ลูกชายของแม่กีฟเป็นผื่นทั่วตัว ลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ เป็นๆ หายๆ มาตลอด 5 เดือน รักษามาแล้ว 5 หมอก็ไม่หาย แต่สุดท้ายก็พบทางสว่างจากคุณหมอท่านหนึ่ง ด้วยวิธีการรักษาที่ใครๆ ก็สามารถทำได้ คุณแม่จึงได้แชร์ประสบการณ์ให้กับคุณแม่ท่านอื่นที่อาจกำลังประสบปัญหาแบบเดียวกับแม่กีฟ ลองพิจารณาเผื่อเป็นแนวทางในการรักษาได้ค่ะ
คุณแม่กีฟโพสต์ ผ่าน facebook กลุ่มคนท้องคุยกัน ไว้ว่า
วันนี้ ขออนุญาตแชร์ประสบการณ์การหาหมอเทอดพงศ์ (หมอผิวหนังเด็ก) แล้วเหมือนพบทางสว่างค่ะ
แม่กีฟเช็คคิวหมอเทอดพงศ์ว่าลงตรวจที่ไหน เลยพาลูกชายมาหาซักที หลังจากลังเล และพาลูกชายหาหมอแล้วทั้งสิ้น 5 หมอ (ตั้งแต่ 1.5 - 6.5 เดือน) เครียดมากกกเนื่องจากลูกชายทานนมแม่ล้วนมา 7 ด. แล้วมีผื่นขึ้นทั่วตัว เป็นๆ หายๆ หมอที่เคยพาลูกรักษา มีดังนี้
1.หมอเด็กประจำตัวตอนคลอด รพ.1 (บอกเป็นผื่นเหงือ)
2.หมอภูมิแพ้ รพ.1 (วินิจฉัยแพ้อาหารผ่านนมแม่งดเข้ม Top5 2week , เจาะเลือดลูกตรวจตอน 2ด. ผลไม่แพ้)
3.หมอภูมิแพ้ รพ.1 (เปลี่ยนหมอ หมอบอกผลไม่แพ้ไม่ต้องงดเข้ม)
4.หมอเด็ก คลินิคเด็ก อจ.หมอ รพ.2 (เปลี่ยนน้ำยาซักผ้า,วิธีการอาบน้ำ)
5.คลินิคผิวหนัง หมอผิวหนัง จากรพ.3 (atopic ติดเชื้อ ทายา 3 วันหาย หยุดยาผื่นขึ้นใหม่)
คุณแม่เข้าชมรมรักเด็กขี้แพ้ (อาหาร) ศึกษามาซักระยะ นั่งอ่าน comment&post ทุกวัน งดเข้มแล้วไม่หาย ลักษณะผื่นที่เป็นในกรุ๊ปคล้ายลูกชายเลยลองศึกษาหลายๆ เคส ส่วนใหญ่อาการผื่นจะเป็นกับเด็กนมแม่ เคสลูกแม่กีฟคันเกาจนเป็นแผลเปิดฉีก ลูกเป็นผื่น ผิวสากๆ และ % ส่วนใหญ่จะหาหมอแล้วจบที่หมอเทอดพงศ์ และหมอนวลอนงค์ (แล้วแต่เด็ก)
คุณหมอเทอดจะเป็นหมอผิวหนังเด็กโดยตรง จะลงตรวจที่ BNH , เจ้าพระยา , หัวเฉียว ,จุฬา ซึ่งหลายเสียงบอกให้ทำใจเรื่องรอตรวจอย่างหนัก เพราะหมอคิวทอง คุยก็นาน ซึ่งมันเป็นเยี่ยงนั้นจริงๆ มาถึง 15:00 ได้คิวที่ 11 ได้ตรวจตอน 18:45 ตรวจเสร็จ 19:15 ซึ่งหมอมีคิวทั้งสิ้น 20 คิว
เบื้องต้นหมอให้นิยามคำสั้นมาว่า ลูกคุณแม่เรียกว่า "เยินแล้วคับ" พร้อมส่ายหัว และพูดว่าให้ลบล้างความคิดที่ผ่านมาออกจากสมอง
