เป้อุ้มเด็ก เป้อุ้มเด็กสะพายหลัง เลือกอย่างไรดี ? แบบไหนดี ? คำถามเหล่านี้ ยังคอยกวนใจคุณแม่อยู่เรื่อย ๆ ใช่หรือเปล่า เป้อุ้มเด็ก ถือเป็นสิ่งที่ช่วยในการอุ้มลูกเมื่อต้องออกไปข้างนอกบ้าน ซึ่งในบางครั้ง การที่จะนำรถเข็นไปด้วย อาจจะดูลำบาก เนื่องจากพื้นที่การขนส่งอาจไม่อำนวย หรือไม่สถานที่ที่ไปก็อาจแออัดจนไม่เพียงพอต่อการวางรถเข็น วันนี้ เราจะมาดูกันว่า เป้อุ้มเด็กแบบไหน ที่เหมาะกับคุณแม่และลูกน้อย วิธีเลือกเป้อุ้มเด็ก หรือ Baby Sling ที่ดีนั้น มีอะไรบ้าง
เป้อุ้มเด็กมีประโยชน์อย่างไร ?
อย่างที่ได้เกริ่นไปแล้ว ว่าเป้อุ้มเด็ก เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคุณแม่ เวลาที่ต้องออกไปนอกบ้าน หรือออกไปพบปะผู้คนที่สถานที่ต่าง ๆ โดยเป้อุ้มเด็ก จะช่วยทุ่นแรงคุณแม่ในการอุ้มลูก ทำให้เดินเหินได้ง่ายยิ่งขึ้น ไม่ต้องใช้มืออุ้มลูกตลอดเวลา แถมหากเด็กง่วงนอน ก็สามารถงีบหลับในเป้ได้ตลอดเวลาอีกด้วย ซึ่งก็มีงานวิจัยที่ชี้ว่า เด็กทารกมากกว่า 43% จะร้องไห้น้อยลงเมื่ออยู่บนเป้อุ้มทารก
ทำไมถึงต้องใช้ เป้อุ้มเด็ก เป้อุ้มเด็กสะพายหลัง ?
- สร้างความอบอุ่น และปลอดภัยให้กับเด็ก เหมือนกับแม่ได้โอบอุ้มอยู่ตลอดเวลา
- สามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างใกล้ชิด แม้ว่ามือทั้งสองยังคงทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้อย่างปกติ
- ช่วยให้คุณพ่อ คุณแม่ คล่องตัวเมื่อทำงานบ้าน ทำธุระ หรือออกไปเที่ยวนอกบ้าน
- แม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกได้อย่างทันท่วงที
- ลูกปลอดภัย นั่ง และนอนได้อย่างสบาย
- ช่วยลดอาการร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจจากลูกได้ เพราะลูกอยู่ติดตัวคุณพ่อคุณแม่อยู่ตลอดเวลา
- ช่วยลดอาการปวดเมื่อยที่ข้อมือ แขน หัวไหล่ และหลัง เนื่องจากการรับน้ำหนักจากการอุ้มเด็กเป็นเวลานาน
- ประหยัดแรง และปลอดภัย ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็ไม่มีอะไรมากีดขวาง หรือกลัวลูกร่วงหล่น
เป้อุ้มเด็ก มีกี่ประเภท?
เป้อุ้มเด็กถูกออกแบบมาหลายรูปแบบ โดยมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งเราจะแยกออกมาได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. เป้อุ้มเด็กแบบมีโครง (Structured Baby Carrier)
เป้ลักษณะนี้จะพบเห็นได้บ่อย เหมาะกับเด็กหลากหลายวัย และสามารถใช้งานได้หลายโอกาส ลักษณะของเป้อุ้มเด็กชนิดนี้ จะคล้ายกับกระเป๋าสะพายทั่วไป สามารถสะพายได้ทั้งด้านหน้า และด้านหลัง
โดยมากตัวเป้จะถูกออกแบบให้มีสายรัดเอว เพื่อการถ่ายเทน้ำหนักเมื่อต้องรองรับตัวเด็กให้เกิดความสมดุล และไม่เป็นอันตรายกับตัวเด็ก และผู้ที่อุ้ม ช่วยลดแรงกดบริเวณไหล่ ที่เป็นสาเหตุให้เกิดความปวดเมื่อย และอาการปวด
ตัวเป้จะมีโครงที่ออกแบบมาเพื่อประคองบริเวณหลัง และศีรษะของเด็ก ตัวผ้าที่ใช้มักจะคำนึงถึงการระบายอากาศ ทำให้ตัวเด็กไม่รู้สึกอึดอัดเวลาที่จะต้องอยู่ในตัวเป้เป็นเวลานาน
