คนท้องดูดบุหรี่ไฟฟ้าได้หรือไม่ อันตรายน้อยหรือมากกว่าสูบบุหรี่ปกติ?
ขึ้นชื่อว่าบุหรี่ คงไม่มีใครปฏิเสธว่ามันย่อมไม่ดีกับสุขภาพอย่างแน่นอน แต่บางคนก็เลี่ยงที่จะไปดูดบุหรี่ไฟฟ้าแทน เพราะหลายคนต่างเข้าใจว่า การดูดบุหรี่ไฟฟ้านั้น มีความปลอดภัย และจะช่วยให้เราสามารถเลิกสูบบุหรี่ที่มีกลิ่นเหม็นได้นั่นเอง จนบางคนที่เริ่มตั้งครรภ์แต่ติดบุหรี่จึงตั้งคำถามว่า คนท้องดูดบุหรี่ไฟฟ้าได้หรือไม่ เพื่อจะได้เปลี่ยนจากดูดบุหรี่ปกติมาเป็นแบบไฟฟ้าแทน
เมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ทางองค์การอนามัยโลก WHO ได้เผยแพร่รายงานเตือนถึงอันตรายที่เกิดจากบุหรี่ไฟฟ้าว่า ควันบุหรี่ไฟฟ้านั้น เป็นอันตรายต่อทั้งตัวผู้สูบเอง และคนรอบข้าง โดยสารนั้นสามารถทำลายการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ และส่งผลต่อสมองของผู้ที่ได้สูดดมเข้าไปด้วย ดังนั้นหากจะถามว่า คนท้องดูดบุหรี่ไฟฟ้าได้หรือไม่ คำตอบก็ชัดเจนอยู่แล้วค่ะว่า ไม่ว่าจะบุหรี่แบบไหน ก็ไม่ส่งผลดีกับทุก ๆ คน โดยเฉพาะคนท้องนั่นเองค่ะ
บุหรี่ไฟฟ้า ปลอดภัยกว่าบุหรี่มวนธรรมดาจริงหรือ?
ผู้ผลิตบุหรี่ไฟฟ้า รวมถึงรัฐบาลบางประเทศต่างให้ความเห็นถึงบุหรี่ไฟฟ้านี้ว่า บุหรี่ไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสิงห์อมควัน และได้บอกว่ามันมีความปลอดภัยมากกว่าบุหรี่ปกติ และยังสามารถทำให้ผู้ที่ติดบุหรี่สามารถเลิกบุหรี่ได้โดยไม่เกิดความทรมาน แต่ในขณะเดียวกัน WHO กลับระบุว่า สิ่งที่ผู้ผลิตได้กล่าวอ้างนั้น ยังไม่มีหลักฐานชัดเจนเพียงพอว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะช่วยให้เลิกบุหรี่ได้จริง แต่กลับมีหลักฐานยืนยันว่า บุหรี่ไฟฟ้ามีโทษไม่แตกต่างจากการสูบบุหรี่ปกติเลยด้วยซ้ำ
คนท้องสูบบุหรี่ได้หรือไม่ ?
ไม่ว่าจะบุหรี่ธรรมดา หรือบุหรี่ไฟฟ้า การที่คุณจะสูบ หรือคนรอบข้างสูบในระหว่างที่คุณตั้งครรภ์อยู่นั้น ต่างก็ส่งผลเสี่ยต่อตัวทารกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุหรี่ไฟฟ้านั้น แม้ว่าจะไม่มีทาร์ ที่ผู้ผลิตได้โฆษณาว่าเป็นสารสำคัญที่ให้โทษกับร่างกาย แต่มันก็ยังมีสารเคมีตัวอื่นที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้เช่นกัน เช่น ฟอร์มาลดีไฮด์ โพรพิลีนไกลคอล ตะกั่วหนัก และสารอื่น ๆ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ก็คือสารเสพติดชนิดหนึ่งนั่นเอง
ดังนั้นควันที่ลอยออกมาจากบุหรี่ไฟฟ้า แม้จะรู้สึกว่าไม่ได้เหม็นเท่าบุหรี่มวนปกติ แต่สารที่บรรจุอยู่ภายในก็ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองทางระบบทางเดินหายใจได้ไม่แพ้กัน คุณอาจจะบอกว่ามีนักวิชาการออกมาระบุว่ามีเอกสารยืนยันว่าบุหรี่ไฟฟ้าปลอดภัยกว่าบุหรี่ทั่วไป แต่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถระบุที่มาที่ไปของคุณผู้เชี่ยวชาญที่ออกมายืนยันถึงข้อมูลดังกล่าวด้วยเช่นกัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : รายชื่อศูนย์ให้คำปรึกษาเรื่องการเลิกบุหรี่เพื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ (Project SideKicks)
ข้อเท็จจริงจากการทดสอบควันจากบุหรี่ไฟฟ้า
จากทางหนังสือพิมพ์มติชน ได้เคยสัมภาษณ์ ศ.นพ. ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ได้กล่าวถึง “ว่ามีหลายฝ่ายเข้าใจว่า ควันจากบุหรี่ไฟฟ้านั้นมีเพียงแค่ไอน้ำ กับนิโคติน ซึ่งไม่มีผลกับร่างกาย ทำให้วัยรุ่นหลายคนต่างหันมาสูบบุหรี่ไฟฟ้ากันมากขึ้น
