7 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ทำให้ลูกก้าวร้าว !

ลูกก้าวร้าว ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าว พฤติกรรมของพ่อแม่เอง พฤติกรรมแบบไหนที่ส่งผลให้ลูกเป็นเด็กก้าวร้าว มาติดตามกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ความก้าวร้าวในเด็ก เป็นปัญหาที่หลายครอบครัวเจอ และเป็นสิ่งที่พ่อแม่หลายคนกังวลใจ พฤติกรรมก้าวร้าวของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการตี การผลัก การกัด หรือการใช้คำพูดที่รุนแรง อาจเกิดจากหลายปัจจัย หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ ลูกก้าวร้าว คือ “พฤติกรรมของพ่อแม่เอง” ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากต่อการพัฒนาการของลูก

พ่อแม่คือแบบอย่างแรกและสำคัญที่สุดของลูก การที่ลูกน้อยได้เห็นและเรียนรู้พฤติกรรมจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก จะส่งผลต่อการพัฒนาพฤติกรรมของลูกในระยะยาว หากพ่อแม่แสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าว เช่น การตะคอก การใช้กำลัง หรือการแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง ลูกน้อยก็มีแนวโน้มที่จะเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้นได้เช่นกัน

พฤติกรรมก้าวร้าวคืออะไร ?

พฤติกรรมก้าวร้าวในเด็ก หมายถึงพฤติกรรมที่แสดงออกในหลากหลายรูปแบบ แสดงถึงความโกรธ ความหงุดหงิด หรือความไม่พอใจ โดยมีการกระทำที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อตนเองหรือผู้อื่น เช่น การตี การผลัก การกัด การใช้คำพูดที่รุนแรง หรือการทำลายข้าวของ  บางครั้งก็ลงไปชักดิ้นชักงอ เป็นต้น 

7 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ทำให้ ลูกก้าวร้าว

การที่ลูกน้อยได้เห็นและเรียนรู้พฤติกรรมจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก จะส่งผลต่อการพัฒนาพฤติกรรมของลูกในระยะยาว

1. ใช้ความรุนแรงเป็นการแก้ปัญหา

    • ตบ ตี หรือลงโทษทางกาย การใช้ความรุนแรงเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ผิดและส่งผลเสียต่อจิตใจของเด็ก ทำให้เด็กเรียนรู้ว่าความรุนแรงเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ยอมรับได้ และอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวในอนาคต
    • การดุด่าว่ากล่าวอย่างรุนแรง การใช้คำพูดที่หยาบคาย หรือดุด่าว่ากล่าวอย่างรุนแรง ทำให้เด็กรู้สึกถูกดูถูกและขาดความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมตอบโต้ที่ก้าวร้าว

2. ขาดความอดทนและการให้กำลังใจ

    • ไม่ฟังความคิดเห็นของลูก เมื่อเด็กพยายามสื่อสารความต้องการหรือความรู้สึก แต่พ่อแม่ไม่ให้ความสนใจหรือไม่ฟัง ทำให้เด็กรู้สึกไม่สำคัญและอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อเรียกร้องความสนใจ
    • เปรียบเทียบลูกกับคนอื่น การเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่นๆ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกด้อยค่าและขาดความมั่นใจในตัวเอง ซึ่งอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อปกป้องตัวเอง

3. ขาดการแบบอย่างที่ดี

    • พ่อแม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เด็กเรียนรู้จากการเลียนแบบ หากพ่อแม่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น ด่าทอกันเอง หรือทะเลาะวิวาทกันบ่อยๆ เด็กก็จะเรียนรู้และนำพฤติกรรมเหล่านั้นมาใช้
    • ขาดการควบคุมอารมณ์ เมื่อพ่อแม่แสดงอารมณ์ฉุนเฉียวหรือควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เด็กจะเรียนรู้ที่จะแสดงออกทางอารมณ์ในลักษณะเดียวกัน

