โรงเรือน เรือนพลาสติก หรือเรือนกระจก เป็นสถานที่สำหรับเพาะปลูกที่เรายังคงสภาพแวดล้อม และควบคุมสภาพอากาศที่เหมาะสมกับพืชพรรณต่าง ๆ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะช่วยลดการใช้ปุ๋ย ลดการใช้ยาฆ่าแมลง รวมถึงสารเคมีอื่น ๆ ช่วยป้องกันแมลง และสัตว์ต่าง ๆ ทั้งยังช่วยให้ผลผลิตและต้นไม้สวยงามด้วย
สารบัญ
วิธีเลือกซื้อโรงเรือนสำเร็จรูป ควรเลือกจากอะไรบ้าง
1.ขนาดและวัสดุของโรงเรือน
เรือนกระจกมีหลายขนาด ตั้งแต่เรือนกระจกขนาดเล็กไปจนถึงโรงเรือนขนาดใหญ่ ซึ่งต้องเลือกให้เหมาะสมและตรงกับความต้องการให้ได้มากที่สุด สำหรับวัสดุโครงโรงเรือนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน และมีข้อดีที่ไม่เหมือนกัน ดังนี้
- โครงพลาสติก ข้อดี น้ำหนักเบา ราคาไม่สูงมาก แต่ข้อเสียรองรับน้ำหนักได้ไม่มาก แถมใช้งานได้ไม่นาน ยิ่งโดนแดด โดนลมยิ่งทำให้อายุการใช้งานสั้นลง
- โครงเหล็กบาง ๆ หุ้มข้อพลาสติก แน่นอนว่าโครงเหล็กย่อมมีความแข็งแรงและทนทานกว่าพลาสติก ทั้งยังมีราคาไม่แพงมาก ติดตั้งก็ง่ายเพียงแค่ใช้ข้อต่อที่ให้มาด้วยแล้วประกอบเข้าด้วยกันให้เป็นโรงเรือน ข้อเสีย คือ ข้อต่อที่เป็นพลาสติกอาจเสื่อมสภาพหรือกรอบได้เร็ว ทำให้ใช้ได้ไม่นาน
- โครงหุ้มเหล็กกัววาไนซ์ โครงแบบนี้มักเป็นเหล็กหนา โครงใช้ได้นาน มักใช้กับโรงเรือนขนาดใหญ่ที่ต้องการความแข็งแรง ทนทานนานเป็น 10 ปี แต่ข้อเสีย คือ ใช้ไปนาน ๆ เหล็กอาจขึ้นสนิมได้
2.วัสดุคลุมโรงเรือน
วัสดุแต่ละชนิดมีประโยชน์แตกต่างกัน ดังนี้
- พลาสติกใส มีข้อดี คือ ราคาไม่แพงมาก แถมยังสามารถเก็บความร้อนได้ดี ข้อเสีย คือ ฉีกขาดได้ง่าย และไม่เหมาะในบริเวณที่มีลมแรง ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เน้นการกันฝนมากกว่า
- พลาสติกโพลีคาร์บอเนต เป็นวัสดุที่มีความทนทานมาก ทั้งยังสามารถกรองรังสียูวีและการกระจายแสงได้ดี เหมาะสำหรับใช้กับโรงเรือนกลางแจ้ง ใครที่ต้องการปลูกแคคตัสแนะนำเลยค่ะ แต่ข้อเสีย คือ เมื่อตั้งไว้กลางแจ้งนาน ๆ พลาสติกจะกรอบ ทำให้ใช้งานได้ไม่นานนัก
- ตาข่าย วัสดุประเภทนี้จะเน้นกันแมลง และเน้นการระบายอากาศค่ะ ทำให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก เหมาะกับพืชผักสวนครัวทั่วไป
3.การระบายอากาศ
การระบายอากาศที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโรงเรือน เนื่องจากช่วยให้คุณสามารถควบคุมอุณหภูมิและความชื้นภายในได้ หากในช่วงหน้าร้อนแดดจ้าอาจทำให้พืชเหี่ยวหรือตายได้ ดังนั้น ควรเลือกโรงเรือนที่มีการระบายอากาศ เช่น หน้าต่างหรือช่องระบายอากาศ
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก
ทนทานต่อการสึกกร่อน
|
Buy now |
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก 3 ชั้น
สแลนด้านหน้าสามารถพับเก็บได้
|
Buy now |
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก 4 ชั้น
ระบายอากาศได้ดี
|
Buy now |
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก ขนาดกลาง
สำหรับเพาะปลูกพืชผักสวนครัว
|
Buy now |
NASH โรงเรือนสำเร็จรูป 3 ชั้น
ผ้าใบทำด้วยพลาสติก PVC
|
Buy now |
NASH โรงเรือนสำหรับเพาะปลูก
ชั้นวางตั้งวางได้มั่นคง
|
Buy now |
Dohome โรงเรือน 3 ชั้น
จำกัดปริมาณการรับแสงแดด
|
Buy now |
1. HomePro โรงเรือนเพาะปลูก
ไซต์ M
โรงเรือนเพาะปลูก ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง ทนทานต่อการสึกกร่อน ระบายอากาศได้ดี มาพร้อมช่องหน้าต่างที่ช่วงเปิด-ปิดได้ง่าย ไม่อับชื้น แสงแดดส่องถึงรำไร ชั้นวางตั้งวางได้มั่นคง และง่ายต่อการบำรุงรักษา เหมาะสำหรับเพาะปลูกพืชผักสวนครัว หรือต้นกล้าที่ปลูกพืชบนดิน
ขนาด 180 x 90 x 90 cm
2. HomePro โรงเรือนเพาะปลูก 3 ชั้น
รุ่น GH-011
โรงเรือนขนาดไม่ใหญ่มาก มีโครงสร้างที่ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง 3 ชั้น ให้ความแข็งแรงเป็นอย่างมาก ทั้งยังทนทานต่อการสึกกร่อนได้ดี เนื่องจากชั้นเหล็กมีช่องว่างทำให้น้ำสามารถไหลระบายได้เป็นอย่างดี ไม่ท่วมขัง จึงช่วยลดการอับชื้น ทั้งยังสามารถพับเก็บได้ง่ายด้วย เหมาะกับวางต้นไม้ที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก มาพร้อมช่องขนาดใหญ่ที่ช่วยให้คุณสามารถดูแลต้นไม้ได้ง่ายและทั่วถึง
ขนาด 128 x 68 x 49 ซม.
