วิธีแก้อาการเมาสำหรับเด็ก ลูกเมารถ เมาเรือ ต้องทำยังไงดี?

lead image

คุณทราบไหมว่าลูกเมารถ เมาเรือ และเมาเครื่องบินได้มากกว่าผู้ใหญ่ วิธีแก้อาการเมาสำหรับเด็ก ถ้าลูกเมารถ เมาเรือ ต้องทำยังไงดี?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

อาการเมารถ เมาเรือ ในเด็ก เป็นปัญหาที่พบได้ และบางครั้งอาจพบบ่อยในครอบครัวนักเดินทางที่มักชวนกันขึ้นรถลงเรือไปทำกิจกรรมสนุกๆ โดยเฉพาะการเดินทางออกต่างจังหวัด ซึ่งอาการเมานี้จะสร้างความไม่สบายตัวให้กับลูกน้ออย่างมาก คุณพ่อคุณแม่จึงควรทราบวิธีรับมือและบรรเทาอาการเหล่านี้อย่างถูกวิธี เพื่อให้การเดินทางของลูกน้อยราบรื่นและมีความสุขมากยิ่งขึ้น มาดูกันค่ะว่า วิธีแก้อาการเมาสำหรับเด็ก ลูกเมารถ เมาเรือ ต้องทำยังไง?

ทำไม? ลูกเมารถ

อาการเมารถ เกิดจากประสาทรับรู้การเคลื่อนไหวของหูชั้นในมีการทำงานที่ไม่สัมพันธ์กันกับภาพที่ตามองเห็นค่ะ สมองจึงเกิดความสับสน เพราะได้รับสัญญาณภาพที่ขัดแย้งกัน ส่งผลให้เกิดเป็นอาการเมารถในที่สุด โดยอาการลูกเมานั้นสามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างการนั่งรถ เรือ เครื่องบิน หรือยานพาหนะที่มีการเคลื่อนที่แบบโคลงเคลง คดเคี้ยว หรือเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาเป็นระยะเวลานานค่ะ 

จากผลงานวิจัยซึ่งตีพิมพ์ใน PubMed.Gov  อันเป็นบริการฐานข้อมูลด้านแพทยศาสตร์ และสถาบันสุขภาพแห่งสหรัฐอเมริกา ทีมงานศึกษากลุ่มตัวอย่างในประเทศฝรั่งเศส พบว่า 31.1% ของเด็ก มีแนวโน้มที่จะเกิดอาการเมารถ เมาเรือ และเมาเครื่องบินได้ เมื่อต้องเดินทาง ในขณะที่ 7.9% ของผู้ใหญ่มีอาการนี้

ทั้งนี้ อาการลูกเมารถ เมาเรือ และเมาเครื่องบินมี ระดับความรุนแรงที่แตกต่างกันออกไป แต่บางทีอาการเมาในเด็กก็สังเกตได้ยากเหมือนกัน เพราะส่วนใหญ่เรามักคิดว่าเด็กไม่ชอบอยู่เฉยๆ นอกจากอาการจะรุนแรงจริงๆ ค่ะ

บทความเกี่ยวข้อง: เทคนิคการขับรถเที่ยวกับลูก

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เด็กกลุ่มไหน? เสี่ยงกับการเมารถ

  • อยู่ในช่วงวัย 2-12 ปี
  • เด็กที่มีประสาทการรับรู้การเคลื่อนไหวเร็ว
  • มีประวัติป่วยด้วยโรคไมเกรน
  • มีการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคหืด ยาต้านอาการซึมเศร้า ยาไอบูโพรเฟน ยานาพรอกเซน

สังเกตอาการ ลูกเมารถ

อาการลูกเมารถ อาจดูได้จากอาการต่อไปนี้ ซึ่งบางครั้งก็เกิดร่วมกับอาการอื่นได้ด้วยเช่นกันค่ะ

  • คลื่นไส้
  • ตัวเย็น
  • อาเจียน
  • มึนศีรษะ
  • เหนื่อยเพลีย
  • ปวดศีรษะ
  • น้ำลายเยอะ
  • หน้าซีด

