ทั้งความเชื่อ ทั้งโชคลาง คาถาสารพัด อะไรที่เขาว่าดีเราก็ทำหมด งั้นเราลองมาพก เครื่องรางเสริมดวง พกติดตัวแล้วชีวิตปัง กันดีกว่า จะมีเครื่องรางแบบไหนบ้าง ที่จะช่วยเสริมดวงให้เราในด้านต่าง ๆ พกไว้เอาเคล็ด ติดตัวไว้ให้อุ่นใจ เครื่องรางแบบไหน จะช่วงเสริมดวงด้านไหนบ้าง เรามาเปิดกรุ ค้นหาเครื่องรางที่เหมาะกับเรากันเถอะ
เครื่องรางเสริมดวง พกติดตัวแล้วชีวิตปัง
หากสังเกตุจะพบว่า เกือบทุกประเทศในโลกใบนี้ มักจะมีความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องโชคลางของคลัง โดยเฉพาะประเทศที่อยู่ทางแทบเอเชีย เรามักจะเห็นผู้คนมากมายต่างพกพาสิ่งของต่าง ๆ ที่เชื่อว่า ของสิ่งนั้น จะช่วงเสริมพลังทั้งด้านความรัก การเงิน การงาน ครอบครัว สุขภาพ และความปลอดภัย แล้วเครื่องรางแบบไหนบ้างล่ะที่จะเหมาะกับเราในช่วงนั้น ๆ แล้วเราจะสามารถใช้งานเครื่องรางพวงนี้ได้อย่างไร จึงจะเกิดพลังงานหนุนนำได้ดีที่สุด
เครื่องรางเสริมดวงด้านความรัก
1. หินโรสต์คอว์ซ
หลายประเทศต่างก็เชื่อในเรื่องของพลังงานที่เกิดจากธรรมชาติ โดยเฉพาะหินที่มีสีเฉพาะอันเกิดจากธาตุต่าง ๆ ที่ทำปฏิกิริยากัน จนเกิดเป็นสีสันที่แตกต่างกันออกไป และหนึ่งในนั้นคือหินโรสคอว์ซที่เป็นหินสีชมพูอ่อน โดยเชื่อกันว่าหินชนิดนี้ จะช่วยส่งเสริมด้านความรัก และเสน่ห์ อาจจะเพราะสีของตัวมันเอง ที่มีความหวาน และเสน่ห์ อีกทั้งยังเชื่ออีกว่า หิน คือพลังงานที่สมดุลกับกระดูก และเลือดภายในตัวของมนุษย์ ทำให้การสื่อถึงพลังซึ่งกันและกัน จะมีผลไปทางบวกเป็นอย่างมาก
โดยมากหลายคนมักจะนำหินโรสคอว์ซมาร้อยเป็นกำไลข้อมือ สวมใส่ติดตัวเพื่อเสริมให้ดวงความรักเข้ามาหา บางคนไม่สะดวกที่จะสวมใส่ ก็จะเลือกเป็นที่ห้อยกระเป๋า ในลักษณะของพวงกุญแจ หรือตั้งเป็นตุ๊กตาหินเอาไว้เป็นเครื่องประดับภายในบ้าน ซึ่งหินเหล่านี้ จะนำพลังงานดี ๆ เข้ามาหาคุณได้อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ในขณะเดียวกัน ธรรมชาติ ก็มักจะต้องการการเยียวยา จากธรรมชาติด้วยกันเอง จึงทำให้เกิดการฟื้นพลังงานให้กับหินด้วยการนำหินนั้น ล้างผ่านน้ำ ซึ่งหากคุณไม่มีเวลา ก็สามารถนำหินนั้นมาล้างผ่านน้ำก๊อกที่บ้านได้ แต่ถ้ามีจังหวะที่ดีที่จะได้ไปเที่ยวตามภูเขา ลำธาร น้ำตก ก็ให้พกเจ้าโรสคอว์ซนี้ไปฟื้นพลังตามแหล่งน้ำธรรมชาติ
หรือเสริมพลังด้วยการอาบแสงจันทร์เต็มดวง แล้วคุณจะเห็นว่า หินที่คุณพกอยู่นั้น จะมีความสดใส แวววาวมากยิ่งขึ้น นั่นคือสัญญาณที่บ่งบอกว่า พลังงานในการช่วงส่งเสริมความรักของหิน ฟื้นตัวเต็มที่ และพร้อมจะช่วงหนุนดวงเกี่ยวกับความรักให้กับคุณอย่างเต็มความสามารถนั่นเอง
