แก้วหัดดื่ม อุปกรณ์สำหรับเด็กอีกหนึ่งชิ้นที่ขาดไม่ได้ เพราะมีความสำคัญต่อเด็กเป็นอย่างมาก สำหรับการเป็นตัวช่วยทำให้เด็ก ๆ ดื่มน้ำ หรือดูดน้ำจากหลอดได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า แก้วหัดดื่ม มีความจำเป็นต่อเด็กหรือไม่ และมีวิธีการเลือกแก้วหัดดื่มกันอย่างไรบ้าง บทความนี้มีคำตอบ
ควรให้ลูกใช้แก้วหัดดื่มตอนไหน ?
แน่นอนว่าคุณพ่อและคุณแม่หลาย ๆ ท่าน อาจมีความกังวลเป็นอย่างมากว่าจะทำอย่างไรดีให้ลูกนั้นใช้แก้วหัดดื่ม เพราะบางครั้งลูกน้อยก็มีปัญหาในเรื่องของการติดขวดนมมากจนเกินไป ซึ่งสาเหตุการติดขวดนมนั้นสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพช่องปาก ไม่ว่าจะเป็น ฟันยื่น ฟันเหยิน ฟันไม่สบกัน ดังนั้นแก้วหัดดื่มจึงมีความจำเป็นอย่างมาก และที่สำคัญยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ลูกน้อยหย่าขวดนมได้ง่ายขึ้นอีกด้วย โดยอายุของลูกน้อยที่เหมาะสมกับการฝึกใช้แก้วหัดดื่มนั้นอยู่ในช่วงวัย 6 – 7 เดือนเป็นต้นไป ซึ่งเป็นช่วงที่ลูกน้อยสามารถนั่งได้ด้วยตัวเอง และชันคอได้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับช่วงการฝึกฝนเป็นอย่างยิ่ง
ประโยชน์ของการใช้แก้วหัดดื่ม
แก้วหัดดื่ม เป็นอุปกรณ์ที่ผู้ปกครองหลายคนอาจมองข้ามไป ด้วยความคิดที่ว่าทำให้สิ้นเปลือง และไม่จำเป็นต้องใช้ขนาดนั้น แต่หารู้ไม่ว่าประโยชน์ของแก้วหัดดื่มนั้นมีมากกว่าที่คุณคิด ถ้าอยากรู้ว่ามีประโยชน์ต่อเด็กอย่างไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีให้ลูกเลิกขวด ลูกติดขวด ระวังฟันผุ แม่จะจับลูกเลิกนมมื้อดึกอย่างไร ให้ได้ผล!
1. เสริมสร้างพัฒนาการ
การที่ผู้ปกครองหัดให้ลูกสามารถใช้แก้วหัดดื่มแทนขวดนม จะทำให้เด็ก ๆ ได้แสดงความต้องการในการพูด การหยิบจับสิ่งของ เนื่องจากไม่ต้องคอยกัดที่ขวดนมอีกต่อไป จึงมีเวลาที่จะทำสิ่งอื่นแทนได้ เพื่อเป็นการพัฒนาการด้านต่าง ๆ ให้กับเด็ก
2. ไม่ขาดสารอาหาร
การที่เด็ก ๆ ติดขวดนม ส่งผลให้ขาดสารอาหาร จนทำให้พ่อแม่ต้องหาซื้อวิตามินให้ลูกกิน เพื่อเป็นอาหารเสริมให้กับลูกอีกหนึ่งช่องทาง การใช้แก้วหัดดื่มจะสามารถช่วยควบคุมปริมาณอาหาร และดื่มนมได้อย่างเป็นเวลา
3. หมดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟัน
การที่เด็กติดขวดนม และดื่มนมจากขวดนมเป็นเวลานาน ส่งผลต่อสุขภาพฟันได้โดยตรง และหากปล่อยไว้เป็นเวลานาน อาจมีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุได้