แผลที่เห็น เกิดจากภูมิแพ้ผิวหนัง
ปัจจัยที่เกิด ภูมิแพ้ผิวหนัง 3 ข้อหลัก ๆ
1.ภูมิของพ่อ&แม่ (อิแม่นี่แหละแพ้ง่ายมากๆๆๆ แพ้ทุกสิ่ง)
2.น้ำลาย (ฟันขึ้นแล้ว & อมตุ๊กตา)
3.เหงื่อ (อากาศร้อน เด็กขี้ร้อน)
และอีก 2 ข้อเสริมกรณีเด็กโต
4.สิ่งแวดล้อม (ไรฝุ่น, ขนสัตว์ )
5.แพ้อาหาร % จาก100 :15คน (งดอาหารกลุ่มเสี่ยงแล้วผื่นก็ไม่หายไม่ได้ช่วยอะไร ถ้าอยากงดก็งดได้ ถ้าแพ้อาหารต้องขึ้นตา หายใจครืดคราด ระบบทางเดินหายใจ)
---ต้องจำไว้ว่า---
*ไม่สบู่ ไม่ถู ไม่ขัด ไม่แช่ ไม่อุ่น*
วิธีดูแลรักษา
1.ห้ามอาบน้ำอุ่น เด็ดขาด!!!ย้ำว่าเด็ดขาดเพราะผิวสากยิ่งเจอน้ำอุ่นผิวยิงคันเกาแล้วเยิน (เลือกตามช่วงเวลา&สภาพอากาศด้วยค่ะ) ไม่ต้องกลัวลูกปอดบวม
2.ห้ามแช่น้ำ & ห้ามฟอกสบู่ทุกส่วน อาบน้ำเปล่า สบู่ออแกนิคก็ไม่ต้อง สูตรอ่อนโยนก็ไม่ควร
3.ห้ามใช้อะไรมาถูตัว ทั้งสบู่เหลว โฟม ก้อน ออแกนิค ธรรมชาติ100% ผ่านการรับรองหยุดใช้ ฟองน้ำหยุดถู ใช้มือกวักๆ ราดน้ำพอ
4.ห้ามเล่นตุ๊กตา
5.ห้ามอมมือ
6.เอาผ้าชุบน้ำเช็ดน้ำลายที่หน้าออกแล้วซับด้วยผ้าแห้ง
7.ห้ามใช้ baby wipes ทุกยี่ห้อ (หมอแอบเห็นในกระเป๋าคุณแม่)
8.ห้ามอยู่ในอากาศร้อนจัดเย็นจัด (ห้องแอร์ที่พอเหมาะ)
9.ห้ามไปว่ายน้ำและเรียนbaby pool (คลอรีนกัดผิวเยินรับรอง )
10. ใช้น้ำยาของเด็ก เสื้อผ้าควรแยกซักเครื่องจากผู้ใหญ่ถ้าไม่มั่นใจว่าเครื่องจะมีน้ำยาซักผ้าผู้ใหญ่&ปรับผ้านุ่มตกค้าง เพราะมันมีน้ำหอมเยอะ (ปกติคุณแม่ซักมือ100%ไม่ใส่ปรับผ้านุ่ม)
11.ห้ามใช้เบบี้ออย
12.ห้ามทามหาหิงค์
13.คนดูแล พี่เลี้ยง คนที่มาอุ้มและสัมผัส ห้ามฉีดน้ำหอม
แม่กีฟขนยา&โลชั่นทุกตัวไปใหม่หมอดูที่ได้ลองมา ฟังคนอื่นมาว่าดี หมอบอกให้หยุดเชื่อคนอื่น หยุดใช้แต่ห้ามทิ้ง เผื่อโตแล้วใช้ต่อได้ ไม่ต้องงดอาหารใดๆทั้งสิ้น กินปกติ นมแม่ต่อได้ ส่วนโลชั่นยูเซอรีน (ฝาขาว)ที่บำรุงเอาลูกอิชั้นไม่อยู่นะคะ หมอบอกเยินเลยขั้นนั้นแล้ว ต้องฝาน้ำเงินคือขั้นพีคสุดของเด็กที่ผิวแห้งและเป็นผื่นผิวหนังติดเชื้อ มียาทา 2 ตัว ลองดู 2week แล้วนัดดูผื่นใหม่ คุณแม่ไม่เชื่อหมอไม่เป็นไรแต่ให้ลองทำดู อย่า!! งกโลชั่นทาบ่อยๆ เลยล้างน้ำอาบน้ำก็โป๊ะได้ทั่วทั้งวัน เพราะลูกผิวสากมากกกก ส่วนโลชั่นสำหรับเด็กเป็น atopic มีอยู่ 7 แบรนด์การทำงานเหมือนกันอยู่ที่ลูกจะถูกกับแบรนด์ไหน ซึ่งมี