2. เครื่องรางแห่งความรัก จากประเทศญี่ปุ่น
ใครที่ได้ไปเยี่ยมเยือนประเทศญี่ปุ่น ก็มักจะได้ยินเรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับเครื่องรางที่มาในลักษณะห่อเครื่องรางพกพาติดตัวที่มักจะถูกห่อหุ้มด้วยผ้าไหมถักทออย่างดี และมีการบรรจุสิ่งอันเป็นมงคลไว้ภายใน และมักจะเป็นที่นิยมสำหรับหนุ่ม ๆ สาว ๆ ที่มักจะไปที่วัดต่าง ๆ เพื่อซื้อเครื่องรางต่าง ๆ เหล่านี้มา เพื่อหวังให้ตนเองนั้นสมหวังในความรัก
แต่คุณรู้หรือไม่ว่า เครื่องรางเหล่านี้ ก็มีอายุการใช้งานของมันเช่นกัน โดยคุณจะต้องอธิษฐานกับเครื่องรางถึงสิ่งที่คุณได้หวังให้เกิดขึ้นเพียงเรื่องเดียว แล้วพยายามพกติดตัวเองไว้อยู่เสมอ แล้วหากคำปรารถนาของคุณนั้นเป็นไปดังหวังแล้ว หรือสมปรารถนาแล้ว ให้คุณนำเครื่องรางนั้น กลับไปที่วัดที่คุณได้ซื้อมา แล้วนำไปมอบคืนให้ที่วัดนั้น
โดยทุกวันสิ้นปี ทางวัดแต่ละวัด จะมีการสวดมนต์ และทำการเผาเครื่องรางที่ถูกใช้แล้ว เพื่อปลดปล่อยสิ่งที่ไม่ดี หรือปลดปล่อยพลังงานที่ทำให้เกิดปัญหา หรือไม่สุขสมหวัง ที่ถูกห่อเครื่องรางนั้น ๆ ดูดเก็บเอาไว้ (เป็นความเชื่อส่วนบุคคล) จากผู้ที่พกพาก่อนหน้านี้ ถ้าเทียบกับวัฒนธรรมความเชื่อของไทย ก็จะเหมือนการปลดปล่อยวิญญาณให้ไปสู่สุขคตินั่นเอง
และหลังจากที่ทำการคืนเครื่องรางนั้น ๆ แล้ว ก็จะสามารถซื้อเครื่องรางอื่น ๆ เช่นเครื่องรางเพื่อความปลอดภัย เพื่อการงาน การเงิน หรือจะกลับมาพกเครื่องรางความรักต่ออีกครั้งหนึ่งก็ได้ แต่ก็ต้องจำเอาไว้ว่า เมื่อคุณสมปรารถนาแล้ว ควรเก็บ และนำเครื่องรางนั้นมาคืนให้กับทางวัด เพื่อทำพิธีตามความเชื่อนั่นเอง
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ดวงการงานปัง 4 ราศี มีเกณฑ์โด่งดังเป็นพลุแตก
3. ด้ายแดงคล้องใจ
เรามักจะรับรู้เรื่องราวความเชื่อเกี่ยวกับด้ายแดงจากทางฝั่งประเทศจีน เนื่องจากหากเราเริ่มกล่าวถึงเรื่องขอความรัก ขอลูก ขอคู่ชีวิต เรามักจะนึกถึงวัดต่าง ๆ ที่เราสามารถขอพรได้จากทางฝั่งฮ่องกง ไต้หวัน และนอกจากไปกราบไหว้ขอพรที่วัดนั้น ๆ แล้ว เราก็มักจะซื้อ หรือบูชาด้ายแดงกลับมาสวมใส่ เพื่อหวังว่า ความรักของเราจะสมหวัง สมปรารถนา เหมือนเช่นที่หลาย ๆ คนได้ทำการรีวิว จนเป็นที่อิจฉาตาร้อนกันไปหลาย ๆ คู่