สำหรับวัสดุที่ใช้ในการผลิตถ้วยหัดดื่มมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันออกไป โดยแก้วหัดดื่มที่ทำจากพลาสติก จะมีน้ำหนักเบา เด็กถือได้สะดวก หาซื้อง่าย ราคาไม่แพง แต่ถ้วยพลาสติกมักไม่ทนทาน และบางชนิดไม่ใช่ BPA-free อาจทำให้สารเคมีจากถ้วยหัดดื่มรั่วซึมลงไปในน้ำที่ดื่มได้ ซึ่งในส่วนของถ้วยหัดดื่มที่ทำจากสเตนเลสนั้นจะมีความเป็นมิตรต่อธรรมชาติ ทำความสะอาดง่าย และทนทาน แต่จะมีน้ำหนักที่หนักจนเกินไป ทำให้เด็กถือลำบาก ราคาแพงกว่าถ้วยหัดดื่มพลาสติก และแก้วหัดดื่มที่ทำจากแก้วนั้นจะสามารถนำไปรีไซเคิลได้ ทำความสะอาดง่าย แต่ก็มีข้อเสียในเรื่องของการแตกง่าย หนักกว่าถ้วยหัดดื่มพลาสติก และราคาค่อนข้างแพง หาซื้อยากอีกด้วย
แก้วหัดดื่ม หรือถ้วยหัดดื่ม
สินค้าอย่างแก้วหัดดื่มนั้น เป็นตัวช่วยเสริมพัฒนาการที่ดีให้กับลูกน้อย ดังนั้นจึงต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้เหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อตัวของลูกน้อยเอง โดยเรามีมาแนะนำ ดังนี้
1. ถ้วยหัดดื่ม Baby Training Cup
ยี่ห้อ : Camera
รูปแบบ : แก้วพร้อมหลอด
ขนาด : 9 ออนซ์ หรือ 260 มิลลิลิตร
การดูแลรักษา : ไม่ระบุ
คุณสมบัติอื่น ๆ :
- หลอดกันหก spill-proof
- สายหลอดดูดลูกตุ้มที่ทำให้ดูดได้ทุกท่วงท่า ท้องไม่อืด ไม่สำลัก
- คว่ำแล้วน้ำไม่หก
- BPA-free ต้ม ลวก นึ่งภาชนะได้
- ตกไม่แตก
ราคา : 229 บาท
2. ถ้วยหัดดื่ม Munchkin Miracle
ยี่ห้อ : Munchkin
รูปแบบ : แก้วน้ำดื่มมีหูจับ
ขนาด : 7 ออนซ์
การดูแลรักษา : ทำความสะอาดได้ง่าย ใช้กับเครื่องล้างจานได้
คุณสมบัติอื่น ๆ :
- เป็นสินค้าที่ทันตแพทย์แนะนำ ดีต่อสุขภาพฟันลูกน้อย
- ดื่มได้จากรอบถ้วย 360 องศา วาวล์ซิลิโคนจะเปิดเองเพียงใช้ปากแตะ ปิดเองเมื่อหยุดดื่ม น้ำไม่หกเลอะเทอะ
- BPA free ปลอดภัยสูงสุด
ราคา : 379 บาท
3. MAM Training Cup
ยี่ห้อ : MAM
รูปแบบ : กระบอกพร้อมหลอด
ขนาด : 220 มิลลิลิตร
การดูแลรักษา : ไม่ระบุ
คุณสมบัติอื่น ๆ :
- ถ้วยหัดดื่มปลอดสาร BPA
- พร้อมจุกหัดดื่มที่นุ่ม Spill free น้ำจะไหลเมื่อออกแรงดูดเท่านั้น ไม่หกเมื่อคว่ำขวด
- ที่จับถนัดมือ ฝาปิดป้องกันน้ำรั่ว สำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป
ราคา : 450 บาท
การเลือกสินค้าสำหรับเด็กนอกจากความคุ้มค่าแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความเหมาะสม และความปลอดภัยกับตัวของลูกน้อย พร้อมทั้งอุปกรณ์ที่มีความครบถ้วน พร้อมต่อการใช้งานจริง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
เครื่องนึ่งขวดนม พาคุณแม่ชอปปิงเครื่องนึ่งขวดไอเทมที่คุณแม่ต้องมี
ขวดนมสำหรับเด็ก ขวดนมแบบไหนเหมาะกับลูกน้อย ขวดนมแบบไหนถึงจะดี
รวม 10 กระเป๋าเด็กอ่อน กระเป๋าใส่ของสำหรับคุณแม่ ยี่ห้อไหนดี มาดูกัน
ที่มา : theasianparent