ท้องลม ท้องหลอก เรื่องไม่หลอกที่คุณควรรู้
บางครั้งการตั้งครรภ์อาจไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นอย่างที่ใครหลายคนคิดเสมอไป คุณแม่บางคนอาจสมหวังในการตั้งครรภ์ มีครรภ์ที่มีสุขภาพดี คลอดลูกออกมาแข็งแรงสมบูรณ์ ในขณะที่คุณแม่อีกหลายท่านก็อาจจะพบกับการตั้งครรภ์ที่ไม่สมปรารถนา
คุณแม่บางคนคิดว่าตัวเองตั้งครรภ์ พอไปหาหมอตรวจเข้าจริงๆ พบว่าไม่ตั้งครรภ์ก็มี ซึ่งอาการแบบนี้พบได้ค่อนข้างบ่อยพอสมควร เราลองมาทำความรู้จักกับอาการ ท้องลม ท้องหลอก กันครับ
ท้องลม
ผู้หญิงบางคนเมื่อประจำเดือนขาดไป ก็อาจจะรู้สึกตื่นเต้นและสงสัยว่าน่าจะมีอาการตั้งครรภ์ ยิ่งเมื่อไปซื้อเครื่องทดสอบการตั้งครรภ์มาลองทดสอบดูแล้ว ผลออกมาว่าท้องจริงก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้น
แต่เมื่อไปหาคุณหมอแล้ว ภายหลังการตรวจคุณหมอกลับแจ้งว่ามีการตั้งครรภ์จริง แต่ไม่มีตัวเด็ก หรือที่เรียกกันว่ามี ภาวะไข่ฝ่อ (Blighted ovum) ก็อาจจะทำให้คุณเกิดความสงสัยว่าจริงๆแล้วมันเป็นอย่างไร
ภาวะไข่ฝ่อ (blighted ovum) หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า ท้องลม จัดเป็นความผิดปกติของการตั้งครรภ์ชนิดหนึ่งซึ่งทำให้การตั้งครรภ์ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้จนถึงครบกำหนดคลอด โดยหลังจากการปฏิสนธิ ไข่จะเคลื่อนไปฝังตัวอยู่ในมดลูก แต่ตัวอ่อนไม่สามารถพัฒนาและเจริญเติบโตได้
ตามปกติภายหลังที่ไข่กับอสุจิมีการผสมกันแล้ว ก็จะมีพัฒนาการต่อไปเรื่อยๆ จนกลายเป็นทารก รก ถุงน้ำคร่ำ และเมื่อครบ 280 วัน ทารกก็จะคลอดออกมา แต่สำหรับบางคนอาจไม่เป็นเช่นนั้น บางคนท้องแค่ 2 – 3 เดือน เด็กก็อาจจะหลุดออกมาก่อนเวลาอันควร เราเรียกเหตุการณ์นี้ว่า การแท้ง
ในขณะที่บางคนภายหลังไข่กับอสุจิมีการผสมกันแล้วก็จะมีพัฒนาการต่อไป แต่ส่วนที่เป็นรกและถุงน้ำเจริญต่อไปได้ แต่ทารกกลับไม่ยอมเจริญเติบโตต่อ
บางคนก็ไม่มีตัวเด็กให้เห็นเลย ในขณะที่บางคนเห็นตัวเด็ก แต่ถ้าตรวจซ้ำจะเห็นตัวเด็กเล็กลงและเสียชีวิตค้างในถุงน้ำคร่ำ ภาวะที่ไม่เห็นตัวเด็กเลย เราเรียกว่า ภาวะไข่ฝ่อหรือท้องลม คุณแม่ที่มีภาวะนี้ส่วนมากจะมีเลือดออกและแท้งออกมาในที่สุด แต่บางคนก็ค้างอยู่นานโดยหากไม่ตรวจก็จะไม่รู้
สาเหตุของอาการท้องลม
สาเหตุที่พบบ่อยคือ ไข่หรืออสุจิที่มาผสมกันไม่แข็งแรงพอ หรือมีคุณภาพไม่ดีพอ ทำให้ไม่สามารถพัฒนาการต่อไปได้ สาเหตุของความไม่แข็งแรงหรือคุณภาพที่ไม่ดีของไข่หรืออสุจิมีนั้นมากมาย โดยอาจเกี่ยวข้องกับการทำงานหนัก เครียด รับประทานอาหารไม่เพียงพอ พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือมีโรคบางชนิดที่ยังไม่ได้รับการตรวจรักษาอย่างจริงจัง นอกจากนี้ยังอาจเกิดจากลักษณะทางกรรมพันธุ์ที่ผิดปกติของไข่หรืออสุจิได้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม สาเหตุที่แท้จริงของอาการท้องลมนั้น ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด เนื่องจาผู้หญิงที่มีการตั้งครรภ์อาจจะมีอาการท้องลมและแท้งบุตรมาก่อนที่จะพบแพทย์ก็เป็นได้
อาการท้องลม รักษาอย่างไร
