เด็กในช่วงตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ปี เป็นช่วงเวลาทอง โดยเฉพาะสมองของลูกในช่วง 1,000 วันแรก สมองจะเป็นเสมือนฟองน้ำที่สามารถซึมซับได้อย่าง ช่วงเวลาทองเป็นช่วงที่ต้องให้ความสำคัญกับลูกในเรื่องของโภชนาการที่ครบถ้วน และการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เพื่อให้ลูกมีภูมิคุ้มกันที่ดีซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถเลี้ยงดูลูกน้อยในช่วงเวลาทองนี้ได้อย่างดี เรามีคำแนะนำจาก Ask the Expert คุณแม่ถาม คุณหมอตอบ โดยอาจารย์แพทย์หญิงลลิต ลีลาทิพย์กุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารเวชศาสตร์ และเวชศาสตร์วัยรุ่น
Ask the Expert : ลูกน้อยป่วยบ่อย ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยแข็งแรง ส่งผลต่อพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ของลูกอย่างไร?
จริงๆ แล้วถ้าพูดถึงระบบภูมิคุ้มกัน เปรียบเหมือนทหารในร่างกาย ทำหน้าปกป้องไม่ให้เชื้อโรคเข้ามาในร่างกาย เพราะฉะนั้นเวลาที่ลูกเราป่วยบ่อยๆ ทหารเหล่านี้ทำงานหนักก็จะดึงสารอาหารจากส่วนต่างๆ ของร่างกายไปใช้ พอสารอาหารถูกใช้ไปกับเรื่องระบบภูมิคุ้มกัน ก็อาจจะส่งผลต่อเรื่องสมองได้ สมองก็อาจจะเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เพราะว่าได้สารอาหารไม่ครบถ้วน
Ask the Expert : ภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรงจะส่งผลเสียต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กๆ อย่างไรบ้าง ?
- ด้านการเรียนรู้ เด็กก็อาจจะมีความสามารถในการเรียนรู้ที่ช้า มีพัฒนาการด้านภาษาที่ช้า
- ด้านความจำ หลายคนอาจมีเรื่องของสมาธิสั้น ไม่สามารถจดจอกับสิ่งใดได้นาน
- ด้านอารมณ์ ก็จะหงุดหงิดง่าย ทำอะไรก็ไม่ค่อยมีความสุข
- ด้านพฤติกรรม เด็กอาจมีเรื่องซน อยู่ไม่นิ่ง สมาธิสั้น
Ask the Expert : เด็กที่ติดจอจะส่งผลต่อพัฒนาการสมองและภูมิคุ้มกันหรือไม่ ?
อย่างน้องๆ หลายคนที่ดูหน้าจอมากจะมีพัฒนาการด้านภาษาที่ล่าช้า คือเป็น One-way communication ดูแต่จอไม่ได้โต้ตอบ ก็ล่าช้าได้ค่ะ ทีนี้ถ้าด้านภูมิคุ้มกัน มีงานวิจัยอธิบายว่าเด็กที่ดูหน้าจอมากเป็นเวลานาน มีโอกาสเป็นหวัด ไม่สบายบ่อยขึ้น ภูมิแพ้กำเริบได้บ่อยกว่าเด็กที่ติดหน้าจอน้อย การอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานๆ ทำให้เด็กมีกิจกรรมทางกายลดลง เช่น การออกกำลังกาย หรือการได้รับสารอาหารที่ไม่ครบถ้วน ฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกใช้หน้าจอให้ลูกอย่างเหมาะสม เริ่มตั้งแต่การกำหนดระยะเวลา แนะนำว่าตั้งแต่แรกเกิด – 18 เดือน ไม่ควรให้ใช้หน้าจอ ยกเว้นที่เป็นวีดิโอคอล หลังจากนั้น 18 เดือน ถึง 15 ปีไปแล้ว แนะนำใช้ได้ประมาน 1 ชั่วโมงแต่ต้องมีคนดูร่วมกับลูกเสมอเป็นผู้ใหญ่ที่คอยตอบโต้และเลือกเนื้อหาที่มีคุณภาพสูงให้ลูก นอกจากนี้ถ้าไม่ให้ดูหน้าจอก็ต้องหากิจกรรมทดแทนอื่นๆ ให้ลูก และสุดท้ายอย่าลืมสร้างช่วงเวลาทองให้กับลูก ช่วงเวลาทองก็คือการให้สารอาหารที่ครบถ้วน รวมไปถึงการนอนหลับพักผ่อนที่เพียงพอ เด็กเล็กแนะนำ 9-12 ชั่วโมง
ช่วงเวลทอง คือช่วงวัยไหนของเด็ก ?
