ทำอย่างไรดี ยังไม่พร้อมมีลูก ?? สารพัดวิธีคุมกำเนิด ที่ช่วยคุณได้

การวางแผนครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งสภาพเศรษฐกิจเดี๋ยวนี้เป็นช่วงขาลง จะทำอะไรก็ต้องวางแผน โดยเฉพาะการมีลูก หากมีลูกคนแรกแล้ว แต่ยังไม่พร้อมจะมีลูกคนต่อไป วิธีที่ดีที่สุด แน่นอนว่า คือ การคุมกำเนิด มาดูกันว่าจะ คุมกำเนิดแบบไหนดี เรามีสารพัดวิธีมาบอกค่ะ ติดตามอ่าน

ทำอย่างไรดี ยังไม่พร้อมมีลูก ?? สารพัดวิธีคุมกำเนิด ที่ช่วยคุณได้

ถ้าหาก ยังไม่พร้อมมีลูก สารพัดวิธีคุมกำเนิด ที่ช่วยคุณได้

ถ้าหากว่าคุณยังไม่พร้อมมีลูก อย่ารอช้า!!!  คุณกำหนดเลยค่ะ มาดูสารพัดวิธีคุมกำเนิด ทั้ง 7 วิธี ที่เราคัดสรรมาในบทความนี้ เพื่อช่วยให้คุณวางแผนครอบครัวเรื่องการมีลูก ที่ได้ประสิทธิภาพ 

วิธีการคุมกำเนิด สำหรับครอบครัวที่ยังไม่พร้อม ที่จะมีลูก

1. การนับวันตกไข่ วิธีนี้ ถือว่าเป็นวิธีที่ basic มาก ๆ แต่จะเหมาะสำหรับคุณแม่ที่มีรอบเดือนสม่ำเสมอ เพราะพบอัตราการตั้งครรภ์จากวิธีนี้ ถึงร้อยละ 9 – 15.5 การนับวันนั้น สามารถทำได้โดย วันแรกที่มีประจำเดือน ให้เป็นเป็นวันที่ 1 ของรอบเดือน และนับไปถึงวันที่ 14 ของรอบเดือน วันนั้นแหละคือวันที่ “ไข่ตก” จึงทำให้มีโอกาสท้องได้มาก ที่สำคัญ ให้เหลื่อม ๆ ไว้สักวัน หรือสองวันก็จะดีนะคะ เพราะช่วงนั้น ถือเป็นช่วงเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มาก ๆ ค่ะ

การขับวันตกไข่ ช่วยในเรื่อง การคุมกำเนิด

2. การหลั่งข้างนอก การหลั่งข้างนอกนั้น ถือว่าเป็นวิธีการของตุณพ่อล้วน ๆ ค่ะ และต้องใช้ความสามารถ และความพยายามให้มาก ๆ เพราะ ตัวคุณพ่อเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่า ในขณะนั้นน้ำเชื้อใกล้จะออกแล้ว จึงต้องรีบ เอาอวัยะเพศออกมาจากช่องคลอด ก่อนที่น้ำเลี้ยงเชื้อใส ๆ จะออกด้วยซ้ำ ซึ่งวิธีนี้ มีอัตราเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ ถึงประมาณร้อยละ 4 – 27 เลยที่เดียว

การหลั่งข้างนอกนั้น ถือว่าเป็นวิธีการของตุณพ่อ ที่ต้องให้ความร่วมมือ

3. การใช้ถุงยางอนามัย การใช้ถุงยางอนามัย ถือว่าเป็นวิธี ที่มีอัตราการเสี่ยงตั้งครรภ์ ประมาณร้อยละ 2 – 15 การใช้ถุงยางขณะมีเพศสัมพันธุ์นั้น นอกจากจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ ยังมีข้อดีในการ ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่าง ๆ อีกด้วย แต่ก็อาจมีข้อผิดพลาดได้ในหลาย ๆ กรณี เช่น การฉีดขาดของถุงยางอนามัย หรือ ถุงยางอนามัยรุ่น เมื่ออวัยวะเพศมีการอ่อนตัวลงหลังจากถึงจุดสุดยอดแล้ว หากนำอวัยวะเพศออกมาไม่ทัน ก็อาจจะทำให้ท้องได้

การใช้ถุงยางช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ และการแพร่กระจายของเชื้อโรคต่าง ๆ