หากตรวจพบว่ามีอาการท้องลม หรือภาวะไข่ฝ่อ คุณหมออาจทำการรักษาโดยการขูดมดลูกเอาน้ำคร่ำที่ผิดปกติออกไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่มียาหรือวิธีการรักษาอะไรที่ชัดเจนในการที่จะป้องกันภาวะนี้ วิธีที่ดีที่สุดคือการดูแลรักษาตัวเอง ด้วยการรับประทานอาหารที่ดี มีประโยชน์ และได้สัดส่วน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ไม่ทำงานหักโหมเกินไปและพักผ่อนให้เพียงพอ
อาการท้องหลอกเป็นอย่างไร ติดตามหน้าถัดไปครับ
ท้องหลอก
อาการที่คุณผู้หญิงรู้สึกว่าเหมือนตัวเองตั้งครรภ์ ทั้งที่ความจริงไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นนั้น เราเรียกว่า “ท้องหลอก” หรือทางการแพทย์เรียกว่า spurious pregnancy หรือ pseudocyesis ซึ่งจัดเป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง
โดยทั่วไปแล้วคุณผู้หญิงบางคนอาจมาพบคุณหมอที่โรงพยาบาลเนื่องจากประจำเดือนขาดหายไป ร่วมกับมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน บางคนอาจรู้สึกเหมือนมีอะไรดิ้นๆ อยู่ในท้อง และรู้สึกว่าท้องโตขึ้น บางรายก็มีอาการต่างๆคล้ายกับการตั้งครรภ์ร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นอาการคลื่นไส้อาเจียน ปัสสาวะบ่อย คัดตึงเต้านม ประจำเดือนขาด จึงมักจะคิดว่าตัวเองตั้งครรภ์ แต่เมื่อไปพบคุณหมอตรวจร่างกาย คุณหมอกลับแจ้งว่าท้องไม่โต คลำมดลูกไม่ได้ ฟังที่ท้องได้ยินแต่เสียงการเคลื่อนไหวของลำไส้ และเมื่อตรวจอัลตร้าซาวนด์ก็พบแต่มดลูกซึ่งไม่มีลักษณะของการตั้งครรภ์ให้เห็นแต่อย่างใด
สาเหตุของท้องหลอก
สาเหตุของท้องหลอก หรือไม่มีการตั้งครรภ์จริงนั้น เกิดจากสภาพทางจิตใจเป็นหลัก ผู้หญิงที่มีอาการนี้มักจะเครียดเพราะอยากมีลูกแต่มีลูกยาก ซึ่งความเครียดที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ต่อมใต้สมองสร้างฮอร์โมนมากระตุ้นรังไข่ พอถูกกระตุ้น รังไข่ก็จะสร้างฮอร์โมนอีกตัวหนึ่งไปกระตุ้นมดลูกทำให้ผนังมดลูกหนาตัวและไม่มีประจำเดือน ซึ่งเมื่อเกิดอาการเหล่านี้ขึ้นก็มักจะคิดว่าตัวเองตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม อาจจะมีโรคบางชนิดหรือความผิดปกติบางอย่างที่อาจทำให้เกิดอาการคล้ายกับการตั้งครรภ์ได้เช่นเดียวกัน เช่นโรคของต่อมใต้สมองที่มีการสร้างฮอร์โมนบางชนิดมากเกินไป แต่พวกนี้มักมีน้ำนมไหลร่วมด้วย บางคนอาจจะมีอาการเพราะรับประทานยารักษาโรคบางอย่างเช่นยากันชัก หรือยานอนหลับบางชนิด
ซึ่งก็อาจเป็นสาเหตุได้เช่นกัน
มีอาการท้องหลอก ทำอย่างไรดี
จริงๆ แล้วหากมีอาการท้องหลอกก็ไม่จำเป็นต้องให้การรักษาอะไร เพียงแค่ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำ และให้การดูแลรักษาทางจิตใจ ก็แก้ไขได้แล้วโดยไม่ต้องให้ยา ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยมีความเครียดและวิตกกังวลมาก ก็อาจต้องให้ยาคลายความวิตกกังวลครับ
ทั้งนี้ทั้งนั้น สุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง อีกทั้งการใส่ใจดูแลสุขภาพของตัวเอง ไม่ให้เครียดจนเกินไป เป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะทำให้คุณแม่มีการตั้งครรภ์ที่ดีและปลอดภัยได้ โดยไม่ต้องเจอกับ ท้องลม ท้องหลอก ครับ
ที่มา webmd.com, si.mahidol.ac.th, webmd.com