วิธีแก้อาการเมาสำหรับเด็ก ลูกเมารถ จัดการได้

อาการเมา ไม่ว่าจะเป็นของลูก หรือของคุณพ่อคุณแม่ อาจทำลายบรรยากาศการพักร้อน หรือวันหยุดของครอบครัวให้กลายเป็นเรื่องน่ากังวลทันที แต่เราก็พอมีแนวทางการป้องกันอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน ของลูกมาฝาก เพื่อการเดินทางพักผ่อนที่สนุกตลอดทริป ดังนี้ค่ะ

  1. ควรให้ลูกกินอาหาร ในปริมาณที่พอเหมาะ พยายามหลีกเลี่ยงอาหารมัน และอาหารที่หนักท้องเกินไป หรือทำให้ลูกอิ่มเกินไป
  2. พาลูกเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำในคืนก่อนออกเดินทาง เพื่อให้ลูกหลักพักผ่อนได้อย่างเต็มที่
  3. ปรับที่นั่ง หรือคาร์ซีทของลูกน้อยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่รถวิ่ง โดยปรับที่นั่งให้สูงพอที่ลูกจะได้ดูทัศนียภาพตลอดการเดินทาง กรณีเป็นการเดินทางโดยเรือและเครื่องบิน ควรเลือกที่นั่งแถวกลางให้ลูก เนื่องจากที่นั่งแถวกลางจะไม่ค่อยได้รับการกระทบกระเทือน หรือแรงที่โยกโคลงเคลงมากนัก
  4. เปิดเครื่องปรับอากาศในรถให้เย็นสบาย ในอุณหภูมิที่เหมาะสม มีอากาศถ่ายเท หรือเปิดระบบหมุนเวียนอากาศในรถ
  5. เตรียมของเล่นที่ลูกชอบติดรถไปด้วย เพื่อให้เป็นกิจกรรมภายในรถที่ดึงดูดให้ลูกสนใจ แต่ไม่ควรให้ลูกอ่านหนังสือ หรือเล่นวิดีโอเกมในรถเพราะจะยิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการเมาได้
  6. หากต้องการได้บรรยากาศที่สนุก ลองชวนกันเล่นเกมที่ใช้สายตาบนท้องถนน เช่น แข่งกันนับว่าเห็นรถสีต่างๆ กี่คัน เล่นเกมบวกเลขจากแผ่นป้ายทะเบียนรถ ทายปัญหาอะไรเอ่ย หรือเล่นต่อเพลงก็ได้ค่ะ
  7. หากมีการแวะตามจุดพักระหว่างทาง ควรให้ลูกลงจากรถเพื่อไปสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอก หรือผ่อนคลายอิริยาบถ ก็จะช่วยบรรเทาอาการเมาสำหรับเด็กได้ค่ะ
  8. ให้ลูกดมยาดม หรือน้ำมันหอมระเหย จะสามารถช่วยลดความรุนแรงของอาการเมารถได้

วิธีเหล่านี้ เป็นแนวทางป้องกันอาการเมารถ เมาเรือ เมาเครื่องบิน สำหรับเด็ก นอกจากนี้ ยังมีวิธีที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่งคือ การกินยาแก้เมา แต่ควรปรึกษาเภสัชกร หรือแพทย์ ก่อนใช้ยานะคะ ที่สำคัญคือ หากเลูกน้อยมีอาการรุนแรง หรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ไข้สูง หรือปวดท้องรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พาลูกเดินทางยังไงให้ปลอดภัยทุกทริป

นอกจากการดูแลและให้ความใส่ใจเรื่องอาการเมารถของลูกน้อยแล้ว การพาลูกเดินทางอย่างปลอดภัยถือเป็นสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิถีพิถันดูแลเป็นพิเศษนะคะ เพื่อให้การเดินทางราบรื่นและลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เรามีคำแนะนำในการพาลูกเดินทางอย่างปลอดภัยมาฝาก ดังนี้ค่ะ

