ลูกไม่สบตา ไม่มองหน้า เป็นออทิสติก (Autistic) หรือเปล่า ?
โดยปกติ แล้วทารกน้อย จะสามารถมองจ้องหน้าได้ ตั้งแต่อายุประมาณ 1-2 เดือน หาก ลูกไม่สบตา ไม่ยอมจ้องหน้า หลังจากอายุ 2 เดือนไปแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ อาจจะเกิดความกังวลใจ ว่านี่เป็นสัญญาณเริ่มต้น ของ โรคออทิสติก (Autistic) หรือเปล่า จริง ๆ แล้ว คุณพ่อ คุณแม่ อาจให้เวลาในการเล่น และพูดคุยกับลูก ให้บ่อยขึ้น ทั้งนี้ หากยังไม่ดีขึ้น ก็ควรได้รับการตรวจประเมิน เพื่อหาสาเหตุจากคุณหมอ ดังนี้ค่ะ
ลูกยอมไม่สบตา เกิดจากสาเหตุใดบ้าง ?
ในเด็กที่ขาดการกระตุ้น พัฒนาการอย่างเหมาะสม จากผู้เลี้ยงดู เช่น ปล่อยให้ทานนม อยู่คนเดียว โดยไม่มีผู้ใหญ่มาพูดคุย เล่นด้วย เป็นสาเหตุ ที่พบบ่อยที่สุด ของการไม่สบตาในเด็ก ที่ปกติแข็งแรงดี ซึ่งสามารถแก้ไขได้ โดยธรรมชาติแล้ว ทารกจะจ้องมองสิ่งต่าง ๆ ได้ไม่นาน แต่หากมีคนมาพูดคุยใกล้ ๆ ยิ้ม สบตา ก็จะดึงดูดความสนใจของทารกได้
ทารกจะสนใจใบหน้าของคุณแม่ หรือผู้ใหญ่ที่เลี้ยงดู มากกว่าสิ่งของต่าง ๆ ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ทารกจะเริ่มสบตา ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ แค่ 2-3 วินาทีก่อน และเมื่อโตขึ้น จะเริ่มสบตา และจ้องหน้านานขึ้น ได้ถึง 5-10 นาที ในเวลาต่อมา
สาเหตุอื่น ที่เด็กไม่สบตา อาจเกิดจากความผิดปกติ ด้านต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น ความผิดปกติของตา และระบบการรับภาพ ความผิดปกติของสมอง จากสาเหตุแต่กำเนิด หรือภาวะสมองพิการ หรือสมองขาดออกซิเจน ตั้งแต่แรกคลอด
นอกจากนี้ อาจเกิดจากโรค ที่มีผลต่อพัฒนาการ ด้านการพูด และ การเข้าสังคมของเด็ก เช่น โรคออทิสติก (Autistic)
ถ้าหาก ลูกไม่ยอมสบตา ควรทำอย่างไร ?
เมื่อลูกน้อย อายุครบ 2 เดือนแล้ว คุณพ่อ คุณแม่ ควรสังเกตพัฒนาการของลูก ว่าสามารถสบตา จ้องหน้าผู้ใหญ่ หรือจ้องมองโมบาย ที่แขวนอยู่ได้หรือไม่
หากทำไม่ได้ ในเบื้องต้น ควรกระตุ้น พัฒนาการของลูก โดยเล่นกับลูกให้มากขึ้น พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ เล่านิทาน หรือใช้ของเล่น ที่มีสีสันสดใส เคลื่อนไหวได้ มาเล่นกับลูก โดยมองหน้า และสบตาโดยตรง และให้เวลาอย่างเต็มที่
แต่หากพยายามทำเต็มที่แล้ว ก็ยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบกุมารแพทย์ เพื่อการตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจสายตา และ ตรวจร่างกาย เกี่ยวกับระบบประสาทต่าง ๆ รวมถึง การประเมินพัฒนาการ เพื่อหาสาเหตุอื่น ๆ ที่ลูกไม่สบตา และแก้ไขสาเหตุ ที่รักษาได้ ต่อไป
หากสาเหตุ เกิดจาก โรคออทิสติก (Autistic) ซึ่งตัวเด็ก จะมีความความบกพร่อง ในการพูด การเข้าสังคม การสบตา และ การเรียนรู้ อาจจะต้อง ปรึกษาคุณหมอ ทางด้านพัฒนาการ นักกระตุ้นพัฒนาการ และนักฝึกพูด เพื่อที่จะได้ช่วยกัน ส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็ก อย่างเต็มที่ ซึ่งหากได้รับ การกระตุ้นพัฒนาการ ตั้งแต่อายุยังน้อย ก็จะทำให้ได้ผลดียิ่งขึ้นค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
5 สัญญาณบอก ลูกเราอาจเป็นออทิสติก
ลูกง่วง แต่ไม่ยอมนอน งอแง ร้องไห้ไม่มีเหตุผล เพราะถูกกระตุ้นมากไปหรือเปล่า
16 กิจกรรมกระตุ้น พัฒนาการเด็กเล็ก เกมสำหรับเด็ก ที่พ่อทำเองได้ ไม่ต้องเสียเงิน