โรงเรียนนี้ที่แม่เลือก: โรงเรียนบ้านคุณแม่ เชียงใหม่ รีวิวโดยคุณแม่อีฟว์-น้องภูผา-น้องธารา-น้องทิวหมอก (School Hit)
สำหรับคุณแม่อีฟว์-คุณแม่แพรวไพลิน สุนทรัตตา โจทย์สำคัญในการเลือกโรงเรียนให้กับลูกชายแฝดสามอย่าง น้องภูผา น้องธาราและน้องทิวหมอก คือการเรียนการสอนของต้องไม่เคร่งเครียด ไม่เน้นวิชาการมากเกินไป ซึ่งเธอได้ยึดหลักการนี้มาตั้งแต่ช่วงที่ลูก ๆ เรียนชั้นอนุบาล จนถึงปัจจุบันที่กำลังจะย้ายไปเรียนชั้น ป.1 ที่โรงเรียนใหม่ในปีหน้า โดยโรงเรียนที่ตอบโจทย์ในการเรียนชั้นประถมศึกษาของน้อง ๆ คือ โรงเรียนบ้านคุณแม่ เชียงใหม่…ครอบครัวไหนในจังหวัดเชียงใหม่ที่กำลังมองหาโรงเรียนให้กับลูก ต้องไม่พลาดบทสัมภาษณ์ของคอลัมน์ School Hit ในครั้งนี้
หลักการในการเลือกโรงเรียนให้กับลูก
“ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนอนุบาลหรือโรงเรียนประถม ความตั้งใจของเราคือไม่อยากให้ลูกเคร่งเครียด ไม่หนักวิชาการจนเกินไป ได้เรียนรู้ผ่านการเล่นและการทำกิจกรรม ซึ่งคิดว่าตรงกับแนวทางของการศึกษาทางเลือก แต่ด้วยเราอยู่จังหวัดเชียงใหม่ที่จะไม่มีโรงเรียนทางเลือกที่สามารถเรียนต่อไปได้ถึงชั้นมัธยม อีกอย่างคือถ้าเลือกโรงเรียนทางเลือกไปเลย ก็กลัวว่าลูกจะไปต่อในชั้นมัธยมลำบาก ดังนั้นโรงเรียนที่ตอบโจทย์จึงต้องอยู่ตรงกลางระหว่างโรงเรียนทางเลือกและโรงเรียนที่เน้นวิชาการ”
เหตุผลที่เลือกโรงเรียนบ้านคุณแม่
“ก่อนหน้าที่จะเข้าไปดูโรงเรียน ได้ศึกษาข้อมูลพอสมควร พอดูลึกลงไปในแนวทางการเรียนการสอน โรงเรียนนี้ยังคงใช้หลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ แต่เน้นรูปแบบของ project based learning ให้เด็กเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรม การเล่น ไม่ได้กางตำราสอนเหมือนโรงเรียนที่เน้นวิชาการทั่วไป จากนั้นได้ขอเข้าไปเยี่ยมชมโรงเรียน ต้องบอกว่าเป็นโรงเรียนที่ร่มรื่น น่าเรียน บรรยากาศดี ดูเล็ก ๆ น่ารัก ซึ่งตรงใจเรา เพราะลูกมีภาวะแพ้อาหาร ฉะนั้นการที่จะพาลูกไปเข้าโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนจำนวนเยอะ ๆ ต่อห้อง เรากลัวว่าคุณครูจะดูแลไม่ทั่วถึง อาจจะดูเสี่ยงเกินไป แต่สำหรับโรงเรียนนี้แต่ละระดับชั้นจะมีเพียงห้องเดียว และมีจำนวนนักเรียนต่อห้องประมาณ 20 คนเท่านั้น คุณครูน่าจะสามารถดูแลลูกได้อย่างใกล้ชิด”
ยังมีข้อเด่นในด้านใดอีกที่ทำให้ตัดสินใจเลือกโรงเรียนนี้
