9 สัญญาณเตือน หนทางสู่ชีวิตคู่ที่ต้อง "หย่า" แน่นอน

สัญญาณเตือนอะไรบ้าง ที่บ่งบอกว่านี่ไม่ใช่ชีวิตคู่ที่มีความสุขอีกต่อไปแล้ว รีบสำรวจตัวเองและคู่ของคุณ เพื่อลงมือแก้ไขให้ด่วนที่สุดนะคะ

ชีวิตคู่เหมือนลิ้นกับฟัน ที่ต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ถ้าหากการกระทบกระทั่งนั้นรังแต่จะสร้างบาดแผลให้อีกฝ่ายโดยที่เราไม่รู้ตัวแล้วละก็ มันก็เหมือนกับการเคาท์ดาวน์สู่หาทางหย่าร้างนั่นแหละค่ะ

1.วิจารณ์หรือติเตียน แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ

การวิจารณ์อีกฝ่ายตั้งแต่เรื่องใหญ่ไปจนถึงเรื่องเล็กๆ เช่น เสื้อผ้าหน้าผม การขับรถ การกิน วิธีพูด แม้กระทั่งการหายใจ นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดแล้ว ส่อแววมาแต่ไกลเลยว่าชีวิตคู่ของเราถึงขาลงเสียแล้วสิ

ดอกเตอร์จอห์น กอทท์แมน เรียกสัญญาณนี้ว่า “จตุอาชา” หรือ the four horsemen รูปแบบการสื่อสารที่บ่งบอกว่าความสัมพันธ์นี้กำลังจะล้มเหลว เพราะเป็นจากการวิจารณ์การกระทำหรือตัวตนของอีกฝ่าย (ใครจะชอบคนที่วิจารณ์ตัวตนของเราไปเสียทุกเรื่อง) ถ้าเพียงแต่เรื่องสองเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ก็คงไม่เป็นอะไร แต่ถ้าคุณวิจารณ์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เรื่องเดิมๆ เรื่องใหม่ๆ เรื่องเล็กๆ มันคือสัญญาณว่าคุณไม่ชอบอีกฝ่ายไปเสียทุกอย่างแล้วละค่ะ

2.ด่วนสรุปเร็วไปและมองโลกในแง่ร้ายเกินไป

เมื่ออีกฝ่ายกลับบ้านช้าหรือลืมโทรหา คุณคิดไปแล้วว่าเขาไม่ได้รักคุณแล้ว มันก็คือสัญญาณกลายๆ ว่าคุณกำลังจะตัดความสัมพันธ์กับอีกฝ่าย และในไม่ช้าก็จะนำไปสู่ชีวิตคู่ที่ล้มเหลว

ความจริงก็คือคุณไม่รู้ความจริง แต่คุณโวยวายไปก่อนแล้ว ลองคิดดูง่ายๆ ว่า ขณะที่อีกฝ่ายอาจจะรถติดอยู่บนท้องถนนนานแล้ว กลับบ้านมาเจอคุณเย็นชาใส่ แล้วเขาผิดอะไรละ คุณไม่ต้องกลัวว่าคุณจะดูโง่ในสายตาใครหรือจำเป็นต้องคิดในแง่ร้ายตลอดเวลา เพราะสิ่งที่คุณทำก็คือการบั่นทอนจิตใจทั้งคุณและอีกฝ่ายด้วย

3.คุยกันทีก็เริ่มด้วยเรื่องที่ไม่ดีซะงั้น

การเริ่มต้นบทสนทนาด้วยคำพูดที่เป็นลบ ก็จะจบบทสนทนาด้วยอารมณ์ในด้านลบ นอกจากจะไม่ช่วยให้สถานการณ์ใดๆ ดีขึ้น บทสนทนาในครั้งนี้จะกลายเป็นการทะเลาะและโต้เถียงกันในที่สุด

ความขัดแย้งใดๆ ก็ตามในชีวิตคู่ มักจะเดาจากการพูดคุยแค่ช่วง 30 วินาทีแรกของบทสนทนา การพูดดีๆ กันบ้างมันก็คงทำได้ไม่ยากใช่ไหมละคะ

4.ดูถูก ดูหมิ่น กันบ่อยๆ

การล้อกันด้วยชื่อที่เหมือนเป็นการดูถูกหรือดูหมิ่นอีกฝ่าย ล้อเลียนกับพฤติกรรมต่างๆ ประชดประชัน จิกกัด กลอกตาใส่ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบั่นทอนอีกฝ่ายทั้งสิ้น หากมีคนทำกับคุณแน่นอนว่าคุณไม่มีทางชอบไปได้ แต่คุณอาจจะลืมว่าคุณทำใส่คนรักของคุณบ่อยเกินไปไหม หรือจริงๆ แล้วต้องทำขนาดนั้นเลยรึเปล่า