2. ผ้าอุ้มเด็ก หรือเบบี้สลิง (Baby Wrap/Baby Sling)
สำหรับ ผ้าอุ้มเด็ก หรือ เบบี้สลิง มองดูเผิน ๆ อาจจะไม่คล้ายกับเป้ นั่นเป็นเพราะผ้าอุ้มเด็กจะเป็นการใช้ความยืดหยุ่นสูงของผ้าผืนยาว มาเป็นตัวช่วยโอบอุ้ม ซึ่งเทคนิค และวิธีการใช้นั้น ก็จะแตกต่างกันออกไป โดยส่วนใหญ่เมื่อพันออกมาจะมีลักษณะคล้ายกับกระเป๋าหน้าของจิงโจ้
แต่ผ้าอุ้มเด็กนี้ จะมีข้อจำกัดมากพอสมควร เพราะจะสามารถรองรับทารกที่มีน้ำหนักตัวที่ไม่มากนัก เนื่องจากตัวผ้าไม่มีโครงขึ้นรูปเพื่อการรองน้ำหนักที่มากพอ รวมถึงตัวผู้ใช้ จำเป็นจะต้องมีทักษะในการพันผ้า เพื่อลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ข้อดีของอุปกรณ์ชนิดนี้คือ มีน้ำหนักเบา พกพาง่าย ไม่เปลืองพื้นที่จัดเก็บ สามารถปรับให้ตัวเด็กอยู่ในลักษณะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง หรือนอน ขึ้นอยู่ลักษณะการพันผ้า นั่นเอง
วิธีเลือกซื้อเป้อุ้มเด็ก ต้องดูจากอะไร?
1. ความปลอดภัย
ความปลอดภัยคือสิ่งแรกที่ตัวคุณพ่อคุณแม่จะต้องคำนึงถึง และใส่ใจในการเลือกสิ่งต่าง ๆ ให้กับลูกน้อยของคุณ
- โครงสร้างที่จะพยุงตัวเด็ก ตำแหน่งประคองศีรษะ และคอของทารก
- การเลือกใช้วัสดุที่มีความปลอดภัยกับผิวหนัง และโครงสร้างร่างกาย
- การตัดเย็บที่มีความแน่นหนา ปลอดภัย ไม่ฉีกขาดง่าย
- สายรัด และตัวล็อก มีความแน่นหนา สามารถรองรับหนักตัวของเด็กได้ มีความกระชับเมื่อสวมใส่
2. รูปแบบการใช้งาน
เนื่องจากกิจกรรมต่าง ๆ ของแต่ละครอบครัวมีความแตกต่างกันออกไป การเลือกใช้เป้อุ้มเด็ก จำเป็นจะต้องตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกันออกไปเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับรูปทรงเป้าเพื่อรองรับการให้นม การพาเด็กออกไปทำกิจกรรมเป็นเวลานาน การรองรับเด็กเมื่อเริ่มมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น เป็นต้น
3. ความสบายตัวของเด็ก
แม้ว่าเป้อุ้มเด็กจะช่วยให้อาการงอแง เรียกร้องความสนใจของเด็กลดน้อยลง แต่ถ้าการอยู่ในเป้แล้วเด็กกลับไม่รู้สึกสบายตัว เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศเรา หรือตัวเนื้อผ้าที่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือตัวผ้าเป็นแหล่งเก็บกักเชื้อโรค ไรฝุ่น ก็อาจจะกลายเป็นการสร้างผลเสียให้กับเด็กแทน
เป้อุ้มเด็กแบบไหนดี ต้องดูอะไรบ้างเวลาซื้อ
เมื่อคุณแม่ต้องซื้อปุ้มอุ้มเด็กด้วยตัวเอง ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่มีอายุการใช้งานนาน ทำจากเนื้อผ้าหรือวัสดุที่คงทน และควรพยายามเลือกเป้ที่น้ำหนักไม่เยอะจนเกินไป และต้องสามารถรับน้ำหนักของลูกได้ดี ถ้าลูกอายุได้ไม่กี่เดือน ให้เลือกเป้ที่เด็กหันหน้าเข้าหาตัวคุณแม่ได้ตอนที่สะพายเป้ เพื่อที่คุณแม่จะกอดลูกได้ถนัด แต่ถ้าเด็กโตกว่านั้นขึ้นมาหน่อย ให้เลือกเป้ที่เด็กหันหน้าออกจากตัวคุณแม่