แต่ในความเป็นจริงนั้นควันที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า นอกจากจะมีไอน้ำ และนิโคตินแล้ว ยังมีสารเคมี ซึ่งเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก จากการตรวจสอบของกรมวิทยาศาสตร์บริการ กระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี พบว่า มีสารโพรพิลีน ไกลคอล เมนทอล ไซโคลเฮกซานอล ไตรอะซิติน อนุพันธ์เบนซีน ตะกั่ว และสารก่อมะเร็ง จำพวกโครเมียม สารหนู และแคดเมียม อยู่ในนั้นอีกด้วย
โดยเฉพาะไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้านั้น มีขนาดอนุภาคที่เล็กมากกว่าควันบุหรี่ธรรมดา ทำให้ควันจากไอระเหยสามารถสูดดมเข้าสู่ปอดได้ลึกมากกว่าควันจากบุหรี่ธรรมดา
มีรายงานจากการวิจัยในหนู โดยการทดลองให้หนูหายใจเอาไอระเหยจากบุหรี่ไฟฟ้าวันละหนึ่งชั่วโมง สัปดาห์ละ 5 วัน เป็นเวลา 4 เดือน ก็พบว่าเยื่อบุหลอดลม และถุงลมปอด ของหนู มีการหลั่งสารเคมีที่บ่งถึงการได้รับความระคายเคืองของเนื้อเยื่อ และมีการทำลายเซลล์ของเนื้อเยื่อปอด ซึ่งเป็นอาการเดียวกับโรคถุงลมโป่งพองระยะแรก หากได้สูดคมควันบุหรี่ธรรมดา
โดยมีรายงานวิจัยค้นพบอีกว่า ภายหลังจากการสูดควันไอน้ำจากบุหรี่ไฟฟ้าเพียง 10 ครั้ง พบการหลุดลอยของเซลล์เยื่อบุหลอดเลือดที่ตายแล้ว ได้หลุดลอยอยู่ในกระแสเลือดเป็นจำนวนมาก (อ้างอิงจาก : L.Antonie Wiz วารสาร Atherosclerosis 2016) ความยืดหยุ่นของหลอดเลือดก็พบว่าลดลงหลังการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเช่นกัน ซึ่งการเปลี่ยงแปลงนี้เป็นสาเหตุที่นำไปสู่การเกิดโรคหัวใจ และปัญหาหลอดเลือดในระยะยาว
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่มวนธรรมดา หรือบุหรี่ไฟฟ้า โทษและอันตรายของมัน ก็มีไม่แตกต่างกัน หากต้องการพึ่งพาสิ่งหนึ่ง เพื่อหวังจะเลิกจากอีกสิ่งหนึ่งนั้น เท่ากับไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด สิ่งที่ดีที่สุดคือการ ลด ละ เลิก ย่อมเป็นทางเลือกที่ดีต่อตัวคุณ และคนรอบข้างมากที่สุดนั่นเอง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : เพื่อลูกน้อย ทำได้ไม่ยาก ! วิธีเลิกบุหรี่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
ผลกระทบจากการสูบบุหรี่ ขณะตั้งครรภ์
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตั้งครรภ์ แล้วยังคงสูบบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นบุหรี่ไฟฟ้า หรือบุหรี่มวนธรรมดา นิโคติน และสารเคมีต่าง ๆ ที่อยู่ในควันทั้งหลาย จะส่งผลถึงการไหลเวียนของออกซิเจนในเลือด ที่จะถูกแทนที่ด้วยก๊าซคาร์บอนมอนน็อคไซด์ ที่จะส่งผลกระทบถึงทารกในครรภ์ได้โดยตรงจากการได้รับออกซิเจน และสารอาหารที่น้อยลง ขณะที่ระดับสารเคมีในมดลูกก็จะเพิ่มมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้จะมีผลกระทบต่าง ๆ ดังนี้
ผลกระทบกับตัวแม่ในการตั้งครรภ์
- มีโอกาสแท้งในเปอร์เซนต์ที่สูงกว่าปกติ
- มีโอกาสในการตั้งครรภ์นอกมดลูก
- มีโอกาสในการคลอดลูกก่อนกำหนด
- มีโอกาสครรภ์เป็นพิษ
- มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งปอด
ผลกระทบกับตัวลูกน้อยที่อยู่ในครรภ์
- เด็กมีโอกาสคลอดก่อนกำหนด และมีน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์
- มีปัญหาด้านการพัฒนาการทั้งทางด้านสมอง และร่างกาย
- โอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคไหลตายในเด็กทารก
- ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นให้เด็กมีโรคประจำตัวในระยะยาว เช่น หอบหืด ภูมิแพ้ เป็นต้น
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : คนสูบบุหรี่เสี่ยงติดCovid-19 วิจัยเผยคนสูบบุหรี่จัด มีความเสี่ยงตายมากกว่า
แม่ท้องสูดดมควันบุหรี่ เสี่ยงต่อลูกในครรภ์อย่างไร?