Eucerin , Cetaphill , laroche posey lipikar baume, Aveeno , CeraVe , Ato ai , Physiogel Al
เด็กแต่ละคนถูกกับยา&โลชั่นต่างกันไม่ต้องบ้าซื้อตามลูกคนอื่น สเตรียรอยด์หายก็หยุดอยู่ภายใต้คำสั่งหมอไม่อันตราย คนในเน็ตเชื่อมากอันตรายกว่า ตอนนี้ลูกแม่กีฟผิวใสมากกจับแล้วลื่นปรื้ดด มีบางที่ผดที่แก้มรอบปากขึ้นเนื่องจากน้ำลาย แขนขาคลานถูแผ่นรองคลานสกปรก
ผลจากการหาหมอ
-หลังจากปฎิบัติอย่างเคร่งครัด 3 วันผิวก็ใสเนียนกริ้บ
-หลังจาก2week หมอเทอดนัด follow up แล้วบอกผิวใสมากเลย ยาก็ใช้น้อยมาก และให้ปฎิบัติตามที่หมอแจ้งต่อไปแล้วแม่จะไม่เครียดกับอาการผื่นลูกอีก
- ช่วงทายา&โลชั่นที่เห็นผลดีที่สุดคือ ทาทั้งหมดให้ทันภายใน 3 นาทีหลังอาบน้ำเช็ดตัว
*ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ของลูกแม่กีฟนะคะ
เจอหมอเทอดแล้วรักษามาถูกทาง พิจารณาตามความเหมาะสม ลองปฎิบัติตามดูได้นะคะ เผื่อเป็นทางเลือกสำหรับลูกคุณแม่ที่อยากให้ลูกผิวใสเนียนกริ้บ แม่กีฟเคยเครียดมากกับเรื่องนี้ เข้าใจหัวอกแม่ๆทุกคน ยอมสละเวลาซักนิดเพื่อความสุขของลูกนะคะ
ดิเอเชี่ยนพาเร้นท์ขอขอบคุณแม่ GifTy Ora ที่แบ่งปันข้อมูลดีๆ ในครั้งนี้นะคะ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์แก่คุณแม่ท่านอื่นๆ ที่ประสบปัญหาแบบเดียวกันได้ลองทำตามดูนะคะ เพราะวิธีการที่นำมาแบ่งปันนั้นไม่ได้มีอันตรายใดๆ อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัวของคุณแม่กีฟเท่านั้นค่ะ ลูกน้อยของคุณแม่อาจเกิดผื่นจากสาเหตุอื่น ซึ่งต้องแก้ไขจากสาเหตุที่ถูกต้องต่อไปค่ะ
บทความที่น่าสนใจอื่นๆ
Skin Test “การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง” ทำอย่างไร ทำที่ไหน ราคาเท่าไหร่
มารับมือกับโรคภูมิแพ้ของลูกในฤดูหนาวกันดีกว่า