ใช่ว่าพวกเราจะไม่มีความสุขในชีวิตรักนะ แต่เข้าใจว่าหลังมีลูก เรามักจะมัวแต่สนใจทำอย่างอื่นเสียจนลืมกุ๊กกิ๊กกันไปเลย ดังนั้นเราจึงได้เตรียมแผนการณ์สนุก ๆ ไว้สำหรับพวกคุณ นี่คือ ไอเดียโรแมนติก ยามค่ำคืนหลังลูกหลับที่เรานำมาเสนอให้พวกคุณได้กลับมาซู่ซ่าอีกครั้ง!
9 ไอเดียโรแมนติก สร้างคืนหวานอันซู่ซ่าหลังลูกเข้านอน
- ดื่มด่ำไปกับการจิบเบียร์ หรือไวน์ซักคนละแก้ว สองแก้ว แล้วผ่อนคลายไปกับมัน
- ป้อนขนมหวานด้วยกัน ความหวานจะช่วยบำบัดอารมณ์เหนื่อยของพวกคุณได้ดี
- หาเกมเล่นสนุก ๆ ด้วยกันบนเตียง เริ่มต้นที่เล่นจ้ำจี้กันไปก่อน
- นั่งดูทีวีด้วยกัน หรือจะหาวิดีโอสำหรับผู้ใหญ่มาเปิดดูด้วยกัน แน่นอนว่าต้องอาศัยจังหวะดูเรื่องแบบนี้ตอนลูกหลับได้เท่านั้นแหละ!
- สนุกกับการอาบน้ำด้วยกัน แน่นอนว่ามันต้องมีโมเม้นท์ดี ๆ ที่เกิดขึ้นได้ในคืนนี้
ไอเดียโรแมนติก-01
- หรือจะเล่นสงครามปืนฉีดน้ำกันในห้องน้ำ ถึงแม้ว่าการเล่นแบบนี้ดูเหมือนเด็ก ๆ แต่ก็ป็นสิ่งที่กระชับความสัมพันธ์ของพวกคุณได้ดี จุ๊ ๆ อย่าเล่นเสียงดังมากไปละ เดี๋ยวลูกจะตื่น
- ลองกิจกรรมที่แปลกใหม่ อย่างทาสีสะท้อนแสงแบบใช้ทาตัวลงบนตัวพวกคุณดู (คืนนี้คงวิบวับน่าดูชม)
- ผลัดกันนวดให้กัน และกัน ความโรแมนติกนั้นจำเป็นต้องได้รับการเติมเต็ม พักผ่อน และใกล้ชิดกัน โดยลืมความเครียดระหว่างวันไปซะ
- หลังลูกหลับ และพวกคุณจะทำอะไรก็แล้วแต่ ลองให้เข้านอนพร้อมกันดู การนอนจะช่วยสร้างอารมณ์ให้กับพวกคุณได้
ไอเดียโรแมนติก-02
แต่ถ้าบังเอิญลูกเดินเข้าระหว่างที่คุณกำลังจู๋จี๋กันล่ะก็…
บทความ : ถ้าลูกเดินเข้ามาตอนที่คุณกำลังมีเซ็กซ์…
ไอเดียโรแมนติก-03
“การที่ลูกเดินเข้ามาระหว่างที่พ่อแม่กำลังมีอะไรกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อย นี่เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงควรสอนลูกให้รู้จักเคาะประตู และเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น” ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศ โลแกน เลฟคอฟกล่าว “แต่ก่อนที่คุณจะพูดอะไรกับลูก คุณต้องรู้ก่อนว่าลูกเห็นหรือได้ยินอะไรบ้าง และลูกรู้หรือไม่ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น”
ส่วนจะถาม หรือหาคำตอบอย่างไร คงต้องขึ้นอยู่กับอายุของเด็ก
ตัวอย่างเช่น ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่เห็นว่าผู้ปกครองไม่ควรกลัวที่จะแสดงความรักต่อหน้าทารก
“หลายครอบครัวเลือกที่จะเอาลูกมานอนด้วย หรือให้ลูกนอนในห้องนอนตัวเอง” นักจิตบำบัด เจนนิเฟอร์ ไคลน์อธิบาย “การมีเพศสัมพันธ์ขณะลูกกำลังหลับอยู่ใกล้ ๆ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ทารกไม่รู้ว่าพ่อแม่กำลังทำอะไร จึงไม่ได้มีผลต่อเด็กใด ๆ
นี่เป็นสิ่งที่คุณควรคำนึงสำหรับเด็กแต่ละวัย
เด็กแบเบาะ: เด็กเล็กบางคนอาจจะไม่รู้เรื่องเซ็กซ์ แต่บางคนอาจจะต้องการการปลอบ “เด็ก ๆ อาจจะคิดว่ากำลังเกิดความรุนแรงหรืออะไรน่ากลัว และคุณควรจะอธิบาย” มาร์กี้ นิโคลส์ นักบำบัดทางเพศกล่าว “เมื่อตอนลูกชายของฉันยังเล็ก เขาคิดว่าพ่อเลี้ยงของเขากำลังทำร้ายฉัน เพราะเราทำกันเสียงดังเกินไป และเขาก็ได้ยินเสียง แม้จะดึกมากแล้วก็ตาม”