“น่าจะเป็นเรื่องค่าเทอมที่จะคงที่ไปตลอด เข้ามาเรียนชั้น ป.1 ด้วยค่าเทอมเท่าไร ก็จ่ายเท่ากันไปจนถึงป.6 ซึ่งทำให้เราสามารถคำนวณค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้ ที่ชอบอีกอย่างคือไม่มีการบ้าน โรงเรียนอาจจะเลิกช้าหน่อย สี่โมงถึงสี่โมงครึ่ง แต่ไม่มีอะไรให้เด็กกลับมาทำที่บ้านเพิ่มอีก โดยชั่วโมงสุดท้ายของการเรียนแต่ละวันจะเป็นการเรียนรู้ผ่านฐานต่าง ๆ ซึ่งจะแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ๆ แต่ละกลุ่มจะมีนักเรียนจากทุกระดับชั้น ทุกกลุ่มจะหมุนเวียนกันเข้าฐานที่คุณครูจัดไว้ให้ ซึ่งจะมีบรรยากาศน่ารัก ๆ ที่รุ่นพี่ดูแลรุ่นน้อง และรุ่นน้องก็ได้เห็นตัวอย่างดี ๆ จากรุ่นพี่ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมพิเศษที่เป็น project based learning จริง ๆ เช่น การจัดตลาดนัดที่ให้เด็ก ๆ เลือกของและขายของเอง โดยมีผู้ปกครองเข้ามาร่วมประชุมและช่วยจัดงาน นอกจากได้ฝึกทักษะต่าง ๆ ยังทำให้ครอบครัวได้มาใช้เวลาร่วมกันอีกด้วย”
ทราบว่าช่องทางโซเชียลมีเดียของโรงเรียนก็เป็นอีกส่วนสำคัญในการช่วยตัดสินใจ
“ด้วยความที่โรงเรียนมีขนาดเล็ก มีนักเรียนจำนวนไม่มาก ส่งผลให้มีรีวิวออกมาค่อนข้างน้อย ก็เลยใช้วิธีเข้าไปดูในเฟซบุ๊กของโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนจะอัปเดตข้อมูลอยู่สม่ำเสมอ จึงทำให้มีโอกาสได้เห็นการเรียนการสอนทั้งในช่วงเวลาปกติและการสอนออนไลน์ในช่วงโควิด นอกจากนี้ยังมีคลิปการทำกิจกรรม ไม่ว่ากิจกรรมในวันสำคัญต่าง ๆ ตามปกติหรือกิจกรรมนอกโรงเรียน ที่ชอบมากอันหนึ่งคือโรงเรียนพานักเรียนไปเดินป่า ด้วยจำนวนนักเรียนที่น้อย เราก็จะได้เห็นนักเรียนทุกชั้นปีไปเดินป่าด้วยกันทั้งหมด พี่ได้ดูแลน้อง ๆ น้องได้รับการดูแลจากรุ่นพี่ โดยมีคุณครูคอยดูแลอีกที พวกเขาได้ไปเดินป่าจริง ๆ ได้ลงมือทำฝายกั้นน้ำจริง ๆ เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์นอกห้องเรียนที่แท้จริง”
มาตรการในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ของโรงเรียนเป็นอย่างไร
“ช่วงที่ไปเยี่ยมชมโรงเรียนเป็นช่วงของโควิดพอดี โรงเรียนมีมาตรการและการจัดการที่ดี มีพรมฆ่าเชื้อ ดูแลเรื่องความสะอาด ตรวจวัดอุณหภูมิ จำกัดทางเข้าโรงเรียน แต่นอกจากโควิด เราก็ยังมีความกังวลในเรื่องฝุ่น pm2.5 ด้วย เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าเชียงใหม่ต้องเจอกับปัญหานี้ทุกปี ซึ่งทางโรงเรียนก็มีเครื่องฟอกอากาศเตรียมพร้อมไว้ ก็ทำให้อุ่นใจมากขึ้น”
ข้อมูลเพิ่มเติมของโรงเรียนบ้านคุณแม่ เชียงใหม่
facebook : บ้านคุณแม่ สู่ความเป็นนักคิด ด้วยวิทยาศาสตร์แห่งความสุข
หลักสูตรที่เปิดสอน : หลักสูตรมาตรฐาน
ค่าใช้จ่าย :
– ค่าแรกเข้า 10,000 บาท
– ค่าเทอม (ประถมศึกษา) 30,000 บาท/เทอม
– Summer Course 2,000 บาท/สัปดาห์
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
อัปเดตค่าเทอม ป.1 ของ 50 โรงเรียนในภาคเหนือ ปี 2020
โรงเรียนนี้ที่แม่เลือก: โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส รีวิวโดยคุณแม่เกียว-น้องตั่งตั๊ง (School Hit)
โรงเรียนนี้ที่แม่เลือก: โรงเรียนอมาตยกุล รีวิวโดยคุณแม่โอ๋-น้องไทนี่-น้องนีนี่ (School Hit)