4. การใส่ห่วงอนามัย การใส่ห่วงอนามัยในปัจจุบัน มีอยู่ 2 แบบ คือ แบบทองแดง และโอร์โมน ซึ่งการใส่ห่วงอนามัยต่อ 1 ครั้งนั้น มีอายุการใช้งานประมาณ 3 – 5 ปี ไม่ควรเกินกว่านั้น การใส่ห่วงอนามัย อาจทำให้มีอาการปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อยบ้าง เพราะกลไกการทำงานบ้างอย่างของห่วงอนามัย ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกเกิดการรัดตัว การใส่ห่วงแบบทองแดงพบกว่า มีอัตราการตั้งครรภ์ ประมาณร้อยละ 0.6 – 0.8 โดยที่แบบฮอร์โมนนั้น มีอัตราการตั้งครรภ์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.1

การใส่ห่วงอนามัย อาจทำให้มีอาการปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อยบ้าง

5. ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาเม็ดสำหรับคุมกำเนิด แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ แบบฮอร์โมนรวม และแบบฮอร์โมนเดี๋ยว แบบฮอร์โมนรวมนั้น ยังแบ่งออกเป็นอีก 2 แบบ ได้แก่ แบบ 21 เม็ด และแบบ 28 เม็ด อัตราความเสี่ยงตั้งครรภ์ประมาณร้อยละ 8 โดยที่อีกชนิดหนึ่งนั้น คือยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนรวมเพื่อคุมฉุกเฉิน ต้องทานยาภายใน 72 ชั่วโมง โดยอัตราความเสี่ยงตั้งครรภ์จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 2-7

สำหรับยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมนเดี๋ยวนั้น จะช่วยลดผลข้างเคียงของยาคุมกำหนิดได้ดี กรณีที่คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และต้องการคุมกำเนิดไปด้วย จะใช้ยากลุ่มนี้ อัตราความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์จะอยู่ที่ประมาณร้อยละ 8

การทาน ยาคุมกำเนิด ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่นิยม และได้ผลดี

6. แผ่นแปะคุมกำเนิด ยาคุมกำเนิดชนิดแผ่นแปะผิวหนัง ให้ใช้แปะผิวหนังในรอบ 1 เดือน โดยรอบเดือนปกติของผู้หญิงจะมีระยะเวลาประมาณ 28 วัน หรือ 4 สัปดาห์ ให้แปะแผ่นยาคุมกำเนิด 3 สัปดาห์ติดต่อกัน สัปดาห์ละ 1 แผ่น และหยุดแปะ 1 สัปดาห์จึงเริ่มแปะแผ่นใหม่ การแปะแผ่นแผ่นยาแบบนี้มีผลในการคุมกำเนิดทันทีที่แปะ ไม่ต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วมด้วย อัตราความเสี่ยงในการตั้งครรภ์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 8

แผ่นแปะคุมกำเนิดทันทีและ ไม่ต้องใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นร่วม

7. การฝังยาคุมกำเนิด ในอดีต การฝังยาคุมกำเนิดต้องใส่ถึง 6 หลอดเลยที่เดียว แต่ในปัจจุบันนั้น ใช้แค่เพียง 1 – 2 หลอดเท่านั้น อายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 ปี อัตราความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ประมาณ 0.1 ตัวยาที่ใช้ฝังคุมกำเนิดนี้ เป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน เช่นเดียวกับยาตุมกำเนิดและห่วงแบบฮอร์โมน นอกจากนี้ ฤทธิ์ข้างเคียงของยา สามารถใช้รักษาภาวะอื่น ๆ เช่น เนื้องอกมดลูก เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากจะเลือกคุมกำเนิด ควรเลือกที่เหมาสมกับตัวเอง หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำจะดีที่สุดค่ะ

ปัจจุบัน การฝังยาคุมกำเนิด ใช้เพียงแค่ 1 – 2 หลอดเท่านั้น

The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

 

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://haamor.com

https://www.pharmacy.mahidol.ac.th

ภาพยาฝังคุมกำเนิด จาก https://universalmedicalny.com/birth-control/norplant/

วารสารวิชัยยุทธ สุขภาพสตรีและเด็ก ปีที่ 9 ฉบับที่ 42

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

หยุดยาคุมกำเนิดนานแค่ไหนก่อนมีลูก?

เรื่องเบสิกเกี่ยวกับการคุมกำเนิดที่คนไทยมักไม่รู้

ยาคุมผู้ชาย มาแล้วจ้า ยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายทดสอบผ่านแล้ว