1) ลูกมีพัฒนาการ และ การเติบโตที่ช้าลง
เมื่อแม่ท้องสูดดมควันบุหรี่เข้าไป ตัวควันบุหรี่ก็จะเข้าไปผ่านทางสายสะดือและรก ขัดขวางการได้รับออกซิเจนของลูกน้อย ส่งผลให้ทารกในครรภ์เติบโตและมีพัฒนาการที่ช้ากว่าปกติ ทำให้เด็กคลอดออกมาด้วยน้ำหนักที่ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ และไม่ค่อยสมบูรณ์มากนัก และอาจถึงขั้นมีความผิดปกติทางสมองได้เลยอีกด้วย
2) โอกาสสูงในการไหลตาย
ในกรณีที่ลูกน้อยมีการเติบโตในครรภ์ที่ดี และคลอดออกมาปกติสมบูรณ์ทุกอย่าง แต่การที่แม่ได้รับการสูดดมของควันบุหรี่มากไป ก็อาจทำให้ลูกน้อยมีโอกาสเสี่ยงต่อการไหลตายได้สูง เพราะระบบต่าง ๆ ในร่างกายมีการทำงานที่ผิดปกติ ซึ่งกว่าเราจะรู้ตัวก็สายเกินไปแล้ว
3) พิการตั้งแต่กำเนิด
การที่คุณแม่สูดดมกลิ่นควันบุหรี่เข้าไป อาจทำให้ลูกน้อยเสี่ยงพิการตั้งแต่กำเนิดได้ เพราะควันบุหรี่จะเข้าไปทำลายและหยุดยั้งการเจริญเติบโตของลูกได้ ทำให้พัฒนาการบางอย่างของลูกหยุดชะงักไป จนคลอดออกมา ทำให้ลูกมีภาวะพิการตั้งแต่เกิด
4.ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยบ่อย
โดยทั่วไปแล้ว เด็กแรกเกิดมักจะมีภูมิคุ้มกันที่ต่ำอยู่แล้ว แต่เมื่อได้รับอันตรายจากสารพิษของควันบุหรี่เข้าไปตั้งแต่ตอนอยู่ในครรภ์ ก็จะทำให้ทารกคลอดออกมามีร่างกายที่อ่อนแอ และเจ็บป่วยได้ง่ายกว่าเด็กคนอื่น ๆ ได้ค่ะ
เลิกบุหรี่คือคำตอบเพื่อตัวคุณ และลูกน้อย
หลายคนอาจจะรู้สึกว่า การเลิกบุหรี่นั้น เป็นหน้าที่หลักของคุณแม่ที่ต้องอุ้มท้องลูกน้อย แต่ในความเป็นจริงนั้น คนข้างกายอย่างคุณพ่อเอง ก็ควรงด หรือเลิกสูบด้วยเช่นกันค่ะ เนื่องจากกลิ่นควัน หรือสารต่าง ๆ จากบุหรี่ ที่เกาะอยู่ตามร่างกายหลังจากการสูดเข้าไปนั้น ก็มีอันตรายไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการสูบเองโดยตรง
ดังนั้นการที่คนรอบข้างยังคงสูบบุหรี่ เพราะเข้าใจว่าตนเองสามารถทำได้ เพราะไม่ได้เป็นคนตั้งท้องเองนั้นเป็นสิ่งที่ผิดค่ะ ดังนั้นหากครอบครัวไหนที่มีการวางแผนในการที่จะมีลูกสักคน อาจจะต้องเข้าคอร์สเพื่อการบำบัดในการเลิกบุหรี่ เพื่อเป็นการเตรียมตัว และเตรียมความพร้อมในการตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย
แต่ในกรณีที่คุณมีการสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง และมาทราบในภายหลังว่าตนเองตั้งครรภ์ และจะต้องทำการหักดิบในการเลิกบุหรี่มวน หรือบุหรี่ไฟฟ้า ก็ยังคงมีองค์กรต่าง ๆ มากมายที่คอยให้ความช่วยเหลือเรื่องการเลิกสูบบุหรี่ หรือคุณสามารถสูติแพทย์ หรือพยาบาลผดุงครรภ์ของคุณก็สามารถให้คำแนะนำ และให้ความช่วยเหลือในเรื่องนี้ได้ เช่นกัน
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจจะสนใจ :
เพื่อลูกน้อย ทำได้ไม่ยาก ! วิธีเลิกบุหรี่ สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
สูบบุหรี่ขณะตั้งครรภ์ เสี่ยงแท้ง ควันบุหรี่อาจทำร้ายลูกน้อยของคุณ !
แม่ท้องต้องระวัง ควันบุหรี่ทำร้ายลูกในท้อง ถึงตายหรือไม่ก็พิการทั้งชีวิต
ที่มา : amarinbabyandkids , dumex , quitforbetterlife, smokefreezone