แม้ความคิดแรกของคุณแม่โอ๋ (คุณแม่อรนุช จินารัตน์) จะต้องการให้ลูก ๆ ได้เข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียงและเรียนเก่งที่สุด แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกโรงเรียนสำหรับน้องไทนี่ (ด.ญ.สุภัคชญา จินารัตน์) และน้องนีนี่ (ด.ญ.อรอาณิชญ์ จินารัตน์) ความสุขของลูก ๆ กลับกลายเป็นโจทย์ที่สำคัญที่สุด และโรงเรียนที่ใช่คือ โรงเรียนอมาตยกุล รร.อมาตยกุล ที่มอบให้ทั้งความรู้ ความสนุกสนาน และได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ อมาตยกุล
คุณแม่โอ๋มีหลักการในเลือกโรงเรียนให้ลูก ๆ อย่างไร ทำไมถึงเลือก โรงเรียน อมาตยกุล
ในความคิดแรก เราอยากให้ลูกได้เรียนโรงเรียนดังและเรียนเก่ง แต่พอมามีลูกจริง ๆ คิดว่าความเก่งไม่สู้การเรียนแบบมีความสุข อยากให้เขาเป็นเด็กที่โตขึ้นไปแล้วมีความสุข แต่ถ้าเก่งแล้วมีความสุขด้วยก็จะดีมาก เลยเลือกโรงเรียนที่เน้นความพร้อมของเด็กและการเรียนอย่างมีความสุข ก็มีตัวเลือกอยู่ 2-3 โรงเรียน แต่โรงเรียนอมาตยกุลอยู่ใกล้ที่ทำงานของแม่ เลยเลือกที่นี่ แต่ก็ไม่เข้าได้ง่าย ๆ เพราะโรงเรียนใช้วิธีจับฉลาก รับนักเรียนแบบจับฉลาก 2 ห้อง ห้องละ 40 คนและอีกหนึ่งห้องให้สำหรับผู้ปกครองที่เขียนยื่นความจำนงค์เข้ามาว่าทำไมถึงต้องการให้ลูกเรียนที่นี่ แต่ของเราคือจับฉลากได้ ตอนนี้คนโตอยู่ ป.4 ส่วนน้องคนเล็กก็ได้เข้ามาตามมาด้วย อยู่อนุบาล 3 ด้วยวิสัยทัศน์ของเจ้าของโรงเรียน เขามองว่าถ้าพ่อแม่ต้องขับรถไปทำงานและตระเวนรับส่งลูกที่อยู่ต่างโรงเรียนกัน อาจจะสร้างปัญหาให้กับสังคมส่วนรวม ทำให้รถเยอะและการจราจรติดขัดมากขึ้น จึงมีนโยบายว่าพี่ได้เรียน น้องได้เรียน เป็นโควตาของศิษย์ปัจจุบันที่ให้ครอบครัวเดียวกันมาเรียนในที่เดียวกัน
การเรียนการสอนของ รร. อมาตยกุล เป็นอย่างไร
โรงเรียนจะไม่ได้เน้นวิชาการ แต่เน้นให้เด็กทำกิจกรรและได้อยู่กับธรรมชาติ มีความสุขกับการมาโรงเรียน ลูกไม่เคยพูดว่าไม่อยากไปโรงเรียน เสาร์-อาทิตย์มักจะพูดว่าเมื่อไรจะถึงวันจันทร์ มันเป็นภาพของความสุขที่เขาได้ไปโรงเรียน ไม่รู้สึกว่ากดดันในการไปโรงเรียน เหมือนเป็นบ้านอีกหลังของเขา นั่นคือแม่ประสบความสำเร็จแล้ว เราคิดว่าสำหรับเรื่องวิชาการสามารถเสริมได้ จริง ๆ ไม่ชอบให้ลูกเรียนพิเศษ แต่ในความเป็นจริงก็แทบจะไม่ต้องเสริมอะไรเลย เพราะเมื่อเด็กพร้อม สมองเปิด มีความสุข เขาเรียนรู้อะไรก็ได้จากรอบตัว ลูกคนโตเป็นเด็กที่ไม่ได้เน้นวิชาการ แต่เรียนได้คะแนนดี 97 99 เต็ม 100 ก็มี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าความสุขสามารถดึงศักยภาพของเด็กออกมาได้
เราไม่ต้องเค้นว่าเธอต้องไปนั่งเรียน บางทีการที่เราให้ลูกไปนั่งเรียนพิเศษ 2 ชั่วโมง อาจจะไม่ได้อะไรเลยก็ได้ แต่เมื่อปล่อยให้เขาเล่นอย่างอิสระ ปีนป่ายต้นไม้ เขาอาจได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์จากสิ่งที่เขาเล่นไม่กี่นาที ซึ่งอมาตยกุลเขาตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้ เด็ก ๆ จะมีจินตนาการ เน้นศิลปะ กล้ามเนื้อ ร่างกายมีคล่องแคล่ว ว่องไว ฉลาด เป็นเด็กที่กล้าแสดงออกแต่มีมารยาท ไม่ใช่แค่ลูกเราอย่างเดียว แต่หมายถึงนักเรียนทุกคน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี่กรุงเทพ ซิตี้แคมปัส รีวิวโดยคุณแม่เกียว-น้องตั่งตั๊ง
รร.อมาตยกุล มีกิจกรรมอะไรให้นักเรียนทำบ้าง
เด็กโรงเรียนนี้จะสูงเร็วเพราะเด็กได้เล่นกีฬา เช่น เรียนเทนนิสตั้งแต่อยู่ชั้นอนุบาล เพราะเจ้าของโรงเรียนเคยเป็นนักกีฬาเทนนิสเยาวขน จึงมีสนามให้เด็ก ๆ ได้เรียนเทนนิส การเล่นกีฬาสำหรับเด็กคือการปลดปล่อยพลัง ได้เล่นกีฬาก็ยิ่งทำให้ตัวสูง นอกจากกีฬาก็ยังมีกิจกรรมที่ส่งเสริมเชาว์ปัญญา ทัศนคติ มีเกมให้เล่นในวันศุกร์ เด็กทั้งชั้นจะมีกิจกรรมที่จะได้ฝึกคิดโดยมีพื้นฐานจากสาระสำคัญที่คุณครูจะมอบให้ เช่น เกมสภาษา เกมรักษาของ ซึ่งช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์ ได้เรื่องทีมเวิร์ก ฝั่งพ่อแม่ก็มีส่วนในการช่วยแนะนำและสนับสนุน และโรงเรียนมีการมอบรางวัลให้ด้วย
สภาพแวดล้อมของโรงเรียนเป็นอย่างไร
โรงเรียนนี้เน้นต้นไม้ใหญ่ มีที่ให้เด็กปีนป่าย จะไม่มีการสั่งห้ามปีนต้นไม้ โดยทางโรงเรียนจะนำฟูกที่เหมือนอยู่ในห้องยิมนาสติกมาลองด้านล่างให้ ป้องกันเวลานักเรียนตกจากต้นไม้ ก็มีอุบัติเหตุกันบ้าง แต่น้อยมาก เพราะเด็ก ๆ ระวังตัวกันเองด้วย และมีคุณครูคอยยืนดูแลอยู่ด้วย พื้นที่โรงเรียนอาจจะไม่ใหญ่มาก แต่เด็กอยู่ได้อย่างมีความสุข
ความประทับใจที่มีให้กับโรงเรียน อมาตยกุล
เรื่องการเรียนที่มีความสุข ลูกไม่เคยพูดว่าไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอันดับหนึ่งของคนเป็นพ่อแม่ แล้วกฎที่ว่าพอคนเราทำอะไรที่มีความสุขแล้ว มันสามารถดึงศักยภาพของคนหรือเด็กออกมาได้ อย่างที่บอกไปว่าลูกเรียนดี ลายมือสวย เพราะกล้ามเนื้อมั่นคงแข็งแรง เขาได้รับการเตรียมตัวมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ความจำดี ซึ่งไม่ใช่ลูกเราเท่านั้น เพราะมีโอกาสได้คุยกับผู้ปกครองคนอื่น ๆ ด้วย และทั้งหมดไม่ได้เป็นแค่การเรียน แต่เป็นการปูพื้นฐานในการใช้ชีวิตเมื่อเขาโตขึ้น
อีกเรื่องหนึ่งคืออาหาร โรงเรียนจะเน้นให้เด็กทานสัตว์เล็ก ปลา เต้าหู้ วันศุกร์จะเน้นผักเป็นพิเศษ และมีไร่อมาตยกุลที่ปลูกผักปลอดสารพิษมาให้เด็ก ๆ ทาน และยังมีมาให้ผู้ปกครองนำไปปลูกที่บ้านต่อด้วย
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ : อัพเดต 20 ค่าเทอมอนุบาล โรงเรียนอนุบาลชื่อดัง
ข้อแนะนำเพื่อให้โรงเรียนนำไปปรับปรุง
ก่อนหน้านี้เคยคิดว่าต้องปรับปรุง แต่เมื่อเวลาผ่านไป กลับอยากให้โรงเรียนคงไว้ คือแรก ๆ ที่พาเข้าลูกเข้าไปเรียน เขายังมีความเป็นโรงเรียนแบบ 20-30 ปีที่แล้ว ใช้ส้วมหลุม ซึ่งลูกเราชินกับการนั่งชักโครกมาตลอด แต่ผลที่เกิดขึ้นคือเด็กสามารถไปเข้าปั๊มที่ไหนก็ได้แล้ว เห็นผลแบบนี้รู้สึกว่าคงไว้แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เป็นการฝึกให้เขาได้ลำบากบ้าง สบายมากก็อาจจะทำให้เขาไม่สู้กับอะไรเลย ห้องเรียนก็มีแต่ห้องพัดลมสำหรับเด็กอนุบาลและประถม มัธยมจะมีห้องแอร์บ้างเพราะเป็นตึกใหม่ ลูกเราเลยกลายเป็นเด็กผู้หญิงที่ลุยและไม่ห่วงสวย
ข้อมูลเพิ่มเติมของ โรงเรียน อมาตยกุล
ที่ตั้ง : เลขที่ 100/20 พหลโยธิน 51 บางเขน กรุงเทพฯ
หลักสูตรที่เปิดสอน : หลักสูตรมาตรฐาน
ค่าเทอม : 14,000 บาท/เทอม *ค่าเทอมเท่ากันตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมัธยมศึกษา
เว็บไซต์ : www.amatyakulschool.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
โรงเรียนเลิศหล้า เกษตรนวมินทร์ กับหลักสูตร EP ที่ตรงใจแม่ออม-น้องเอม (School Hit)
โรงเรียนการัญศึกษา วิชาการเข้มข้น กิจกรรมจัดเต็ม (School Hit)
โรงเรียนศิริวัฒน์วิทยา สายไหม จากรุ่นแม่สู่รุ่นลูกของคุณแม่ตั๊กและน้องแต๋ม (School Hit)