เด็กสี่ขวบ ติดเชื้อในกระแสเลือด แม่นึกว่าเป็นไข้เกือบเอาชีวิตไม่รอด
ไอริสคุณแม่ลูกสองโพส Facebook เล่าถึงประสบการณ์ที่เธอเกือบเสียลูกชายไปจากการ ติดเชื้อในกระแสเลือด และการที่แค่เมื่อยขา จะทำให้สุขภาพเขาแย่ลงยังไงภายในหกวัน เธอหวังว่าเรื่องราวของเธอจะทำให้ผู้คนรับรู้มากขึ้น เกี่ยวกับอาการก่อนที่มันจะสายเกินไป
“ฉันไม่เคยได้ยินคำว่า ติดเชื้อในกระแสเลือด มาก่อนเลยในชีวิต วันนี้เนื่องในโอกาสวันรณรงค์ติดเชื้อในกระแสเลือด ฉันอยากจะอยากจะแชร์เรื่องราวของ Jarrod และชีวิตหกเดือนในโรงพยาบาลของเขา เราหวังว่าคุณจะรู้จักโรคและอาการของการติดเชื้อชนิดนี้มากขึ้น”
ไม่ใช่แค่ไข้ หรือ ผื่น
เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2019 ลูกชายวัยสี่ขวบของ Iris มีอาการสบายดีไม่มีอะไรผิดแปลกไป เขาบอกว่าเขารู้สึกเหมือนเป็นไข้ ทั่วไป หลังจากที่แม่ไปรับลูกกลับบ้าน ไข้เขาก็ลดลง แต่เมื่อผ่านไปสองวันไข้เขาก็ขึ้นอีกครั้งและมีผื่นขึ้นมาอีก เมื่อสัมผัสผื่นจะกลายเป็นสีขาว เธอรีบพาลูกไปหาหมอทันที หมอบอกว่าเขาเป็นไข้สูงและให้ยา พานาดอล และ นูโนเฟน กลับมาให้ทาน ต่อมาเมื่อวันที่ 31 ไข้และผื่นของเขาลดลงเล็กน้อย เขาสามารถลุกขึ้นมาทำอะไรได้ แต่วันต่อมา Jarrod บอกแม่ว่าเขาเริ่มมีอาการเจ็บขา
หมออีกท่านก็ยังบอกว่า Jarrod แค่เป็นไข้เหมือนเดิม
แม่พาลูกชายไปหาหมออีกท่าน แต่เช่นเดียวกับหมอคนก่อนเขาบอกว่าลูกชายของเธอเป็นไข้สูง และให้ยา พานาดอล และ นูโนเฟน มาทานเช่นเดียวกับหมอคนแรก เขาบอกว่าอาการเจ็บขาอาจเกิดจากการติดเชื้อ อักเสบ ที่ลามมาจากการเป็นหวัด
และในวันที่ 2 เมษา อาการเขาเริ่มทรุดลง Jarrod ยังคงมีผื่นและเป็นไข้ แต่คราวนี้เขาไม่สามารถเดินได้ ขาขวาของเขาเจ็บมากจนทนไม่ไหว เขาบอกพ่อให้พาเขาไปโรงบาลด่วน
อาการของเขาแย่ลงไปเรื่อยๆ
เมื่อไปถึงโรงพยาบาล กลับไม่มีใครรีบเข้ามาดูอาการของ Jarrod เลย เขาถูกแยกไปยังห้องพักรักษาเดี่ยวเพราะตัวเขามีผื่นขึ้นเอง เขาได้รับยา พานาดอลและยาต้านฮิสตามีน และต้องรออีกว่าห้าชั่วโมงก่อนที่จะมีคนมาดูอาการ ตกดึกตอน สี่ทุ่มครึ่งอาการของเขาแย่ลง เขาเริ่มมีอาการอาเจียนและท้องเสีย สามีของเธอกดกริ่งเรียกพยาบาลทันที แต่พวกเขาต้องรออีก 45 นาที กว่าที่นางพยาบาลจะมา เธอวัดความดันเดือนและทีพจรของเขา ก่อนจะรับวิ่งออกไปจาก้อง ไม่นาน พยาบาล แพทย์ หลายคนก็กรูกันเข้ามาในห้อง พวกเขารู้ว่านี่คืออาการ ติดเชื้อในกระแสเลือด แต่ไม่มีใครรู้ว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร
ติดเชื้อในกระแสเลือด เกิดจากอะไร
การติดเชื้อในกระแสเลือด เกิดจากตอนที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเริ่มพลิตสารเพื่อต่อต้านการติดเชื้อไปยังส่วนต่างๆของร่างกายแทนที่จะส่งมันไปต่อต้านเชื้อ สารเหล่านี้จะทำให้เกิดการอักเสบ และเริ่มทำร้ายอวัยวะและเนื้อเยื่อ ร่างกายของคุณไม่ได้สู้กับการติดเชื้อแล้ว แต่มันกำลังสู้กับตัวเอง