4. ให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่า

    • เน้นแต่ผลการเรียน การเน้นแต่ผลการเรียนและเปรียบเทียบลูกกับเด็กคนอื่นๆ ทำให้เด็กรู้สึกกดดันและอาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อหลีกเลี่ยงความผิดหวัง
    • ไม่ให้โอกาสในการแก้ไข เมื่อเด็กทำผิดพลาด พ่อแม่ไม่ให้โอกาสในการแก้ไขหรือปรับปรุงตัวเอง ทำให้เด็กรู้สึกท้อแท้และอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวเพื่อตอบโต้

5. ขาดการอบรมสั่งสอน

    • ไม่สอนให้เด็กรู้จักผิดชอบชั่วดี การไม่สอนให้เด็กแยกแยะความถูกผิด ทำให้เด็กขาดจิตสำนึกและอาจทำร้ายผู้อื่นโดยไม่รู้สึกผิด
    • ไม่สอนวิธีการควบคุมอารมณ์ การไม่สอนให้เด็กควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ทำให้เด็กไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิดได้ และอาจแสดงออกทางพฤติกรรมก้าวร้าว

6. เลี้ยงลูกผ่านหน้าจอ

    • ให้ลูกอยู่กับสื่ออิเล็กทรอนิกส์ การให้ลูกใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไปส่งผลกระทบต่อพัฒนาการทางสังคมของเด็กอย่างมาก การที่เด็กๆ หมกมุ่นอยู่กับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือเกมคอมพิวเตอร์ ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการเข้าสังคมที่สำคัญ เช่น การสื่อสาร การทำงานร่วมกับผู้อื่น และการควบคุมอารมณ์
    • จำกัดเวลาการดูจอ คุณพ่อคุณแม่ควรจำกัดเวลาในการใช้หน้าจอของลูกให้เหมาะสมกับวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรหลีกเลี่ยงการให้ลูกสัมผัสหน้าจอทุกชนิด สำหรับเด็กอายุ 2-5 ปี ควรจำกัดเวลาในการใช้หน้าจอไม่เกิน 1 ชั่วโมงต่อวัน

7. เข้มงวด ใช้วิธีลงโทษเสมอ

    • ลงโทษโดยไม่มีเหตุผล การใช้คำพูดที่เข้มงวดและดุ ลงโทษลูกบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงวัยต่อต้าน จะยิ่งทำให้เด็กสร้างกำแพงในใจ ปิดกั้นการสื่อสาร และอาจแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมา 
    • ไม่รับฟังเหตุผล จะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองไม่มีค่าและไม่สำคัญ ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ตามมา เช่น การก้าวร้าว การปิดใจ และการขาดความเชื่อมั่นในตนเอง

พฤติกรรมก้าวร้าวของลูก รับมือ จัดการยังไงดี ?

หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกมีพฤติกรรมก้าวร้าวคือการเลียนแบบพฤติกรรมจากผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ การใช้คำพูดที่รุนแรง การใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา หรือการลงโทษ ล้วนส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกได้ทั้งสิ้น การแก้ไขพฤติกรรมก้าวร้าวในเด็กจึงต้องเริ่มต้นที่ตัวพ่อแม่เองก่อน และการแก้ไขปัญหาลูกก้าวร้าวนี้ต้องอาศัยความเข้าใจลูก และการปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ห้ามใช้ความรุนแรง

ความรุนแรงไม่ใช่คำตอบในการแก้ปัญหาพฤติกรรมของลูก การตี ด่า หรือใช้คำพูดที่รุนแรงกับลูก ไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยแก้ไขปัญหา แต่ยังส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางอารมณ์และจิตใจของลูกอย่างมาก เด็กที่เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยความรุนแรง จะเรียนรู้ที่จะใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหาตามไปด้วย พวกเขาอาจกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจในตนเอง ก้าวร้าว หรือมีปัญหาในการควบคุมอารมณ์ การอธิบายเหตุผลให้ลูกฟังอย่างใจเย็น การให้กำลังใจ และการแสดงความรัก จะช่วยให้ลูกเข้าใจถึงความผิดพลาดของตนเอง และพร้อมที่จะปรับปรุงพฤติกรรม