วัยแรกเกิดถึง 6 ปี เพราะเขาบอกว่าสมองของลูกโดยเฉพาะตั้งแต่ 1,000 วันแรก จะมีการพัฒนาที่เยอะมาก จะเป็นการพัฒนาเรื่องของปริมาณสมอง เพราะฉะนั้นช่วงนี้สมองของลูกจะเป็นเหมือนฟองน้ำซึมซับทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประสาทสัมผัสทั้ง 5 การดม การได้เห็น การได้ยิน การได้สัมผัส ฉะนั้นจะเป็นโอกาสที่ดีมากๆ ที่คุณพ่อคุณแม่จะลงมือเล่นกับลูก ทำอะไรหลายๆ อย่างร่วมกับลูก เพื่อเพิ่มพัฒนาการให้ลูก
สารอาหารบางชนิดช่วยในเรื่องบำรุงสมอง และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันด้วยจริงไหม ?
จริงค่ะะ ปัจจุบันก็มีสารอาหารหลายชนิดที่มีผลต่อพัฒนาการทางสมองของลูก และเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกด้วย โดยเฉพาะวัย 2 ถึง 5 ปี
สารอาหารอะไรบ้างที่คุณหมอแนะนำ
- ซิงค์หรือสังกะสี จริงๆ เป็นเหมือนแร่ธาตุตัวนึงในร่างกายเรา สำคัญคือจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่สึกหรอ หลักๆ คือช่วย ผม ผิว และภูมิคุ้มกัน ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกได้ พบมากในอาหาร เช่น อาหารทะเล หอยนางรม ไข่ ถั่ว และธัญพืช
- โคลีน โคลีนเป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาทในสมอง เป็นตัวที่ทำให้สมองตื่นตัว ให้มีอารมณ์ที่ดี แล้วก็เป็นเซลล์สื่อประสาททำให้สมองส่งสัญญาณได้ดี ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองที่ฉับไว ก็คือคิดปุ๊บวิเคราะห์ได้เลย ช่วยความจำที่ดีขึ้นด้วย โคลีนจะพบมาในไข่แดง นม โยเกิร์ต รวมไปถึงเนื้อสัตว์ เนื้อวัว เนื้อปลา เป็นต้น
- เอลเดอร์เบอร์รี่ ตัวนี้เป็นผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ปัจจุบันทั้งฝั่งอเมริกา ฝั่งยุโรป เขามีการใช้ตัวนี้มาเยอะมากแล้ว ผลไม้ตัวนี้จะดีในแง่เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย พอกินเข้าไประบบภูมิคุ้มกันในร่างกายจะทำงานได้ดี เพราะฉะนั้นจะสามารถกำจัดเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น มีบางงานวิจัยบอกว่าสารตัวนี้ยับยั้งการเจริญเติบโตของพวกเชื้อไวรัสได้ อย่างเช่นไข้หวัดใหญ่ เพราฉะนั้นถ้าเราได้สารพวกนี้เข้าไป จะช่วยเสริมให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เมื่อภูมิคุ้มกันแข็งแรงแล้ว พัฒนาการสมองก็ยิ่งฉับไว การคิด การจำ การเรียนรู้ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เด็กในช่วงวัยทอง 2-5 ปี เป็นช่วงเวลาสำคัญของพัฒนาการต่างๆ ดังนั้นจึงแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกน้อยให้ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ดี เพื่อส่งผลไปยังพัฒนาการสมองการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพของลูกค่ะ