3. HomePro โรงเรือนเพาะปลูก 4 ชั้น
ไซต์ S
โรงเรือน 4 ชั้น ทำจากวัสดุโครงสร้างคุณภาพดี มีความแข็งแรงทนทาน สามารถรองรับต้นไม้ขนาดเล็กได้จำนวนมาก ตัวผ้าคลุมสามารถถอดได้ง่าย มีช่องสำหรับเปิด-ปิดได้ช่องเดียว ด้วยขนาดโรงเรือนที่สูง และไม่กว้างมาก จึงสามารถวางไว้ในพื้นที่จำกัด สามารถวางระเบียงบ้านหรือคอนโดได้ ทั้งยังประหยัดพื้นที่ใช้สอยด้วย
ขนาด 160 x 50 x 70 ซม.
4. HomePro โรงเรือนเพาะปลูก
ไซต์ M
โรงเรือนเพาะปลูกขนาดใหญ่ เป็นโรงเรือนขนาด 3 ชั้น มีหน้าต่างหรือช่องระบายอากาศเล็ก ๆ 2 ด้านซ้ายขวา ทำให้อากาศภายในหมุนเวียนได้สะดวก ถ่ายเทอากาศได้เป็นอย่างดี ด้านหน้ามีทางเข้าโรงเรือนเป็นซิปที่เปิด-ปิดได้ง่าย และสะดวก สามารถป้องกันแสงแดดได้ดี ทนทานใช้งานได้อย่างนาน เหมาะกับคนที่มีต้นไม้เยอะ และต้องการได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
ขนาด 195 x 144 x 144 ซม.
5. NASH โรงเรือนสำเร็จรูป 3 ชั้น
รุ่น GH-005
โรงเรือนสำเร็จรูปแบบ 3 ชั้น รูปทรงทันสมัย สวยงาม ได้มาตรฐาน มาพร้อมโครงที่ประกอบติดตั้งง่าย มีประตู 1 บานด้านหน้าขนาดกว้าง สำหรับป้องกันฝน ทั้งยังช่วยกรองแสงและกันแมลงได้เป็นอย่างดี ตัวผ้าใบทำด้วยพลาสติก PVC คุณภาพดี โครงสร้างแข็งแรง ทนทานต่อการใช้งาน ขาชั้นวางหนา 16 mm. ทำจากพลาสติก PE 135 gsm. ช่วยควบคุม และสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
ขนาด กว้าง 49.0 x ลึก 69.0 x สูง 125.0 ซม.
6. NASH โรงเรือนสำหรับเพาะปลูก
รุ่น GH-030
โรงเรือนสำเร็จรูป สามารถวางได้ถึง 2 ชั้น ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูง ทนทานต่อการสึกกร่อน มีช่องลม 2 บานและประตู 1 บานด้านหน้า ขนาดกว้างพอที่คนจะสามารถเดินเข้าไป ด้านในได้สบาย ช่วยสำหรับกันฝน กรองแสง กันแมลง ระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ป้องกันอุณหภูมิ จำกัดปริมาณการรับแสงแดด จึงมีแสงแดดส่องถึงรำไร ชั้นวางตั้งวางได้มั่นคง และง่ายต่อการบำรุงรักษา เหมาะสำหรับควบคุมและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต
ขนาด กว้าง 73.0 x ลึก 143.0 x สูง 195.0 ซม.
7. Dohome โรงเรือน 3 ชั้น พร้อมโครงเหล็ก
รุ่น GH-021
โรงเรือนสำเร็จรูป สามารถวางได้ถึง 3 ชั้น มาพร้อมโครงเหล็กที่ประกอบติดตั้งง่าย มีช่องลม 1 บานและประตู 1 บานด้านหน้า ขนาดกว้างพอที่คนจะสามารถเดินเข้าไปด้านในได้สบาย ช่วยควบคุมและสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโต ป้องกันอุณหภูมิ จำกัดปริมาณการรับแสงแดด
ขนาด 175 x 250 x 210 ซม.
ตารางการเปรียบเทียบราคาล่าสุด
ยี่ห้อ | ราคา (บาท) |
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก | 1,190 |
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก 3 ชั้น | 690 |
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก 4 ชั้น | 990 |
HomePro โรงเรือนเพาะปลูก | 3,690 |
NASH โรงเรือนสำเร็จรูป 3 ชั้น | 835 |
NASH โรงเรือนสำหรับเพาะปลูก | 1,991 |
Dohome โรงเรือน 3 ชั้น พร้อมโครงเหล็ก | 3,886 |
ที่มา thespruce
บทความอื่น ๆ
12 กระถางต้นไม้ ดีไซน์สวยน่ารัก สำหรับตกแต่งบ้านให้น่าอยู่