วิธีเลือกขวดนมสำหรับลูก ขวดนมยี่ห้อไหนดี และปลอดภัยต่อลูกน้อย

“ขวดนม" ถือเป็นเรื่องหนึ่งที่คุณแม่ต้องให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องไหนของลูกน้อยเลยค่ะ เพราะขวดนมนั้นเป็นบรรจุภัณฑ์ที่สัมผัสกับนมโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นน้ำนมแม่หรือนมผงสำเร็จรูป ซึ่งหากคุณแม่เลือกไม่ดีอาจทำให้นมที่ลูกได้รับเกิดการปนเปื้อนของสารเคมีต่างๆ ได้ ที่นี้แทนที่ลูกน้อยจะได้ประโยชน์ก็อาจกลายเป็นโทษแทนได้นั่นเองค่ะ

 

จุดเริ่มต้นของขวดนมและจุกนม!

ขวดนมขวดแรกถูกผลิตขึ้นที่ประเทศฝรั่งเศสในปี 1851 เรียกได้ว่าเป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ขวดนมที่สมบูรณ์แบบที่สุดหลังจากพัฒนากันมาอย่างยาวนาน โดยขวดนมขวดแรกนั้นผลิตจากแก้ว และในส่วนของฝาขวดและจุกนมนั้นทำมาจากไม้มีลักษณะเป็นแบบเกลียวเพื่อป้องกันและควบคุมการไหลของน้ำนม 

 

ต่อมาในปี 1896 ประเทศอังกฤษได้มีการเปิดตัวขวดนมที่เป็นรูปทรงเรือและมีส่วนของจุกนมเป็นแบบเปิด คล้ายๆ กับแก้วในปัจจุบันของเราเลยค่ะ แน่นอนว่าหลังจากเปิดตัวมาแล้วในปีนั้นขวดนมรูปทรงนี้ก็ขายดีและเป็นที่นิยมมากทีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม ขวดนมยังถูกพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ โดยส่วนที่มีความเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุดนั้นก็คือส่วนของจุกนม เพราะมีหลากหลายประเทศเลยค่ะที่ได้ลองผลิตจุกนมจากวัสดุต่างๆ เช่น หนังสัตว์ ไม้ ยาง เป็นต้น แต่แน่นอนว่าตลอดการพัฒนานั้นยังคงมีการถกเถียงในเรื่องของความปลอดภัยอยู่ตลอด 

 

จนในที่สุดขวดนมและจุกนมได้ถูกพัฒนาให้มีรูปทรงเช่นปัจจุบัน และแม้จะมีการใช้วัสดุที่แตกต่างกันไปในแต่ละแบรนด์ แต่ทุกแบรนด์ย่อมต้องผลิตขวดนมภายใต้ข้อกำหนดที่เป็นมาตรฐานสากลเพื่อให้เด็กๆ ได้รับความปลอดภัยสูงสุดจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ 

บทความที่เกี่ยวข้อง : รวม 10 กระเป๋าเก็บขวดนม กระเป๋าเก็บอุณหภูมิ ยี่ห้อไหนดี มาดูกัน

 

วิธีการเลือกขวดนมสำหรับเจ้าตัวเล็ก

แม้จะมีข้อกำหนดในการผลิตที่เป็นมาตรฐานสากล แต่แน่นอนว่าก็ยังมีการลักลอบผลิตขวดนมจุกนมที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมถึงลักลอบวางจำหน่ายตามท้องตลาดด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณแม่ต้องศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกขวดนมให้ได้มากที่สุดนั่นเองค่ะ และในบทความนี้เราก็มีมาฝากกันด้วย มาเริ่มกันเลยค่ะ 

 

1. วัสดุ

 

ในปัจจุบัน มีการใช้วัสดุหลากหลายประเภทมาผลิตขวดนม เช่น แก้ว พลาสติก และซิลิโคน ซึ่งแต่ละวัสดุก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แต่ที่สำคัญที่สุด คือ การพิจารณาคุณสมบัติของวัสดุนั้นว่าสามารถทนความร้อนได้ดีและปราศจากสารเคมีอันตรายต่างๆ หรือไม่ 

 

โดยเฉพาะอย่างยิ่งขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนและพลาสติก เราขอแนะนำให้คุณแม่เลือกขวดนมที่มีคำว่า BPA Free เนื่องจาก BPA เป็นสารรบกวนและขัดขวางพัฒนาการของเจ้าตัวเล็ก โดยเฉพาะระบบประสาทอาจส่งผลทำให้มีลูกน้อยมีพัฒนาการและการเรียนรู้ที่ช้า และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ในเด็ก

 

2. ขนาด

 

