รู้ก่อนต่อเติมบ้าน เหตุการณ์ครั้งนี้ ทางผู้บริหารยักษ์ใหญ่ต้องออกมาชี้แจงว่าเป็นเพียงแค่การซ้อมระบบปั้มน้ำ และตัวอาคารไม่ได้เอียง หรือมีวัตถุตกลงมาตามที่ลือกัน ซึ่งก็สร้างความอุ่นใจให้กับกลุ่มคนเมืองที่นิยมอยู่ที่พักอาศันเฉกเช่นนี้ แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน ดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้นอีก คานบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จเพียงแค่ 1 เดือนกับถล่มลงมาทับคนงาน สร้างความตื่นตะลึงตกใจ และทำให้เหล่าแม่บ้าน พ่อบ้าน มนุษย์เงินเดือนที่เริ่มผ่อนบ้าน คอนโดฯ ทั้งหลาย ต่างฉุกคิดถึงความปลอดภัยแหล่งที่อยู่อาศัยกันยกใหญ่ แล้วถ้าวันหนึ่งเหตุการณ์ไม่คาดคิดเหล่านี้เกิดขึ้นกับตนเองหรือคนใกล้ตัว จะสามารถเอาผิดกับใครได้ ด้วยเหตุนี้จึงอย่ามัวรอช้า รีบเร่งศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับกฎหมายการต่อเติมอาคาร บ้านเรือน รวมถึงการเอาผิดผู้รับเหมา เพื่อไม่ให้ภัยเงียบใกล้ตัวเฉกเช่นนี้เกิดขึ้นอีกครั้ง
ควรรู้! ก่อนต่อเติมบ้าน เพื่อไม่ให้สายเกินแก้ มีอะไรบ้าง
1. คิดจะต่อเติมบ้าน ควรศึกษากฎระเบียบข้อบังคับ ให้ถ่องแท้
ทุกวันนี้คงยากจะปฏิเสธ สำหรับกลุ่มคนที่เลือกซื้อบ้าน กับการต่อเติมบ้านเพิ่มเติม ที่ไม่เพียงแค่คิดแล้วจะลงมือทำได้เลย เพราะหากเกิดปรับเปลี่ยนสุ่มสี่สุ่มห้าอาจได้รับความผิดตั้งแต่ถูกปรับไม่เกิน 60,000 บาท จำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับได้ หากไม่ได้ขออนุญาต เฉกเช่นเดียวกับผู้อาศัยคอนโดฯ ดังนั้นจึงควรศึกษากฎระเบียบข้อบังการก่อสร้างตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารก่อน ซึ่งได้ระบุรายละเอียดที่สำคัญต่างๆ ดังนี้
- หากโครงสร้างอาคารเกิดชำรุด ตามสภาพ วันเวลา เช่น ผุ กร่อน จำเป็นต้องเปลี่ยนใหม่ โดยที่วัสดุเป็นรูปแบบและขนาดเท่าเดิม ไม่จำเป็นต้องขอนุญาต แต่ถ้าเป็นจำพวกคอนกรีตเสริมเหล็ก เกิดเป็นสนิม หากมีการเปลี่ยนใหม่ จำเป็นต้องขออนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น (เขต หรืออำเภอ) โดยต้องแจ้งชื่อวิศวกร สถาปนิก และแปลนที่จะต่อเติมเปลี่ยนแปลง
- อยากต่อเติม เพิ่ม ลด เปลี่ยนประตู กระเบื้องใหม่ หรือ อยากเจาะช่องระบายอากาศ โดยไม่เกิน 5 ตร.ม. ถือว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต
- เกิดต้องการอยากเปลี่ยนรูปแบบบ้าน เช่น ทุบสร้างใหม่ หรืออยากเปลี่ยนผนังจากแบบธรรมดา ให้เป็นกันความร้อน ต้องขออนุญาตเจ้าพนักงานท้องถิ่นก่อนทุกครั้ง
2. ลงมือต่อเติมได้ แต่ผู้รับเหมาสร้างปัญหา ทำอย่างไร
ปัญหาที่หลายคนต่างพากันปวดหัว เมื่อได้รับอนุญาตให้ต่อเติมได้ แต่กับโดนผู้รับเหมาเบี้ยวงาน ไม่มาทำให้เสร็จ ทั้งที่วางมัดจำ จ่ายเงินไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว กรณีดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาได้ โดยจ้างผู้รับเหมารายใหม่ให้มาดำเนินการต่อ แต่หากค่าใช้จ่ายเกินงบประมาณตามที่ตกลงผู้รับคนเก่าไว้ สามารถฟ้องร้องเอาเงินส่วนต่างจากผู้รับเหมาที่ก่อเหตุได้ โดยมีอายุความ 10 ปี แต่ถ้าเป็นกรณีฟ้องผิดสัญญาจ้าง จะมีอายุความ 2 ปี
3. หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น จะเอาผิดใคร
จากกรณีบ้านคานถล่ม หรือตึกสั่น หากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ขึ้นจริง สามารถเอาผิดกับผู้รับเหมา หรือเจ้าของโครงการได้ตามสัญญาซื้อขายที่ระบุไว้ โดยมีหน้าที่รับผิด แก้ไข เยียวยา ผลดังกล่าว และหากเป็นกรณีที่ไม่สามารถอยู่อาศัยได้เลย ผู้อยู่อาศัยสามารถยกเลิกสัญญาซื้อขาย หรือสัญญาว่าจ้าง (กรณีต่อเติมกับผู้รับเหมา) ได้ โดยที่ผู้รับเหมาหรือผู้ขาย เจ้าของโครงการจะต้องชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด โดยใช้สิทธิจากศาลตามระยะเวลาของอายุความคือ 1 ปี นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น
เราจะมาเเนะนำการตกเเต่งบ้านให้สวย
รูปแบบ 1.MINIMALIST STYLE
การตกแต่งบ้านต่าง ๆ ในสไตล์นี้ นั้นคือสไตล์การตกแต่งที่เรียบง่ายมาก ๆ ใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นมาก ๆ รวมไปถึงการเลือกใช้งานสิ่งต่าง ๆ ตามความจําเป็นของผู้ใช้ในบ้านเท่านั้น ซึ่งจะถูกจัดวางอย่างมีความระเบียบ เรียบร้อย เอกลักษณ์ในการตกแต่ง สไตล์มินิมอลมาก ๆ ค่ะ โทนสีนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ควรให้ความสำคัญมาก ๆ เพื่อความสะบายต่อสายตาเราด้วย โทนสีของอาจอยู่ในโทนสีแบบโมโนโทนก็ดูสวยเก๋ หรืออาจเน้นพื้นที่ส่วนใดส่วนหนึ่งให้มีความโดดเด่นหรือสีฉูดฉาด สำหรับสไตล์นี้ ไม่ได้มีโทนสีที่ เฉพาะเจาะจง แต่โดยส่วนใหญ่จะเน้นไปที่สีพื้น ๆ อย่างเช่น ขาว ดำ เทา กรมเป็นต้น เพราะให้ความรู้สึกที่เบา แต่ก็สามารถใช้สีโทนอื่น ๆ ได้เช่นกัน แต่ให้คุมโทนไว้สามเฉด คือ สีเข้ม สีกลาง และสีอ่อน เช่นเลือกสีดำเป็นสีเข้ม สีขาวเป็นสีอ่อน ดังนั้นสีกลางคือสีเทา
รูปแบบ 2.LUXURY STYLE
บ้านสไตล์ luxury นี้นะคะ ที่โดดเด่นหลัก ๆ คือด้วยงานสถาปัตยกรรมการออกแบบ ต่าง ๆ และ ทำให้ทุกองศาของภายในบ้านนั้น ดูสวยหรูหรามาก ๆ และอลังการสุดเลยค่ะ โคมไฟ โซฟา พรม และลวดลายที่ประดับแต่งตั้งแต่ผนังตลอดจนเพดาน สร้างความอลังการให้ผู้มาเยือนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างมากลักษณะการแต่งบ้านสไตล์ นี้นั้นได้มีการประยุกต์มาจากการตกแต่งสไตล์โมเดิร์นแต่ดั้งเดิม ซึ่งการตกแต่งโมเดิร์นในแบบเดิมนั้นจะเน้นอุปกรณ์ตกแต่งบ้านที่มีความจำเป็นมาก ๆ ตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปจากตัวบ้าน เน้นการตกแต่งโดยคำนึงถึงการใช้สอยเป็นหลักต่าง ๆ ไม่ได้มุ่งเน้นไปที่ความหรูหรามากจนเกินไป จะเน้นความคล่องตัวและง่าย ๆ เสียมากกว่า
ขอบคุณ ข่าวอสังหาฯ-บทความจาก DDproperty.com , https://www.kerdkanya.com
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
คอนโดแนวรถไฟฟ้า หรือ บ้านชานเมือง ควรซื้ออะไรดี?
บ้านในอุดมคติกับความเป็นจริง ที่เหนือความคาดฝัน