สั่งปิดโรงภาพยนตร์ แต่ออกกฎให้ผู้ชมปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการแพร่เชื้อ และรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัดนั่นเอง
อะไรทำให้ ทำให้ผู้ชมประทับใจ
เรื่องราวการต่อสู้ การพัฒนาตัวเอง และไม่ยอมแพ้อุปสรรคของทันจิโร่ คือหัวใจที่ปลุกคนให้มีพลัง เนื่องจากนับตั้งแต่เข้าฉาย ดาบพิฆาตอสูร ทำรายได้ในโรงภาพยนตร์ เฉพาะในประเทศญี่ปุ่น เป็นมูลค่ากว่า 32,500 ล้านเยน (ประมาณ 9,465 ล้านบาท) ขึ้นแท่นมังงะที่ทำเงินสูงสุดตลอดกาล ล้มแชมป์เก่าที่ครองสถิตินานถึง 19 ปี อย่าง “Spirited Away” ผลงานชื่อดังดีกรีรางวัลออสการ์ ของสตูดิโอจิบลิ ที่เคยทำรายได้ไว้ที่ 31,700 ล้านเยน (ประมาณ 9,200 ล้านบาท) ซึ่งในทำเนียบภาพยนตร์ญี่ปุ่น มีอนิเมะเพียง 2 เรื่องนี้เท่านั้นที่ทำรายได้สูงเกิน 30,000 ล้านเยน
ประสบความสำเร็จอย่างงดงามในบ้านเกิด
หลังจากนั้นจึงเริ่มเดินสายฉายในต่างประเทศ แม้จะถูกจำกัดโรง เนื่องจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่จากข้อมูลของ Box Office Mojo เว็บไซต์รายงานตัวเลขรายได้ของภาพยนตร์ทั่วโลก ระบุว่าตั้งแต่เข้าฉายจนถึงปัจจุบัน “ดาบพิฆาตอสูรเดอะมูฟวี่: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์” กวาดรายได้ทั่วโลกไปแล้ว 318 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9,500 ล้านบาท) นับเป็นอนิเมะสุดฮิตที่สร้างรายได้และทำกำไรให้วงการภาพยนตร์ญี่ปุ่นท่ามกลางสภาวการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ ทั้งนี้ ภาพยนตร์ก็เข้าฉายในประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคมปี 2020 และทำรายได้ในไทยทะลุ 100 ล้านบาทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
บทความที่น่าสนใจ :
11 ตัวการ์ตูนยอดฮิตขวัญใจเด็ก ๆ ที่ลูกเห็นแล้วจะต้องชอบ
อัปเดตใหม่ การ์ตูน Netflix เรื่องไหนที่ผู้ใหญ่ก็ดูได้ เด็กก็ชื่นชอบ
รวมลิสต์การ์ตูน 33 เรื่องใน Disney+ Hotstar การ์ตูนดิสนีย์ ที่ควรค่าแก่การคิดถึง
ที่มา: thairath , sanook , parentsone, otakomu