การเลือกขนาดของขวดนมนั้นขึ้นอยู่กับช่วงอายุของเด็ก ๆ และระยะเวลาในการดูดนมของเจ้าตัว โดยจะแบ่งออกเป็น 3 ขนาด ดังนี้ 

 

  • ไซซ์ SS-S (ความจุ 3 – 5 ออนซ์) เหมาะสำหรับเด็กอ่อน 3 เดือนแรก 
  • ไซซ์ M (ความจุ 5 – 7 ออนซ์) เหมาะสำหรับเด็กอายุ 3 – 6 เดือน
  • ไซซ์ L (ความจุ 7 – 11 ออนซ์) เหมาะสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป

 

3. จุกนม

 

หลักในการเลือกจุกนมนั้นคล้ายๆ กับการเลือกขนาดของขวดนมเลยค่ะ เพราะคุณแม่จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงอายุของลูกน้อยด้วยเช่นเดียวกัน แต่ที่มีเพิ่มเติมขึ้นมาอีกอย่างหนึ่งก็คือความเร็วในการดูดนมของเขาเพื่อให้คุณแม่สามารถเลือกใช้จุกนมที่เหมาะสมที่สุด โดยสามารถแบ่งได้ดังนี้

 

  • จุกนมรูกลม  เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด – 3 เดือน เนื่องจากแรงดูดของเด็กๆ ยังไม่พอ ดังนั้น การใช้จุกนมลักษณะนี้จะทำให้นมสามารถไหลได้เองแม้ว่าเขาไม่ได้ออกแรงดูด และจะไหลแรงขึ้นหากเจ้าตัวน้อยออกแรงนั่นเองค่ะ


  • จุกนมสามแฉก เป็นจุกนมที่ไหลตามแรงดูดของเด็กๆ เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 3-6 เดือนขึ้นไป เนื่องจากเด็กๆ สามารถควบคุมจังหวะและมีแรงดูดที่มากขึ้นแล้วนั่นเองค่ะ 


  • จุกนมกากบาท เป็นจุกนมที่นมไหลแรงมากที่สุด และช่วยลดการกลืนอากาศส่วนเกินให้กับเด็กๆ เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 3-6 เดือนขึ้นไปเช่นเดียวกับจุกนมแบบสามแฉก

 

4. รูปทรงของขวดนม

 

แม้ว่าจะมีขวดนมรูปทรงสวยงามให้คุณแม่เลือกซื้อมากมาย เช่น รูปทรงโค้งงอ ตัวการ์ตูน เป็นต้น แน่นอนว่าอาจจะถูกใจทั้งคุณแม่และลูกน้อย แต่จริงๆ แล้วเพื่อการทำความสะอาดที่ง่าย คุณแม่ควรเลือกขวดนมที่มีมุมน้อยและมีคอขวดกว้าง เพราะลักษณะขวดนมแบบนี้จะทำให้คุณแม่ทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้นโดยไม่ทิ้งสารเคมีและกลิ่นตกค้างและก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย

 

แนะนำขวดนมสำหรับลูกน้อยที่คุณแม่เลือกใช้

 

ต่อจากนี้เป็นขวดนมที่เราอยากนำมาแนะนำให้กับคุณแม่ได้ลองไปเลือกซื้อมาให้เจ้าตัวเล็กได้ลองใช้กัน มีขวดนมจากแบรนด์ไหนบ้าง ตามเรามาเลยค่ะ 

 

1. Mama’s Choice Anti Colic Baby Bottle

เริ่มต้นกันที่ Mama’s Choice Anti Colic Baby Bottle ขวดนมสำหรับเด็กที่ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อเจ้าตัวเล็กของคุณแม่จากแบรนด์ Mama’s Choice ผลิตจากวัสดุซิลิโคนที่คุณภาพดี ปลอดภัย มั่นใจได้เลยว่าลูกน้อยของคุณแม่จะปลอดภัยจากสารเคมีอันตรายต่างๆ แน่นอนค่ะ

 

ข้อดีของ Mama’s Choice Anti Colic Baby Bottle

 

  • มีตัวล็อกกันอากาศ ป้องกันลมเข้าท้องของทารก 
  • ป้องกันอาการโคลิค
  • ตัวขวดยืดหยุ่น บีบได้ ให้ลูกน้อยได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก
  • จุกนมออกแบบพิเศษให้คล้ายหัวนมแม่ รูเล็กเพื่อควบคุมการไหล 
  • คอขวดนมกว้างเป็นพิเศษ ช่วยให้คุณแม่เทนมและทำความสะอาดได้ง่าย

 

คุณภาพและประสิทธิภาพของ  Mama’s Choice Anti Colic Baby Bottle

 

  • ผลิตจากซิลิโคน food grade 
  • ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น BPA, PVC และพทาเลท 
  • ทนความร้อนได้ดี 
  • มี 2 ขนาดให้เลือก (150 มล. และ 250 มล.)