  • เตรียมความพร้อมก่อนการเดินทาง

  1. ตรวจสอบยานพาหนะ
  • หากเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว ควรตรวจสอบสภาพรถให้พร้อมใช้งาน ตรวจเช็กลมยาง น้ำมันเครื่อง และระบบเบรก
  • กรณีเดินทางด้วยเครื่องบิน รถไฟ หรือเรือ ควรตรวจสอบตารางการเดินทางและข้อกำหนดต่างๆ ของสายการบินหรือบริษัทขนส่งให้ละเอียดถี่ถ้วน
  1. เตรียมอุปกรณ์จำเป็น
  • ควรมีการติดตั้งคาร์ซีทสำหรับเด็กที่ได้มาตรฐาน และติดตั้งอย่างถูกต้อง
  • เตรียมยาประจำตัว ยาแก้เมารถ เมาเรือ และชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น
  • ตุนอาหารว่าง น้ำดื่ม และของเล่นที่ลูกชอบ เพื่อให้ลูกไม่เบื่อระหว่างเดินทาง
  • เลือกเสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศของสถานที่ที่จะไป
  1. วางแผนการเดินทาง
  • วางแผนเส้นทางและจุดพักระหว่างทาง เพื่อลดความเหนื่อยล้าในการเดินทาง
  • เผื่อเวลาในการเดินทางให้มากขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด

  • ระหว่างการเดินทาง

  1. การใช้คาร์ซีท
  • เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหลัง
  • เด็กอายุ 2-7 ปี ควรนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางด้านหน้า
  • เด็กอายุ 8-12 ปี ควรใช้เบาะเสริม (booster seat) และคาดเข็มขัดนิรภัย
  1. การเดินทางด้วยรถยนต์
  • คาดเข็มขัดนิรภัยให้ลูกทุกครั้ง ไม่ปล่อยให้ลูกเล่นซนในรถ หรือยืนบนเบาะรถ
  • ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวในรถ
  • พักรถทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกได้ยืดเส้นยืดสาย
  1. การเดินทางด้วยเครื่องบิน
  • ศึกษาข้อกำหนดของสายการบินเกี่ยวกับการเดินทางกับเด็ก
  • เตรียมอุปกรณ์ที่ช่วยให้ลูกสบายตัว เช่น ผ้าห่ม หรือหมอนรองคอ
  • เตรียมกิจกรรมให้ลูกทำระหว่างเดินทาง เช่น อ่านหนังสือ หรือดูการ์ตูน
  1. การเดินทางด้วยรถไฟหรือเรือ
  • ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นตามลำพัง
  • ระวังบริเวณที่เป็นอันตราย เช่น ประตู หรือบันได

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ความปลอดภัยที่สถานที่ท่องเที่ยว

  1. ควรดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ลูกอยู่ตามลำพังในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย รวมถึงสอนให้ลูกรู้จักชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครอง และต้องกำหนดจุดนัดพบ เผื่อกรณีฉุกเฉินพลัดหลงกับลูกด้วย
  2. ระมัดระวังอันตราย ทั้งจากยานพาหนะ สัตว์ หรือสิ่งของที่เป็นอันตราย โดยดูแลลูกไม่ให้เข้าใกล้แหล่งน้ำ หรือหน้าผา
  3. ควรเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน ครีมกันแดด หมวก และแว่นตากันแดด สำหรับป้องกันแสงแดด รวมทั้งยากันยุง สำหรับป้องกันแมลงด้วย
  4. เตรียมเบอร์โทรศัพท์ฉุกเฉิน เบอร์โทรศัพท์ของสถานพยาบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

 

Source : guavafamily

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ :

พาลูกเที่ยวต่างแดนให้ปลอดภัย

หน้าร้อนนี้พาครอบครัวไปเที่ยวไหนดี

พาลูกขึ้นเครื่องบิน แบบหมดห่วง ด้วยการวางแผนเที่ยวกับลูกน้อย เพื่อการเดินทางอย่างสบายใจ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team