5.เลิกทำให้สิ่งที่คุณรักหรือชอบ

ช่วงโปรโมชั่นแน่นอนค่ะว่า ได้ครับพี่ ดีค่ะนาย เราจะโอนอ่อนผ่อนตามอีกฝ่ายได้เสมอ จนทำให้คุณสูญเสียตัวตน สิ่งที่คุณชอบทำเป็นประจำ เพราะว่าอีกฝ่ายไม่ชอบ โดนบ่น หรือโดนหึงหวง

การเข้าควบคุมชีวิตของอีกฝ่าย หรือแม้แต่พยายามจะฝืนตัวเองเพื่อความต้องการของอีกฝ่ายนั้น มันคือความสัมพันธ์ที่ไม่ยั่งยืนเอาเสียเลยค่ะ และแน่นอนว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ดีด้วย การเว้นที่ว่างให้ตัวเองและอีกฝ่ายได้ทำในสิ่งที่เขาชอบ ได้เป็นในสิ่งที่เขาต้องการ นั่นคือความสัมพันธ์ที่จะยืนยาว และมีความสุขกันทั้งคู่ด้วยค่ะ

6.ต้องปกป้องตัวเองตลอดเวลา

หากความสัมพันธ์กลายเป็นสงคราม ที่คุณทั้งสองเล่นบทเป็นผู้รุกราน และผู้ป้องกันเมือง มันจะน่าอภิรมย์ไปได้ยังไงคะ คุณต้องแก้ต่างให้ตัวเองตลอด แม้กระทั่งตอนที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ว่ากล่าวหรือติคุณเลย นั่นก็เป็นอีกสัญญาณนึงที่คุณก็แค่รอวันที่จะยกธงขาว ยอมแพ้ เพื่อมาพักหายใจน่ะแหละค่ะ

7.ทะเลาะกันทีบานปลายไปใหญ่โต

ความคัดแย้งเป็นเรื่องธรรมชาติของคู่รักและชีวิตคู่ค่ะ แต่หากทะเลาะกันทีมันกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต มีการยกความผิดสมัยพระเจ้าเหา หรือสาดสีเทสีใส่กัน มันก็เป็นสัญญาณอันตรายแล้วละค่ะ แม้คุณและอีกฝ่ายจะไม่รู้สึก แต่การทะเลาะกันแบบนี้จะยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และจะจบได้ก็ต่อเมื่อคุณเลิกกันไปน่ะแหละ

8.ตั้งป้อมใส่กัน

การปลีกตัวออกมาหายใจ ปิดกั้นตัวคุณหรือตัวเขาออกไป มันจะดีก็ต่อเมื่อคุณไม่ได้ใช้ชีวิตคู่อยู่นะคะ ความรู้สึกเย็นชานี้มันจะบั่นทอนความรักที่คุณทั้งคู่มีให้แก่กัน และป้อมปราการที่คุณสร้างขึ้นมานั้น ไม่ใช่การสร้างที่เสร็จในการทะเลาะกันครั้งหรือสองครั้ง แต่ยิ่งคุณทะเลาะกันมากเท่าไหร่ หากคุณตั้งป้อมสูงขึ้นทุกครั้ง ในไม่ช้าคุณก็จะเย็นชาใส่อีกฝ่าย จนกลายเป็นระหว่างกันไม่เหลือความรักให้อีกลย

9.จำไม่ได้ว่าทำไมเราถึงรักกัน

พลังในด้านลบที่ถาโถมเข้าหากัน จนทำให้ความรู้สึกเก่าๆ ตายไปจนหมด การจำไม่ได้ว่าทำไมคุณทั้งคู่ถึงรักกัน เช่น รอยยิ้มของเธอทำให้ผมหลงรัก เขาทำให้ฉันรู้สึกว่าเปนคนพิเศษ หากความทรงจำเหล่านั้นมันถูกลืมเลือนไป ในไม่ช้าคุณก็จะตั้งคำถามว่า แล้วทำไมฉันถึงต้องอยู่กับเธอละ

อย่างไรก็ตาม หากคุณทั้งสองยังต้องการให้ครอบครัวเป็นครอบครัว ให้ชีวิตคู่เป็นชีวิตคู่ การเปิดอกคุยกันไม่ใช่เรื่องง่าย และไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะหาคนช่วยนะคะ

ที่มา livestrong

 

บทความอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

แก้ปัญหาชีวิตคู่ร้างเซ็กซ์