Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด
วิธีกระตุ้นให้ลูกพูด เทคนิคช่วยให้ลูกพูดเร็วๆ สำหรับพ่อแม่ที่เป็นห่วงว่าลูกน้อยไม่ยอมพูดเลย หรือพูดแล้วไม่เป็นประโยค พูดไม่รู้เรื่อย พ่อแม่ต้องสอนลูกอย่างไรดี แล้วลูกจะเริ่มพูดรู้เรื่องเมื่ออายุเท่าไหร่ พ่อแม่ควรสอนลูกอย่างไรให้พูดเป็นเร็วๆ กันนะ มาดูกันค่ะ
พัฒนาการการพูดของเด็ก
การพูดคุยครั้งแรกของทารกมักจะเกิดขึ้นไม่นานหลังจากคลอด แต่จะเป็นการพูดคุยแบบอวัจนภาษา คือ การใช้เสียงกรีดร้องหรือการร้องไห้ออกมานั่นเองค่ะ ทารกมักจะร้องไห้เพื่อบอกว่าตัวเองต้องการอะไร รู้สึกอย่างไร เช่น กลัว หิว ไม่พอใจ และเรียกร้องความสนใจ หลังจากนั้นทารกก็จะมีพัฒนาการทางการพูดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยมีพัฒนาการดังต่อไปนี้ คือ
- เด็กวัย 3 เดือน: ลูกน้อยจะชอบมองใบหน้าพ่อแม่ขณะที่คุณคุยกับเขา และทารกมักจะชอบหันไปหาเสียงไม่ว่าจะเสีนงคนคุยกัน เสียงเพลง หรือเสียงอื่นๆ รอบข้าง โดยเฉพาะเพลงที่เคยได้ฟังตั้งแต่อยู่ในท้อง ในวัยนี้ทารกจะชอบเสียงผู้หญิงมากกว่าเสียงผู้ชายค่ะ และเริ่มที่จะอ้อแอ้บ้าง
- เด็กวัย 6 เดือน: ลูกน้อยจะเริ่มพูดด้วยเสียงที่แตกต่างกัน และจะตอบสนองต่อชื่อเรียกของตัวเอง มีการใช้น้ำเสียงที่บอกว่ามีความสุขหรืออารมณ์เสียได้ บางคนเริ่มเรียกพ่อหรือแม่ได้แล้ว
- เด็กวัย 9 เดือน: ลูกน้อยจะเริ่มเข้าใจความหมายของคำบางคำ เช่น ไม่ ลาก่อน เริ่มรู้จักการใช้โทนเสียงอื่นๆ และการออกเสียงพยัญชนะอื่นๆ
- เด็กวัย 12 เดือน: ลูกจะเริ่มพูดคำง่ายๆ และเริ่มตอบสนองในสิ่งที่พ่อแม่หรือคนรอบข้างบอก ทั้งยังเข้าใจคำบางคำสั้นๆ
- เด็กวัย 18 เดือน: ลูกน้อยเข้าใจความหมายของคำมากขึ้น สามารถระบุคน วัตถุ หรือส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ ทั้งยังเลียนแบบคำพูดจากการที่ได้ยินคุณพูด แต่จะเป็นเพียงคำสุดท้ายของประโยค โดยจะพูดซ้ำๆ
- เด็กวัย 2 ขวบ: ลูกน้อยจะเริ่มพูดเป็นวลีสั้นๆ เพียง 2-3 คำ เข้าใจคำศัพท์เกี่ยวกับวัตถุ และธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงสามารถทำตามคำแนะนำหรือคำขอร้องของพ่อแม่ได้
- เด็กวัย 3 ขวบ: ลูกน้อยจะเริ่มเข้าใจคำศัพท์มากขึ้น เข้าใจสัญลักษณ์ เข้าใจความรู้สึก สามารถพูดได้ยาวมากขึ้น สามารถตอบคำถามที่ซับซ้อนขึ้นได้
-
ลูกไม่พูดควรทำอย่างไร
สำหรับวิธีกระตุ้นให้ลูกพูดนั้น พ่อแม่อาจจะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับการพูดให้มากขึ้น โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
Loading...You got lucky! We have no ad to show to you!- การดู: พ่อแม่ควรคอยดูปฎิกิริยาของลูกน้อยว่าลูกมีท่าทีอย่างไร เพราะในช่วงแรกๆ ท่าทารกจะใช้ภาษากายในการสื่อสาร เช่น การยื่นของเล่นมาให้คุณ เพื่อบอกว่าเขาอยากเล่นกับคุณ ช่วงนี้พ่อแม่ควรสบตาและทำการตอบสนองลูกตอบค่ะ
- การฟัง: พออายุลูกโตขึ้นอีกหน่อย เมื่อเขาพูดอ้อแอ้คุณควรพยายามตั้งใจฟังในสิ่งที่เขากำลังพูดให้มากที่สุด เพราะลูกน้อยกำลังที่จะฝึกพูดและพยายามเลียนเสียงตามพ่อแม่ค่ะ
- การชมเชย: เวลาที่ลูกพยายามคุยด้วย พ่อแม่อาจยิ้มและปรบมือให้เพื่อเป็นการชมเชยถึงความพยายามของเด็ก เมื่อลูกเห็นลูกจะได้มีแรงผลักดันในการที่จะพูดให้มากขึ้น
- การเลียนแบบ: ทารกมักจะชอบเลียนแบบผู้ใหญ่อยู่แล้ว ดังนั้น พ่อแม่ควรพูดกับลูกบ่อยๆ โดยพูดช้าๆ ชัดๆ คำสั้นๆ และคำง่ายๆ ก่อน และเว้นจังหวะให้ลูกพูดตามค่ะ
- การอธิบาย: เวลาพูดคุยกับลูก พ่อแม่อาจจะชี้ไปยังวัตถุรอบตัว แล้วอธิบายให้ลูกเข้าใจมากขึ้น เช่น “นั่นสุนัขดูมันวิ่งซิลูก” หรือ ชี้มาที่ชามแล้วบอกว่า “เอาข้าวเพิ่มไหมลูก”
- การเล่าเรื่อง: ระหว่างที่พ่อแม่อยู่กับลูก พ่อแม่อาจจะเล่าเรื่องรอบตัว หรือบอกว่าตัวเองจะทำอะไรให้ลูกฟัง เช่น “แม่กำลังตัดเล็บให้ลูกนะ” หรือ “วันนี้ใส่เสื้อสีน้ำเงินไหม มีหมีตัวโตด้วย” การพูดคุยแบบนี้จะเป็นการฝึกความเชื่อมโยงกับให้กับเด็กค่ะ
- การเล่น: การส่งเสริมให้ลูกเล่นโดยใช้จินตนาการ เป็นเหมือนการช่วยให้ลูกได้ฝึกพูดเหมือนกัน เพราะเด็กมักจะจำลองเหตุการณ์ต่างๆ ออกมา พร้อมกับสร้างบทสนทนาขึ้นมาเองค่ะ
- การออกเสียง: ฝึกให้ลูกออกเสียง
- ปล่อยให้ลูกพูด: ทุกครั้งที่พ่อแม่พูดกับลูกต้องพยายามปล่อยให้ลูกพูดบ้าง ไม่ใช่ว่าพูดใส่ลูกอย่างเดียวจนลูกไม่มีจังหวะพูดออกมา และในช่วงแรกอาจชวนลูกพูดในเรื่องที่สนใจ ให้เขาเล่าออกมา
แชร์วิดีโอลูกรักของคุณ คลิกที่นี่
Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!