 

ราคา 399 – 499 บาท

2. Pigeon Soft Touch Peristaltic PLUS  

ต่อมาคือ Pigeon Soft Touch Peristaltic PLUS จากแบรนด์ Pigeon ที่คุณแม่น่าจะคุ้นตากันเลยทีเดียว โดยขวดนมรุ่นนี้ผลิตจากวัสดุโพลิเฟนิลซัลโฟน (PPSU) เกรดพรีเมียม เป็นพลาสติกอีกหนึ่งชนิดที่ปลอดภัยและไม่เป็นอันตรายกับเจ้าตัวเล็กค่ะ

 

ข้อดีของ  Pigeon Soft Touch Peristaltic PLUS

 

  • ปากขวดกว้าง ช่วยให้ชงนมและทำความสะอาดได้ง่าย
  • มาพร้อมจุกนมซอฟท์ทัช รุ่นพลัส
  • เส้นตรงปลายจุกนม ป้องกันการฟีบแบนขณะดูด ช่วยให้ดูดนมได้อย่างต่อเนื่อง
  • ระบบควบคุมการไหลเวียนของอากาศ Air Ventilation System

 

คุณภาพและประสิทธิภาพของ Pigeon Soft Touch Peristaltic PLUS

 

  • ปลอดสาร BPA และ BPS
  • เนื้อวัสดุใช้กันอย่างกว้างขวางในวงการแพทย์
  • ทนความร้อนได้ถึง 180 °C
  • มี 2 ขนาดให้เลือก (160 มล. และ 240 มล.)

 

ราคา 705 – 738 บาท

3. Philips Avent

สุดท้ายกับขวดนมพลาสติกจากแบรนด์ Philips Avent รุ่นเนเชอร์รัล มีการผลิตและออกแบบผลิตภัณฑ์โดยได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ และได้รับการพัฒนาผ่านการทดลองเชิงคลินิกและการค้นคว้าวิจัยที่ครอบคลุม 

 

ข้อดีของ Philips Avent

 

  • รูปทรงตามหลักสรีรศาสตร์
  • คอขวดกว้าง ง่ายต่อการทำความสะอาด
  • ระบบป้องกันอาการโคลิค
  • จุกนมนุ่มและยืดหยุ่นเป็นพิเศษ

 

คุณภาพและประสิทธิภาพของ Philips Avent

 

  • ผลิตจากวัสดุโพลิโพรพิลีน (PP)
  • ปราศจากสาร BPA
  • เหมาะสำหรับเด็กอายุ 0-12 เดือน

ราคา 687 บาท

แถมเคล็ดลับส่งท้ายการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขวดนม

แน่นอนว่านอกจากจะมีขวดนมที่ดีและเหมาะสำหรับลูกน้อยแล้ว คุณแม่จะต้องมีน้ำยาทำความสะอาดที่ปลอดภัยด้วยเช่นกัน เพื่อให้แน่ใจว่าขวดนมของลูกน้อยจะสะอาด ปราศจากสารเคมีและกลิ่นตกค้าง แล้วจะเลือกอย่างไรดี? มาดูกันต่อด้านล่างเลยค่ะ

  • เลือกผลิตภัณฑ์สำหรับการทำความสะอาดขวดนมเด็กโดยเฉพาะ 
  • เลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดขวดนมที่มีส่วนผสมจากสารสกัดจากธรรมชาติ
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดได้ผ่านการทดสอบว่าปลอดภัยและไม่มีสารเคมีอันตราย
  • หากต้องการใช้เครื่องล้างจานหรือเครื่องนึ่งขวดนม ควรเลือกยี่ห้อที่ได้มาตรฐานและไม่ทำความร้อนสูงมากเกินไป เนื่องจากอาจทำให้ขวดนมเสียรูปทรงหรือละลายได้นั่นเองค่ะ

 

อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับขวดนมเท่านั้น สำหรับคุณแม่ที่ไม่ได้มีโอกาสไปเลือกซื้อขวดนมด้วยตัวเอง อย่าลืมศึกษาข้อมูลและดูรีวิวให้แน่ใจก่อนสั่งซื้อสินค้ากันด้วยนะคะ 

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลเกี่ยวกับขวดนมที่เรานำฝากกัน และเราก็หวังว่าข้อมูลทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์กับคุณแม่ทุกคน 🙂 

บทความโดย

phaynao