  • ตักเตือนสม่ำเสมอ

การตักเตือนลูกทุกครั้งที่แสดงพฤติกรรมก้าวร้าว เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยให้เด็กเข้าใจว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่เป็นที่ยอมรับ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน หรือกับใครก็ตาม การที่ผู้ปกครองเลือกที่จะดุลูกเฉพาะที่บ้าน แต่ปล่อยผ่านเมื่ออยู่ข้างนอก จะทำให้เด็กสับสนและไม่เข้าใจว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้อง สิ่งสำคัญคือการอธิบายเหตุผลให้ลูกฟังอย่างใจเย็น ว่าทำไมการกระทำแบบนั้นจึงไม่เหมาะสม และสอนให้ลูกหาวิธีแสดงออกถึงความรู้สึกของตนเองในทางที่ถูกต้อง เช่น การใช้คำพูดในการสื่อสารแทนการใช้กำลัง การให้โอกาสลูกได้ฝึกฝนการควบคุมอารมณ์

  • ให้ลูกรู้จักยอมรับผิด

การสอนให้เด็กรู้จักยอมรับผิดและขอโทษเป็นสิ่งสำคัญ การปลูกฝังให้ลูกเข้าใจว่าการกระทำของตัวเองส่งผลต่อความรู้สึกของผู้อื่น จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นและมีความรับผิดชอบต่อสังคม ตัวอย่างเช่น การอธิบายให้ลูกฟังว่า “เมื่อลูกแย่งตุ๊กตาของเพื่อนไป เพื่อนจะรู้สึกเศร้าและโกรธนะ เพราะตุ๊กตานั้นเป็นของเล่นที่เพื่อนรักมาก” หรือ “ถ้าลูกตีเพื่อน เพื่อนจะรู้สึกเจ็บและกลัวที่จะเล่นกับลูกอีก” สิ่งสำคัญคือการสร้างบรรยากาศ เพื่อให้ลูกกล้าที่จะยอมรับความผิดพลาดและขอโทษ เมื่อลูกทำผิด คุณพ่อคุณแม่ควรใจเย็น อธิบายเหตุผลให้ลูกฟัง และให้โอกาสลูกได้แก้ไขความผิดพลาด โดยหลีกเลี่ยงการตำหนิหรือดุด่าลูกอย่างรุนแรง

  • ไม่เพิกเฉยหรือปล่อยละเลย

เมื่อลูกแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวกับเพื่อน พ่อแม่ควรดุลูกทันทีและรีบดึงตัวลูกออกห่างจากเพื่อน และพูดคุยทำความเข้าใจถึงสาเหตุ ก่อนตัดสินใจลงโทษ และการอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงความรู้สึกของผู้อื่นที่ได้รับผลกระทบจากพฤติกรรมของลูกก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่น การบอกว่า “การตีเพื่อนทำให้เพื่อนเจ็บและเสียใจนะ” หรือ “การแย่งของเล่นทำให้เพื่อนรู้สึกไม่ดี” แต่ควรทำอย่างใจเย็นและอธิบายให้ลูกฟังว่าทำไมถึงต้องทำเช่นนั้น เมื่อลูกสงบแล้ว ค่อยพูดคุยกับลูกอย่างใจเย็นและให้โอกาสลูกได้ขอโทษเพื่อน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • กำหนดกติกาและบทลงโทษ

การมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน เช่น ห้ามใช้ความรุนแรงกับผู้อื่น จะช่วยให้เด็กเข้าใจว่าพฤติกรรมใดบ้างที่ไม่เหมาะสม และทำไมจึงไม่ควรทำ เช่น การบอกว่า “การตีเพื่อนทำให้เพื่อนเจ็บและเสียใจนะ” “ถ้าลูกตีเพื่อน ลูกจะไม่ได้เล่นกับเพื่อนอีก” หรือ “ถ้าลูกใช้คำพูดที่ไม่ดีกับพ่อแม่ พ่อแม่จะรู้สึกเสียใจ”