ณ ปัจจุบัน ด้ายแดงถูกพัฒนาดัดแปลงให้มีรูปแบบของความเป็นแฟชั่นเข้ามามากยิ่งขึ้น ทั้งเพิ่มสายโซ่ เพื่อให้หมายถึงโซ่คล้องใจแล้ว บางที่ก็จะเสริมด้วยเพชร ที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่ง มั่นคงในความรักอีกด้วย หรืออาจจะผสมด้วยเครื่องประดับอื่น ๆ ที่ให้ความหมายดี ๆ โดยด้ายแดงนี้ เชื่อว่าจะสามารถใส่ได้อยู่ตลอดเวลา จนกว่ามันจะเปื่อยขาดไปตามกาลเวลา รวมถึงการดูแลของผู้สวมใส่นั่นเอง
4. สาลิกา ลิ้นทอง
เครื่องลางมหาเสน่ห์จากเมืองไทย ที่หลาย ๆ คนมักนิยมพก หรือทำเป็นจี้ห้อยคอ มีคุณสมบัติทางด้านมหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม พูดจาไพเราะ มีแต่คนอยากฟัง ติดต่อเจรจา ก็น่าเชื่อถือไหลหลง อำนาจพุทธคุณขนาดนี้ เป็นใครใครก็ต้องอยากพกไว้ติดตัว
ซึ่งเคล็ดลับการบูชา หรือการพกพาสาลิกาลิ้นทองนั้น คุณจำเป็นจะต้องเป็นคนที่พูดจาหวานหู คือไม่กระโชกโฮกฮาก หรือพูดจาหยาบคาย เพราะเชื่อกันว่า ฤทธิ์อำนาจของสาลิกาลิ้นทอง จะมีผลกับผู้ที่พูดจาไพเราะอ่อนหวาน และจะมีวิธีบูชาโดยการสวดมนต์ เพื่อทำการเปิดดวง และจงจำไว้ว่า การบูชาสาริกาลิ้นทองนี้มีข้อห้ามที่ชัดเจน และไม่ควรละเลยด้วยเช่นกัน
ข้อห้ามสำหรับผู้ถือบูชา สาริกาลิ้นทองคือ
- ห้ามกล่าวว่าบุพการี ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ
- ห้ามคนเล่นศีรษะ ห้ามลอดใต้ราวผ้า
- ห้ามทานอาหารเหลือจากผู้อื่น แต่ทานรวมกันกับผู้อื่นได้ ห้ามดื่มร่วมแก้ว
- ห้ามทานเครื่องเซ่น ของไหว้ ของแจกทาน ของงานศพ
- ห้ามแช่งด่าบุคคลอื่น หรือใส่ร้ายใส่ความผู้อื่น
- ห้ามบ้วนน้ำลายลงในโถส้วม
เสริมดวงด้านการเงิน การงาน ค้าขาย
1. เครื่องรางไลลา
ในความเป็นจริง มียุคหนึ่งที่เครื่องลางกึ่งแฟชั่นนี้ ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยมีการประยุกต์เครื่องรางพุทธคุณ ที่มีความขลัง มาผสมผสานกับเครื่องประดับแฟชั่น จนมีการผลิตออกมาในหลากหลายรูปแบบ และหนึ่งแบรนด์สำคัญและได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง จนเป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างมากมายคือ เครื่องประดับแบรนด์ไลลา
ในความเป็นจริงนั้น เครื่องประดับแบรนด์นี้ มีการผลิตมาเพื่อให้ตรงเป้าหมายกับความต้องการของผู้ซื้อ ว่าต้องการเน้นพุทธคุณทางด้านไหน แต่ชื่อเสียงที่ลือกระฉ่อนของเครื่องประดับ หรือเครื่องรางแบรนด์นี้ก็คือ เรื่องการค้าขาย การลงทุน การงาน การเงิน ที่มีการรีวิวอย่างหนาหูหนาตา จนสินค้าขาดตลาดกันไปแรมเดือน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : ทายนิสัยเวลาเกิด เวลาเกิดบอกนิสัยลูก นิสัยลึก ๆ ที่ติดตัวลูกตั้งแต่เด็กจนโต
2. แมลงภูคำหลวง
