สืบเนื่องจากวิกฤตการณ์น้ำมันในปี พ.ศ. 2516 ทำให้นักอนุรักษ์ทั่วโลกเริ่มหวั่นเกรงว่า ทรัพยากรธรรมชาติสำคัญอย่างน้ำมันจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของคนทั่วโลก ซึ่งอย่างที่ทุกคนรู้ดีว่า น้ำมันเป็นซึ่งพลังงานหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของทั่วโลก แม้ว่าจะมีการพัฒนาพลังงานอื่น ๆ มาทดแทน แต่น้ำมันก็ยังมีความสำคัญอย่างมาก จึงได้เริ่มมีการรณรงค์ลดการใช้น้ำมันน้อยลง จนกลายมาแนวคิด วันคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day) นั่นเอง
ก่อนจะมาเป็นวันคาร์ฟรีเดย์ (Car free day)
ความจริงแล้ว การทำกิจกรรมเพื่อรณรงค์ลดการใช้รถยนต์นั้น เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2499 ที่ประเทศเบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ ภายใต้งาน Car Free Sundays เป็นกิจกรรมที่รณรงค์ให้คนลดการใช้รถยนต์ในวันอาทิตย์ เป็นเวลา 3 เดือน ต่อมาในประเทศอื่น ๆ อย่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ สเปน และเดนมาร์ก มีการประชุมระดับนานาชาติในเรื่องดังกล่าวกันหลายครั้ง จนทำให้ในปี พ.ศ. 2541 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานของฝรั่งเศส ได้ร่วมมือกับ 34 เมืองทั่วประเทศ ให้วันที่ 22 กันยายน รณรงค์ภายใต้โครงการ “En ville, sans ma voiture?” ซึ่งหมายความว่า เมืองจะปลอดรถยนต์สักหนึ่งวันจะได้ไหม?
จากนั้นในวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2542 ฝรั่งเศส ก็ยังจัดกิจกรรมนี้เป็นครั้งที่ 2 ในขณะที่อิตาลีเริ่มทำเป็นครั้งแรก บางประเทศก็เริ่มจัดเช่นกัน แต่ยึดเอาตามต้นแบบ คือ จัดในวันอาทิตย์ของเดือนกันยายน จนในที่สุดในปี พ.ศ. 2543 ก็มีประตกลงกันว่าทุกประเทศทั่วโลกจะกำหนดวันที่ 22 กันยายน ของทุกปี เป็นวันคาร์ฟรีเดย์โลก (Car Free Day)
บทความที่เกี่ยวข้อง: 8 สิงหาคม วันแมวโลก (World Cat Day) เพื่อช่วยเหลือน้องเหมียวที่ถูกทำร้าย
จุดประสงค์หลักของการจัดตั้งวัน วันคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day)
หลัก ๆ เลยเป็นการรณรงค์ให้คนทั่วโลกลดการใช้น้ำมัน เมื่อคนใช้รถยนต์ลดน้อยลง ก็จะลดการปล่อยมลภาวะออกสู่อากาศ ทั้งยังลดมลภาวะทางเสียง ลดความหนาแน่นของรถยนต์ถนน ทำให้ลดติดน้อยลง และเมื่อมีคนใช้รถยนต์น้อยลง ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดปัญหาการจราจรและอุบัติเหตุได้ด้วย
วันคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day) ในประเทศไทย
ในส่วนของประเทศไทยนั้น ได้เริ่มรณรงค์กิจกรรม วันคาร์ฟรีเดย์ (Car Free Day) มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา และได้จัดกิจกรรมรณรงค์เรื่อยมา โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นในลักษณะการทำกิจกรรมปั่นจักรยาน เพื่อรณรงค์ให้คนทิ้งรถไว้ที่บ้าน แล้วออกมาทำกิจกรรมด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ถึงจะมีการกำหนดวันที่ 22 กันยายน ของทุกปี เป็นวันคาร์ฟรีเดย์ หรือวันที่ทุกคนจะมาช่วยกันไม่ใช้รถยนต์ ประหยัดพลังงาน แต่ความจริงแล้ว ทุกคนสามารถทำได้มากกว่าเพียงปีละ 1 วัน แต่สามารถทำได้เท่าที่ต้องการ
แม้ว่าเราจะเป็นแค่คนตัวเล็ก ๆ แต่หากคนตัวเล็ก ๆ หลายคนร่วมกันลดใช้รถยนต์ส่วนตัว และหันมาใช้การเดินทางสาธารณะด้วยวิธีอื่น ๆ ก็จะช่วยทำให้ผลลัพธ์เกิดขึ้นได้อย่างเป็นรูปธรรม อย่างไรก็ตาม ภาครัฐเองก็ต้องมีหน้าที่ในการสนับสนุนให้คนใช้รถยนต์น้อยลง ด้วยการสร้างระบบการขนส่งสาธารณะให้มีประสิทธิภาพ ราคาไม่แพง เพียงพอต่อความต้องการ เพื่อให้คนอยากหันมาใช้และจอดรถไว้ที่บ้านมากยิ่งขึ้น
บทความที่เกี่ยวข้อง: วันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก 10 กันยายน มาป้องกันเรื่องน่าเศร้านี้ไปพร้อมกัน
อ้างอิง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 13 (ชลบุรี)
บทความที่เกี่ยวข้อง
ประวัติประเพณีวันสงกรานต์ หรือวัฒนธรรมของวันสงกรานต์ มีอะไรน่าสนใจบ้าง
เทศกาล เด็กร้องไห้ Naki Sumo เด็กคนไหนร้องไห้ก่อน คนนั้นชนะ
ประวัติวันเข้าพรรษา วันเข้าพรรษา 2564 และกิจกรรมในวันเข้าพรรษา