อธิบายให้ลูกฟังว่าพ่อกับแม่กำลังมีช่วงเวลาส่วนตัวด้วยกัน และคุณไม่ได้ทำร้ายกัน ทิ้งไว้แค่นั้นนอกจากลูกจะถามอะไรเพิ่ม
เด็กประถม: เด็กในวัยนี้มักอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องเพศ แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากพูดถึง “อธิบายให้ลูกฟังตามที่เขาอยากรู้ และยอมรับได้” ไคลน์เสนอ “ถ้าเขารู้สึกอึดอัดที่จะคุยเรื่องเซ็กซ์ ก็ค่อยคุยเมื่อเขาพร้อม”
ประถมตอนปลาย: เด็กวันนี้มักจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และอาจจะทำเสียงรังเกียจ ถ้าเดินเข้าไปจ๊ะเอ๋เข้าโดยบังเอิญ แต่นี่เป็นวัยที่เหมาะสมที่คุณจะอธิบายว่าเซ็กซ์เป็นเรื่องส่วนตัว และเป็นกิจกรรมสำหรับผู้ใหญ่
วัยรุ่น: “วัยรุ่นบางคนอาจจะคิดว่าเป็นเรื่องตลก เมื่อเดาว่าพ่อแม่กำลังมีอะไรกัน แต่ถ้าเห็นเข้าอย่างจัง อาจจะทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัด และเครียด” ไคลน์กล่าว “วัยรุ่นสามารถยอมรับเรื่องพ่อแม่มีอะไรกันได้ แต่พวกเขาก็ไม่ได้อยากเห็นคุณกำลังมีอะไรกัน ถ้าถามเด็กวัยรุ่นคนไหนก็ได้ ว่าพวกเขาอยากเห็นพ่อแม่ตัวเองกำลังมีอะไรกันหรือเปล่า พนันได้เลยว่าคำตอบคือ ไม่”
การคุยกับลูก เรื่องเพศศึกษา ช่วยให้ลูกเข้าใจเรื่องเพศในทางที่ถูกต้อง และ รู้จักการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย คุณควรมีการสอดแทรกคุณธรรม และ หลักการเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ตามแบบที่คุณอยากให้เป็นไปด้วย นอกจากนี้ ลูกควรจะรู้ถึงผลที่ตามมา จากการมีเพศสัมพันธ์ด้วย เช่น การตั้งท้อง โรคติดต่อจากการมีเพศสัมพันธ์ ตลอดจนถึง ความเสียใจที่เกิดจาก ความรัก และ การมีเพศสัมพันธ์ แต่ พ่อแม่ต้องมี วิธีคุยเรื่องเพศกับลูก อย่างถูกวิธี
จากการศึกษา พบว่า เด็กที่พูดคุยกับผู้ปกครอง เรื่องเพศศึกษา และ การมีเพศสัมพันธ์มีแนวโน้มจะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกช้ากว่าเด็กที่ไม่เคยพูดคุยเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ และ เพศศึกษากับทางบ้านเลย
_________________________________________________________________________________________
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพ และสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ ยังมีไลฟ์สไตล์ และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว
การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้ และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง
เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
credit content : www.westernnewyorker.org
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
10 วิธีทำโรแมนติก กับภรรยาช่วงตั้งครรภ์โดยไม่ต้องอาศัยเซ็กซ์
10 ท่านอนบอกความสัมพันธ์ นอนท่านี้ยังมุ้งมิ้งกันอยู่หรือเปล่า