คอร์รี เกลแลตลี (Corry Gellatly) นักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิล (Newcastle University) แห่งสหราชอาณาจักร เผยว่า ในผู้ชายมียีนที่ควบคุมปริมาณสเปิร์ม X และ Y ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ได้ว่า จะมีโอกาสได้ลูกชายหรือลูกสาวมากกว่ากัน หรือเท่า ๆ กัน สำหรับคุณพ่อที่มีญาติพี่น้องเป็นผู้ชายมากกว่า ย่อมมีโอกาสได้ลูกชายมากกว่าลูกสาว ส่วนคุณพ่อที่มีพี่น้องส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง ย่อมมีโอกาสได้ลูกสาวสูงกว่า แต่ว่ากรณีแบบเดียวกันนี้ไม่สามารถทำนายได้ในผู้หญิง
ในผู้ชายนั้นจะมียีนที่บ่งชี้ได้ว่าเขาจะมีโอกาสมีลูกชายหรือลูกสาวมากกว่ากัน ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งที่ช่วยควบคุมความสมดุลระหว่างประชากรชายและหญิงไม่ให้แตกต่างกันจนเกินไป
“มันเป็นกลไกที่คอยถ่วงดุลกัน ทำให้ไม่โอนเอียงไปในทางที่มีลูกชายเป็นส่วนมากหรือมีลูกสาวมากจนเกินไป”
ข้อมูลในรายงานจากมหาวิทยาลัยนิวคาสเซิลระบุว่า นักวิจัยได้ศึกษาประชาชนกลุ่มตัวอย่างทั้งในอเมริกาเหนือและยุโรปจำนวน 927 วงศ์ตระกูล ย้อนกลับไปถึงปี 2143 รวมทั้งสิ้น 556,387 คน พบว่าในเพศชายจะมียีนที่ควบคุมอัตราส่วนระหว่างสเปิร์มเอ็กซ์ (X) และสเปิร์มวาย (Y) ซึ่งเป็นสิ่งที่กำหนดเพศของลูกที่จะเกิดมาได้ โดยผู้หญิงก็มียีนดังกล่าวเหมือนกัน ทว่าไม่แสดงออกแต่สามารถถ่ายทอดสู่ลูกได้เช่นกัน
เกลแลตลีอธิบายว่า ยีนที่ควบคุมการให้กำเนิดบุตรเพศใดๆ แบ่งเป็น 2 ชุด คือ m และ f ซึ่งสามารถเข้าคู่กันเป็นยีนได้ 3 รูปแบบ ได้แก่
- ยีน “mm” ที่เป็นตัวส่งเสริมการสร้างสเปิร์ม Y
- ยีน “mf” ทำให้มีการสร้างสเปิร์ม X และสเปิร์ม Y ในปริมาณเท่าๆ กัน
- และยีน “ff” ที่ส่งผลให้มีการสร้างสเปิร์ม X มากกว่า
ยีนเหล่านี้ของคุณพ่อ จึงเป็นสิ่งที่กำหนดได้ว่าจะมีโอกาสได้ลูกชายหรือลูกสาวมากกว่ากัน
อย่างไรก็ตาม โอกาสในการได้ลูกชายหรือหญิงจากการควบคุมของยีนดังกล่าวนั้น อยู่ในระดับความน่าจะเป็น ไม่ไช่เป็นความแน่นอน และยีนที่ถ่ายทอดจากพ่อสู่ลูกนี้ ก็จะไปผสมผสานกับยีนแบบเดียวกันที่ได้รับจากแม่ ทั้งนี้ยีนดังกล่าวมีผลต่อเพศของลูกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น.
ที่มา : www.manager.co.th
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
ทายเพศลูกแบบโบราณ ดูแบบไหนได้ลูกชายหรือลูกสาว
ท้องกลม-ท้องแหลม ลักษณะท้องบอกเพศลูกได้จริงหรือ