อวัยวะของ Jarrod เริ่มล้มเหลว
อีกหนึ่งชั่วโมงต่อมาอวัยยวะของ Jarrod เริ่มล้มเหลว เขาต้องต่อสายกับเครื่องฟอกไต เมื่อไตของเขาเริ่มล้มเหลว ตอนตีสี่ หัวใจของเขาก็เริ่มจะดูไม่ดีเช่นกัน เขาต้องได้รับการผ่าตัดหัวใจ เขาต้องเชื่อมกับเครื่อง ECMO ที่ทำหน้าที่แทนหัวใจของเขา
แบคทีเรียกินเนื้อ
เช้าวันต่อมาอาการของ Jarrod ก็ยังไม่ดีขึ้น เขาได้รับการช่วยเหลือจากเครื่องพยุงชีพทุกชนิด เขาถูกให้ยากว่า 30 ชนิด แพทย์ก็พยายามหาต้นตอว่าอาการของเขาเกิดจากอะไรกันแน่ มันอาจจะเป็น คาวาซากิ หรือ คออักเสบเฉียบพลัน สี่วันให้หลัง แพทย์ก็ยืนยันว่าต้นตอที่ทำให้ Jarrod ปล่อยนั้นเกิดจาก สเตรปโตค็อกคัส หรือที่เรียกกันว่า แบคทีเรียกินเนื้อ อย่างไรก็ตามถึงแม้เขาจะได้รับยาแก้เชื้อที่ถูกต้องแล้ว เครื่อง ECMO ขจัดพิษออกจากเลือดก็แล้ว Jarrod มีอาการอื่นเพิ่มขึ้นคือ มีรอยสีนำเงิน มีแผลพุพองขึ้นตามตัว สิ่งเหล่านี้เกิดจากอาการช้อกที่ตามมาจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ขาของเขาขยายใหญ่ขึ้นสามเท่า
หมอคาดว่าขาอาจจะเป็นต้นตอของการติดเชื้อ เขาเลยผ่าขาเพื่อดูทันที หลังจากขออนุญาติพ่อแม่แล้ว สองชั่วโมงต่อมาหมอออกมาแจ้งว่าการผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดี เขากล่าวว่าเชื้อแบคทีเรียนั้นลามเข้าไปในเส้นเลือด กระดูก และ ตัดการลำเลียงเลือดไปยังขาทำให้กล้ามเนื่อและเนื้อเยื่อของเขาถูกทำลาย
เส้นทางการรักษา
Jarrod ใช้เวลาอีก 24 ชั่วโมงอยู่ในห้อง ICU เขานอนโคม่าและต้องอยู่ด้วยเครื่องมือแพทย์อีกแปดวัน ผิวหนังของเขาลอกออก ผมเริามร่วง เขายังต้องผ่าตัดอีกหลายครั้งเพราะแผลที่ขาไม่ยอมปิดสนิท โชคดีเหลือเกินที่ Jarrod รักษาตัวจากโรคร้ายได้สำเร็จ เขาใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลถึงสามเดือน และกลับมาอยู่บ้านโดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์คอยดูแลอาการอย่างใกล้ชิดอีกสามเดือน รวมๆแล้วเขาผ่าตัดไปกว่า 20 ครั้ง
ปัจจุบัน Jarrod นั้นหายเกือบ 100% แล้ว แต่เขายังคงต้องทำกายภาพบำบัดอยู่ และถึงแม้ว่าขาข้างนึงของเขาจะเล็กเนื่องจากเขาต้องผ่าตัดเอาเนื้อออก เขายังมีขาอยู่และเขากำลังจะเรียนรู้ที่จะกลับมาเดินได้อีกครั้ง
Source : worldofbuzz
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
น้ำมูกเขียว ทารก สีขี้มูกเขียวอี๋แบบนี้ ลูกป่วยหนักหรือเปล่า
ขอถังอ๊อกซิเจนเป็นของขวัญวันเด็ก ช่วยหนุ่มน้อย 15 ปีป่วยหนัก
ขอให้โลกนี้มีปาฏิหาริย์! เรื่องจริงที่แสนปวดร้าว ลูกเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องแต่กำเนิด