เป็นอีกหนึ่งเครื่องรางที่นิยมมากทางฝั่งพม่า โดยหลายคนมักจะมองว่าเครื่องรางนี้น่าจะเหมาะกับเสน่ห์เมตตามหานิยม แต่แท้ที่จริงนั้น แมลงภูคำหลวง มีพุทธคุณทางด้านค้าขายเป็นหลัก หรืออาจจะพูดได้ว่า เป็นเครื่องรางที่ครอบคลุมโดยกว้าง เพราะเชื่อกันว่าในสมัยโบราณ ข้าราชกาล เจ้าขุน บุญนาย ต่างก็มีเครื่องรางนี้พกติดตัว เพื่อการแคล้วคลาด
โดยพุทธคุณที่ได้รับการเล่าลือว่า ทำให้เกิดเมตตามหานิยม มีเสน่หา คนรัก คนหลง มีกิน มีโชค เงินทองไม่ขาดมือ และยังสามารถป้องกันอันตรายรอบด้าน รวมถึงคุณไสยมนต์ดำ ได้อีกด้วย เพราะความที่มีเสน่ห์ นี่แหละ ทำให้เทวดา ภูตผี ก็ไม่อยากจะมาทำร้าย แต่อยากคุ้มครองป้องกันให้เกิดแต่สิ่งดีด้วยซ้ำ
และทุกครั้งที่พกพา ควรที่จะสวดท่องคาถาว่า “นะ โม พุท ธา ยะ มะ อะ อุ อิ ส วา สุ นะ มะ พะ ทะ จะ ภะ กะ สะ นะ มะ นะ นะ อุ อุ นะ (แล้วจึงค่อยอธิษฐานสิ่งที่ตนปรารถนา)
3. ยันต์พระลักษณ์หน้าทอง
หลายคนกล่าวกันว่า ยันต์พระลักษณ์หน้าทองนี้ เป็นยันต์มหาเสน่ห์เมตตาพาร่ำรวย หากเราได้พกพา บูชาเอาไว้ จะทำให้ใครเห็นก็รัก ใครรู้จักก็เมตตา ทำมาค้าขึ้น ค้าขายร่ำรวย นำพาซึ่งลาภผลสมบัติมากมี เจรจาสิ่งใดมีแต่คนเมตตา อยากเกื้อกูลอุดหนุน
วิธีอธิฐาน โดยมากจะพกติดตัวเสมือนกับผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่ง เวลาจะออกจากบ้านหรือทำการใด เช่นติดต่องาน หรือพูดเจรจาติดต่อซื้อขาย ก็จะให้ยกผ้ายันต์ขึ้นมา แล้วแตะไปที่กลางหน้าผาก บริเวณกึ่งกลางคิ้วทั้งสอง แล้วคิดภาพของการปรารถนาความสำเร็จที่ชัดเจน เพราะเชื่อว่า บริเวณที่ให้แตะไปนั้นคือตำแหน่งของตาที่สาม
แต่หากคุณมีบูชาเป็นผ้ายันต์ผืนใหญ่ ก็อาจจะวางใส่พาน เอาไว้บูชาที่บ้านแทนก็ได้เช่นกันค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับพุทธคุณเครื่องรางที่เราเอามาแนะนำกันในวันนี้ เพราะกับเคล็ดลับการบูชาที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้การบูชาของเรานั้นจะมีเพียงแค่การพกพาตามความเชื่อเฉย ๆ แต่ถ้าเราคิดจะมูแล้ว เราต้องไปให้สุด หยุดที่ความสำเร็จนั่นเองค่ะ แต่เหนือสิ่งอื่นใด เครื่องรางร้อยแปดพันเก้า จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าหากตัวคุณเองนั้น ไม่เริ่มลงมือทำให้ทุก ๆ อย่างเป็นรูปเป็นร่างนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สีผ้าปูที่นอนเสริมดวง 2564 สีผ้าปูที่นอนตามวันเกิด เปลี่ยนแล้วเฮง
สีเล็บตามวันเกิด 2564 สีเล็บเสริมดวงปัง ๆ สีไหนทาแล้วดี
ทำนายดวงประจำสัปดาห์ 17-23 พ.ค. 2564