  • จำกัดการใช้เวลาในการดูจอ

แม้ว่าสื่อต่างๆ สำหรับเด็กจะดูเหมือนส่งเสริมพัฒนาการของลูก แต่ก็อาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมซ่อนอยู่ เช่น ภาพความรุนแรง หรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของเด็กได้ งานวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า เด็กที่ใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป จะมีพัฒนาการทางด้านภาษา สังคม และอารมณ์ที่ช้ากว่าเด็กที่ได้ทำกิจกรรมอื่นๆ มากกว่า การดูสื่อที่มีความรุนแรง อาจทำให้เด็กเลียนแบบพฤติกรรมเหล่านั้นได้เช่นกัน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • เป็นแบบอย่างที่ดี

พ่อแม่คือแบบอย่างที่ดีที่สุดในการสอนลูกเรื่องการควบคุมอารมณ์ เมื่อลูกเห็นพ่อแม่จัดการกับความรู้สึกโกรธ เศร้า หรือผิดหวังได้อย่างเหมาะสม ลูกก็จะเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้เช่นกัน และการขอโทษเมื่อทำผิด การยอมรับความผิดและขอโทษเป็นการแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูก

  • เปิดใจคุยกับลูก

การเปิดใจคุยกับลูกคือกุญแจสำคัญในการแก้ไขพฤติกรรมก้าวร้าว เมื่อ ลูกก้าวร้าว สิ่งสำคัญคือการสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยและเปิดใจให้ลูกได้ระบายความรู้สึกออกมา การรอให้ลูกใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยเข้าไปพูดคุยด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน จะช่วยให้ลูกเปิดใจรับฟังมากขึ้น ให้โอกาสลูกได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด โดยไม่ขัดจังหวะหรือตัดสิน และช่วยลูกคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน

  • ให้คำชมเชย

การชมเชยเป็นสิ่งที่ช่วยปรับพฤติกรรมก้าวร้าวของลูกได้ดี นอกจากการตักเตือนเมื่อเด็กทำผิดแล้ว การชมเชยเมื่อเด็กทำดีก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้เด็กเกิดความภาคภูมิใจในตนเองและอยากทำดีต่อไป เช่น เมื่อเด็กสามารถรอคิวได้ แบ่งปันของเล่น หรือใช้คำพูดในการสื่อสารความรู้สึก แทนการใช้กำลัง พ่อแม่ควรชมเชยลูกอย่างจริงใจ เช่น “ลูกเก่งมากที่สามารถรอคิวได้” หรือ “แม่ดีใจที่ลูกแบ่งของเล่นให้เพื่อน” การชมเชยบ่อยๆ จะช่วยให้เด็กเกิดความรู้สึกที่ดีต่อตนเองและต่อพฤติกรรมที่ดีที่ได้ทำ

 

การเลี้ยงลูกเป็นสิ่งที่ต้องเรียนรู้และพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การตระหนักถึงพฤติกรรมของตนเองและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับลูก การเลี้ยงลูกไม่ให้เป็นเด็กก้าวร้าว เป็นก้าวแรกสู่การเป็นพ่อแม่ที่ดี การสร้างบรรยากาศในครอบครัวที่อบอุ่น สื่อสารกันอย่างเปิดใจ และให้กำลังใจลูกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีความสุขและประสบความสำเร็จในชีวิต 

ที่มา : เพจสารพันปัญหาการเลี้ยงลูก , Pobpad

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

10 วิธีเลี้ยงลูกให้มีสุขภาพจิตดี ที่สำคัญยิ่งกว่าผลการเรียนเกรด A

วิธีเลี้ยงลูกให้มี Self-esteem ไม่ยอมให้ใครรังแก และไม่เอาเปรียบใคร

แนะนำ! 10 เครื่องบินของเล่น เสริมสร้างพัฒนาการ สานฝันหนูน้อยอยากเป็นนักบิน

 

บทความโดย

yaowamal