แพ้น้ำลาย ผื่นรอบปากทารกวัยเล่นน้ำลาย เป็นผื่นที่ปาก จากการระคายเคือง

อาการของทารกที่แม่กังวล แพ้น้ำลาย เป็นผื่นที่ปาก ผื่นรอบปากทารกวัยเล่นน้ำลาย อันตรายแค่ไหนกันนะ

ผื่นระคายเคืองรอบปากทารก ที่เรียกกันว่า “แพ้น้ำลาย” เป็นผื่นที่ปาก คืออะไร?

เมื่อเด็กเล็กๆ วัยทารก มีผื่นแดงรอบปาก คุณพ่อคุณแม่มักจะกังวลว่าเป็นเพราะลูกแพ้อาหาร หรือ เป็นโรคภูมิแพ้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อาการผื่นรอบปากนี้ อาจมีสาเหตุจาก “สิ่งระคายเคืองเฉพาะที่” เช่น น้ำลาย (ในทารก–วัยเล่นน้ำลาย) หรือ หลังทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม ทำให้เกิดโรคผื่นระคายสัมผัส หรือ ผื่นแพ้จากการระคายเคือง ซึ่งเป็นโรคผื่นผิวหนังที่เกิดจากการระคายเคืองต่อการสัมผัสกับสารก่อการระคายเคืองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสารที่มีฤทธิ์เป็นกรดหรือด่าง เช่นน้ำลายที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อนๆ, ผลไม้เปรี้ยวที่มีฤทธิ์เป็นกรด หรือ สารเคมีโดยเฉพาะสารทำความสะอาดเช่น สบู่ (โดยเฉพาะชนิดที่ผสมน้ำหอม) น้ำยาซักผ้า ทำให้ผิวเกิดการอักเสบระคายเคืองขึ้นมาได้ ขึ้นผื่นแพ้จากการระคายเคืองนี้ ใครๆก็มีโอกาสเป็นได้ หากได้สัมผัสกับสิ่งที่ทำให้เกิดการระคายเคือง เป็นเวลานานพอ โดยไม่ได้เกิดจากการปฏิกิริยาการแพ้

ลักษณะอาการของผื่นระคายสัมผัสรอบปากทารกเป็นอย่างไร?

ผื่นระคายสัมผัสรอบปากเด็กทารกซึ่งมักเกิดจากน้ำลาย มักมีลักษณะเป็นผื่นแดงชัดเจน อาจมีขุยรอบๆ แห้ง มีอาการคันมาก ผิวแตกเป็นแผล จึงมีอาการเจ็บได้ และบางครั้งอาจมีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังร่วมด้วยผื่นจึงดูรุนแรงมากกว่าปกติ โดยผื่นจะเป็นอยู่เฉพาะบริเวณรอบปากซึ่งมีการสัมผัสกับสิ่งระคายเคือง โดยเฉพาะน้ำลาย ที่มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน สัมผัสไปนานๆจึงมีอาการดังกล่าว ความรุนแรงของผื่นขึ้นอยู่กับปริมาณ ระยะเวลาและความถี่ที่สัมผัส ลักษณะของผิวหนัง และสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม โดยหากสัมผัสกับน้ำลายด้วยปริมาณมาก บ่อยๆ เป็นเวลานาน และทารกมีลักษณะผิวที่บางแห้งหรือผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่อากาศร้อนหรือหนาวเย็นเกินไป ก็จะทำให้มีโอกาสเกิดผื่นชนิดนี้ได้ง่ายขึ้น

ผื่นระคายสัมผัสรอบปากจากน้ำลายนี้ สามารถเกิดได้ในเด็กโต หรือ ผู้ใหญ่ ที่ชอบเลียริมฝีปากได้ แต่อาการมักจะไม่มากเหมือนกับทารก

ทราบได้อย่างไรว่าลูกมีอาการผื่นระคายสัมผัสรอบปาก?

หากลูกมีผื่นแดงรอบปากเรื้อรัง โดยมีลักษณะอาการ ดังกล่าวข้างต้น คุณพ่อคุณแม่คุณพาลูกไปปรึกษาคุณหมอ เพื่อทำการสอบถามประวัติและตรวจร่างกายโดยละเอียด เพื่อวินิจฉัยแยกโรคผื่นแพ้ที่เรื้อรังจากสาเหตุอื่นๆ เช่นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ แพ้อาหารบางชนิด เป็นต้น สำหรับการวินิจฉัยผื่นระคายสัมผัสรอบปากจากน้ำลาย ไม่มีการทดสอบทางห้องปฏิบัติการที่จำเพาะ จะอาศัยประวัติการสัมผัสที่ชัดเจน และอาการผื่นดีขึ้นเมื่อไม่ได้สัมผัสกับสิ่งที่ระคายเคือง ร่วมกับการรักษาผืนเดิมให้หาย ก็จะไม่กำเริบขึ้นมาใหม่อีก

การรักษาผื่นระคายสัมผัสรอบปากทำได้อย่างไร?

หลักในการรักษาผื่นชนิดนี้คือ ไม่สัมผัส ลดความถี่และปริมาณ ของสิ่งที่ระคายเคือง อันเป็นต้นเหตุ รักษาผิวให้ชุมชื้น หากสิ่งระคายเคือง คือน้ำลาย จึงสามารถทำได้โดย หมั่นเช็ดน้ำลายลูก หากอยู่ในวัยทีชอบเล่นน้ำลายก็อาจต้องเช็ดบ่อยๆ แต่เมื่อเลยวัยที่เล่นนำ้ลายไป อาการก็จะดีขึ้น ทาครีมหรือโลชั่นลดการอักเสบที่บริเวณรอบปาก หากมีอาการแดงมากอาจทายาลดการอักเสบกลุ่มสเตียรอยด์อย่างอ่อนที่บริเวณผื่น โดยใช้เพียงระยะสั้นๆ ไม่เกิน 1 สัปดาห์ จนผื่นหายไปก็หยุดทายาได้ทันที และอาจมีการใช้ยาปฏิชีวนะในกรณีที่มีการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังร่วมด้วย

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

วิธีรักษาผื่นผ้าอ้อม รับมือกับผดผื่นแดงๆ ที่ขึ้นบนก้นนุ่มๆ ลูกยังไงดี

ทราบได้อย่างไรว่าลูกแพ้อาหารผ่านนมแม่ ทารกเป็นผื่น ถ่ายมีมูกเลือด คือแพ้ใช่ไหม

ส่าไข้ ทารก เกิดจากอะไร แม่อาบน้ำให้ลูกได้ไหม ทำยังไงถึงจะหาย