บทความที่เกี่ยวข้อง : เป้อุ้มลูก ข้อดีที่แม่ต้องรู้ เป้อุ้มทารกมีประโยชน์อะไรบ้าง
นอกจากนี้ ถ้าที่ร้านให้ทดลองใช้เป้ได้ ก็ให้ลองอุ้มเด็กด้วยเป้นั้น ๆ ดู และดูว่าลูกของเราอยู่ในท่าที่สบายไหม เป้รัดตัวลูกเกินไปหรือเปล่า รวมถึงดูด้วยว่าตัวคุณแม่เอง รู้สึกสบายและคล่องตัวเมื่อสะพายเป้ไหม ทั้งนี้ ตัวเป้ควรจะมีสายปรับระดับ เพื่อที่ว่าคุณพ่อจะใช้เป้กับคุณแม่ได้ด้วย และที่สำคัญเป้ที่เลือกซื้อควรใช้งานง่าย ใช้เวลาสวมใส่ไม่นาน และไม่มีสายรกรุงรัง
เมื่อคุณแม่พิจารณาในเรื่องน้ำหนักเป้ และความสะดวกสบายของเป้ไปแล้ว ขั้นตอนต่อไป ก็คือการดูว่าเป้ใบที่เราสนใจนั้น เหมาะกับสภาพอากาศประเทศไทยไหม หากเป้ทำจากผ้าที่หนาเกินไป ก็อาจจะไม่เหมาะ เพราะอาจทำให้เด็กร้อนและงอแงได้ง่าย นอกจากนี้ คุณแม่ต้องดูด้วยว่า เป้สามารถล้างทำความสะอาดได้ง่ายไหม เพราะอาจมีบางที ที่เด็กกินเลอะ หรือน้ำลายไหล หากเลือกซื้อเป้ที่ทำความสะอาดได้ง่ายและไว ก็จะช่วยให้ประหยัดเวลาได้มากยิ่งขึ้น
เป้อุ้มเด็ก เหมาะกับเด็กอายุเท่าไหร่ เป้อุ้มทารกใช้ตอนกี่เดือน
โดยส่วนใหญ่แล้ว เป้อุ้มเด็กนั้นจะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อย แต่หากคุณแม่อยากจะใช้เป้กับเด็กที่อายุ 1 เดือน หรือ เด็กแรกเกิด ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้เช่นเดียวกัน แต่ควรเลือกเป้ที่ปรับเปลี่ยนตัวสายได้ง่ายและมีความกระชับ โดยเป้เด็กบางอัน อาจจะใส่แล้วสบายตัว พกพาง่าย ใช้ง่าย ในขณะที่บางอันก็ไม่เป็นอย่างนั้น และเป้บางอัน ก็ใช้ได้นานไปจนถึงตอนที่เด็กโตเลยด้วย ดังนั้น คุณแม่ควรเลือกซื้อเป้ให้เหมาะสำหรับความต้องการของตัวเองและลูก ๆ
บทความที่เกี่ยวข้อง : ระวัง เป้อุ้มเด็ก อาจทำให้ลูก ข้อสะโพกหลุด
ข้อควรระวังเกี่ยวกับเป้อุ้มเด็ก
ถ้าหากคุณแม่จะใช้เป้อุ้มเด็กกับทารกแรกเกิด อาจจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากว่ากระดูกข้อต่อต่าง ๆ ของเด็กยังไม่แข็งแรงเท่าไหร่นัก ในช่วงไม่กี่เดือนแรกของชีวิต กระดูกขาส่วนบนของเด็ก จะมีลักษณะคล้ายลูกบอล เคลื่อนไปมาได้แบบหลวม ๆ ซึ่งหากสะโพกของเด็กถูกยืดออกเร็วเกินไป อาจทำให้กระดูกขาเด็กหลุดออกจากเบ้าสะโพกได้ ดังนั้น คุณแม่จึงควรเลือกเป้ที่ไม่ทำให้สะโพกและเข่าของเด็กยืดจนเกินไป และเมื่อใส่เป้ ขาเด็กต้องไม่ห้อยเข้ามาใกล้กัน หากเด็กอยู่ในท่านี้นาน ๆ มีโอกาสข้อสะโพกหลุดได้ ให้เลือกเป้ที่ทำให้สะโพกของเด็กแยกไปด้านข้างตามธรรมชาติ โดยที่ต้นขาจะกางออก เพื่อรองรับสะโพกและการงอเข่า
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
5 อันดับ เป้อุ้มเด็ก ยอดนิยม พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อ
ของมันต้องมี!! 10 ของใช้จำเป็นสำหรับเบบี๋ จัดให้เป๊ะ เช็กให้พร้อม มีครบไว้สบายใจกว่า
สุดยอดคุณแม่ DIY เป้อุ้มเด็กสร้างสรรค์ได้จากผ้าผืนเดียว!
ที่มา : babylist, sg.theasianparent