"เมื่อไหร่จะโตไวเนี่ย!" คุ้น ๆ ไหมคะคำพูดนี้ ... ยกตัวอย่างคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสองขวบและกำลังย่างเข้าสามขวบ คุณเคยพูดประโยคนี้กันหรือเปล่าคะ คาดหวังกันใช่ไหมละคะว่า เมื่อไหร่ลูกของเราจะโต อยากจริงจริ๊ง อยากให้ลูกตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นเด็กวัยสามขวบเลย ... เพราะตอนนี้เหนื่อยเสียเหลือเกินแล้ว ... แน่ใจแล้วเหรอคะ เพราะบางทีการดูแลเด็กวันสามขวบ อาจจะทำให้คุณรู้สึกปั่นปวนมากกว่าเดิม ทำไมน่ะเหรอคะ ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย!
9 พฤติกรรมสุดซ่าส์ของเด็กวัยสามขวบ
1. ไม่เอา! หนูจะทำเอง
ใช่เลย ... เจ้าหนูน้อย สามขวบแล้วนี่ เริ่มอยากที่จะทำอะไรเองแล้วใช่ไหมละ รู้นะว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังแอบยิ้มและนึกอยู่ในใจว่า "ดีจังเลย ฉันจะสบายแล้ว ลูกช่วยตัวเองได้" ใช่ค่ะ ... คุณกำลังจะสบาย แต่ความสบายนั้น อาจจะไม่ได้สวยงามเหมือนกับความฝันก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงกันค่ะ
คุณคิดเหรอคะว่าเด็กวัยสามขวบจะสามารถรินน้ำหรือนมทานเองได้โดยที่ไม่หกเลยแม้แต่หยดเดียว และคุณคิดเหรอคะว่า เด็กวัยสามขวบจะสามารถเลือกเสื้อผ้าได้โดยที่ไม่กระจัดกระจาย พอจะนึกภาพออกกันแล้วใช่ไหมละคะว่า ทำไมถึงบอกว่าให้กลับมาอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริง
2. สงครามก่อนนอน
ถ้าหากคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า การเอาเด็กเบบี๋นอนระหว่างวันนั้นช่างเหนื่อยแสนเหนื่อย ... และวาดหวังไว้ว่าจะมีเวลาส่วนตัวและพักผ่อนมากขึ้นเมื่อลูกโตขึ้น ... ตื่นเถอะค่ะ เพราะแท้จริงแล้ว เมื่อลูกโตขึ้น การเอาเขานอนกลางวันนี่แหละค่ะ ที่เหนื่อยยิ่งกว่าตอนเป็นเบบี๋อีก ทำไมน่ะเหรอคะ อย่างมากเบบี๋เราก็ให้ดื่มนม ตีก้น หรือไม่ก็ร้องเพลงกล่อม แต่กับเด็กวัยสามขวบ มันใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว เพราะฉะนั้น เตรียมหาวิธีรับมือกันให้ดีค่ะ
3. แฟชั่นนิสต้าตัวแม่
อย่าแปลกใจไป ถ้าคุณจะเห็นเด็กวัยนี้มีสไตล์การแต่งตัวเป็นของตัวเอง พวกเขาจะสามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้อย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าอยากรู้ว่าจะเป็นอย่างไร ลองปล่อยให้ลูก ๆ ได้แต่งตัวเองสิคะ คุณอาจจะได้เห็นเสื้อสีเขียวแปร๊ด ใส่คู่กับกางเกงสีส้มปรี๊ดก็เป็นได้ ที่สำคัญ อย่าลืมเอากล้องหรือมือถือไว้ใกล้ ