โรคภูมิแพ้ อาการภูมิแพ้เป็นอย่างไร โรคภูมิแพ้สามารถรักษาได้อย่างไร?

โรคภูมิแพ้ คืออะไร หลาย ๆ คนก็อยากที่จะรู้กันใช่ไหม ว่าโรคภูมิแพ้มีอาการเป็นอย่างไร โรคภูมิแพ้เป็นแบบไหน มีกี่ชนิด หรือเมื่อเป็นโรคภูมิแล้วควรไปพบแพทย์ตอนไหน มาดูกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

โรคภูมิแพ้ คืออะไร อาการของโรคภูมิแพ้เป็นอย่างไร การเป็นภูมิแพ้มีอันตรายหรือไม่ แล้วเป็นภูมิแพ้ควรไปพบแพทย์เมื่อไหร่ หลาย ๆ คงสงสัยใช่ไหมว่า การเป็นภูมิแพ้มีอาการอย่างไร สาเหตุที่เกิดภูมิแพ้จากอะไร แล้วรักษาอย่างไรใช้หาย มาดูกันเลย

 

ภูมิแพ้ อาการภูมิแพ้เป็นอย่างไร โรคภูมิแพ้สามารถรักษาได้อย่างไร สาเหตุของโรคภูมิแพ้คืออะไร?

โรคภูมิแพ้ คืออะไร

โรคภูมิแพ้ (Allergy) คือ เป็นโรคที่ผู้ป่วยมีอาการแพ้ ไอ จาม มีน้ำมูก คัดจมูก คันรอบดวงตา น้ำตาไหล ระคายเคืองใบหน้า มีผดหรือผื่นคันแดงตามผิวหนัง ผิวหนังลอกอักเสบ หรืออาจจะแพ้รุนแรงถึงขั้น ท้องร่วง แน่นหน้าอก หรือหายใจไม่ออกหลังจากที่ได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปในร่างกาย ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จะมีอาการแพ้สารที่แตกต่างกันออกไป เพราะโยทั่วไปแล้วสารส่วนใหญ่ที่ผู้ป่วยแพ้ จะเป็นสารที่ไม่ทำปฏิกิริยา หรือเป็นอันตรายต่อร่างกายคนส่วนใหญ่ แต่จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยต่อผู้ที่แพ้เท่านั้น โรคภูมิแพ้เป็นโรคยอดนิยมที่พบได้ในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในในเมืองที่เต็มไปดวยมลภาวะที่ไม่พึงประสงค์ อย่างเช่น ฝุ่น ควัน สารพิษต่าง ๆ ขยะ สิ่งเหล่านี้นั้นล้วนเป็นสิ่งที่เพิ่มความเสี่ยงให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายต้องทำงานเพิ่มขึ้น และเพิ่มโอกาสในการป่วยด้วยโรคภูมิแพ้มากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย

บทความที่เกี่ยวข้อง : แนะนำ 11 เครื่องฟอกอากาศสำหรับเด็ก ที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย ซื้อติดบ้านได้เลย

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภูมิแพ้ อาการภูมิแพ้เป็นอย่างไร โรคภูมิแพ้สามารถรักษาได้อย่างไร สาเหตุของโรคภูมิแพ้คืออะไร?

อาการ

อาการแพ้ทำให้เกิดการอักเสบและระคายเคือง อย่างไรก็ตาม อาการเฉพาะจะขึ้นอยู่กับชนิดของสารก่อภูมิแพ้ ตัวอย่างเช่น อาการแพ้อาจเกิดขึ้นในลำไส้ ผิวหนัง ไซนัส ทางเดินหายใจ ดวงตา หรือช่องจมูก ซึ่งอาการจะแตกต่างกันไปตามสิ่งที่แพ้ ดังนี้

 

1. ภูมิแพ้อากาศ

ภูมิแพ้ชนิดนี้จะมีอาการที่บริวเณจมูก และ อวัยวะที่เกี่ยวกับระบบหายใจ ซึ่งเกิดจากผู้ป่วยหายใจเอาสารกระตุ้นเข้าสู่ร่างกาย ระบบภูมิคุ้มกันจะทำหน้าที่ขับสารเพื่อทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ และทำให้เกิดอาการแพ้ ดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • จามบ่อย
  • คันรอบดวงตา จมูก ปาก และลำคอ
  • คัดจมูก น้ำมูกไหล
  • ไอ เจ็บคอ มีเสมหะ
  • หายใจไม่ออก
  • หอบหืด
  • หูอื้อ
  • ตาแดง
  • ประสาทรับกลิ่นทำงานแย่ลง
  • อาจมีไข้

 

2. ภูมิแพ้อาหาร

ภุฒิแพ้อาหาร มักเกิดในระบบหายใจและระบบทางเดินอาหาร แม้จะมีอาการบางอย่างใกล้เคียงกับโรคอาหารเป็นพิษ แต่อาการแพ้จะเกิดขึ้นอยู่กับร่างกาย ที่แพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้นั้น ๆ เท่านั้น โดยอาการของโรคภูมิแพ้อาหาร มีดังนี้

  • ไอ จาม
  • คัดจมูก น้ำตาไหล
  • คันที่ปาก ลิ้น ลำคอ
  • หน้าซีด ใจสั่น
  • ชีพจรเต้นเร็ว
  • อ่อนเพลีย หมดแรง
  • หายใจลำบาก
  • ความดันลดต่ำลง
  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • วิงเวียนศีรษะ
  • เกิดลมพิษ
  • มีผื่นแดง
  • ปวดท้อง ท้องเสีย ขับถ่ายเป็นมูก หรือ มีเลือดปน

 

3. ภูมิแพ้ขึ้นตา

อาการนี้จะแสดงออกที่ดวงตา  โดยจะมีอาการดังนี้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ระคายเคืองดวงตา
  • แสบตา
  • ตาแดง
  • ตาบวม
  • เปลือกตาอักเสบ
  • น้ำตาไหล
  • รู้สึกเหมือนมีเม็ดทรายติดอยู่ที่ดวงตา
  • ตาอ่อนแอ
  • ดวงตาไวต่อแสง
  • มองเห็นไม่สะดวก

 

4. ภูมิแพ้ผิวหนัง

ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง จะมีอาการบริเวณที่ได้รับสารก่อภูมิแพ้ โดยจะมีอาการคัน ผื่นแดง มีรอยนูน หรือ ตุ่มอักเสบ และเป็นแผล หรือ ผิวลอกได้ง่ายเมื่อเกา

 

ตัวกระตุ้นและอาการที่อาจเกิดขึ้นในผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้

ฝุ่นและละอองเกสร

  • จมูกอุดตันหรือแออัด
  • คันตาและจมูก
  • น้ำมูกไหล
  • ตาบวมและน้ำตาไหล
  • ไอ

อาหาร

  • อาเจียน
  • ลิ้นบวม
  • รู้สึกเสียวซ่าในปาก
  • อาการบวมที่ริมฝีปาก ใบหน้า และลำคอ
  • ปวดท้อง
  • หายใจถี่
  • เลือดออกทางทวารหนักส่วนใหญ่ในเด็ก
  • อาการคันในปาก
  • ท้องเสีย

แมลงต่อย

  • หายใจดังเสียงฮืด ๆ
  • บวมอย่างมีนัยสำคัญที่เว็บไซต์ของต่อย
  • ความดันโลหิตลดลงอย่างกะทันหัน
  • คันผิวหนัง
  • หายใจถี่
  • กระสับกระส่าย
  • ลมพิษหรือมีผื่นแดงและคันมากที่กระจายไปทั่วร่างกาย
  • อาการวิงเวียนศีรษะ
  • ไอ
  • แน่นหน้าอก

ยา

  • หายใจดังเสียงฮืด ๆ
  • อาการบวมที่ลิ้น ริมฝีปาก และใบหน้า
  • ผื่น
  • อาการคัน

หากมีอาการรุนแรง อาจเกิดแอนาฟิแล็กซิสได้

 

อาการแอนาฟิแล็กซิส

Anaphylaxisเป็นปฏิกิริยาการแพ้รูปแบบที่รุนแรงที่สุด เป็นเหตุฉุกเฉินทางการแพทย์และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ แอนาฟิแล็กซิสสามารถพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว โดยอาการจะเกิดขึ้นภายในไม่กี่นาทีหรือหลายชั่วโมงหลังจากสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้

การวิจัยชี้ให้เห็นว่าแอนาฟิแล็กซิสมักส่งผลต่อผิวหนังและระบบทางเดินหายใจมากที่สุด

อาการบางอย่างรวมถึง:

  • ลมพิษ หน้าแดง และคัน
  • หายใจลำบาก
  • หายใจดังเสียงฮืด ๆ
  • บวม
  • ความดันโลหิตต่ำ
  • การเปลี่ยนแปลงของอัตราการเต้นของหัวใจ
  • อาการวิงเวียนศีรษะและเป็นลม
  • หมดสติ

การตระหนักถึงอาการเหล่านี้มีความสำคัญต่อการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ภูมิแพ้ อาการภูมิแพ้เป็นอย่างไร โรคภูมิแพ้สามารถรักษาได้อย่างไร สาเหตุของโรคภูมิแพ้คืออะไร?

สาเหตุของโรคภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้นั้น เกิดจาการที่ร่างกายผลิตภูมิคุ้มกันเพื่อขจัดสิ่งแปลกปลอมที่ได้รับเข้ามาด้วย การขับสารภูมิต้านทานออกมาด้วยสิ่งแปลกปลอมเหล่านั้น และสารภูมิต้านทานนั้นก็ก่อให้เกิดการอักเสบ และอาการแพ้แก่ร่างกายด้วยได้ การเกิดโรคภูมิแพ้เป็นเหตุมาจากภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ทำงานนั้นมากจนเกินไป ทำให้เกอดอาการแพ้ต่อบางสิ่งที่อาจจะไม่เป็นอันตรายต่อคนทั่วไป แต่กับเป็นอันตรายต่อบุคคลที่แพ้เท่านั้น

สารที่ร่างกายได้รับเข้ามา และทำการกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ในลักษณะต่าง ๆ เรียกว่า สารก่อภูมิแพ้ โดยร่างกายจะมีปฏิกิริยาต่อสารก่อภูมิแพ้ด้วยการแสดงอาการแพ้ในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป โดยสารภูมิต้านทานซึ่งเป็นโปรตีนที่อยู่ในเลือด มีหน้าที่คอยป้องกัน รวมทั้งขจัดเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย ทำปฏิกิริยาตอบสนองต่อสารก่อภูมิแพ้บางชนิดที่ผู้ป่วยแพ้

 

การรักษาภูมิแพ้

หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ และสารระคายเคือง

เนื่องจากการรักษาที่ดีที่สุดของโรคภูมิแพ้ คือการหลีกเลี่ยงสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ก็จำเป็นต้องใช้ยาเพื่อการรักษา หรือเพื่อบรรเทาและควบคุมอาการที่จะเกิดขึ้น

การใช้ยารักษา 

แพทย์จะวินิจฉัยและจ่ายยาให้ผู้ป่วยอย่างเหมาะสม เพื่อบรรเทาและควบคุมอาการที่จะเกิดขึ้น ผู้ที่มีอาการคัดจมูกมากอาจจะต้องใช้ยาลดอาการคัดจมูก สำหรับผู้ที่มีอาการเรื้อรังอาจจะต้องใช้ยาพ่นจมูก

การฉีดวัคซีนรักษาโรคภูแพ้ 

โดยผู้ป่วยจะได้รับการฉีดสารก่อภูมิแพ้เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันชนิด IgG การฉีดจะเลือกฉีดเฉพาะสารก่อภูมิแพ้ที่ทดสอบทางผิวหนังแล้วพบว่าแพ้ จากนั้นแพทย์จะเพิ่มขนาดยาตามตารางเวลา ซึ่งผลข้างเคียงจากการฉีดจะมีรอยผื่นแดง ผื่นคัน นานประมาณ 4-8 ชั่วโมง ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้น คือ การคัดจมูก น้ำมูกไหล อาการเหล่านี้มักจะเกิดภายใน 30 นาทีหลังฉีด มีส่วนน้อยที่อาจจะแพ้ยาที่ฉีดชนิดรุนแรง แต่อาการมักเป็นชั่วคราวและหายได้หลังจากแพทย์ให้ยาแก้แพ้

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ไข้หวัดใหญ่ สังเกตอาการไข้หวัดใหญ่ พร้อมวิธีป้องกัน ดูแลตัวเองอย่างไร ให้ห่างไกลโรค

มะเร็งลำไส้โรคร้าย ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด ทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้เกี่ยว กับมะเร็งลำไส้ใหญ่

ไซนัสอักเสบ อารการเป็นอย่างไร โรคไซนัสอักเสบรักษาอย่างไร เหตุเกิดจากอะไร

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : medicalnewstoday.com , pobpad.com , paolohospital.com

บทความโดย

Kittipong Phakklang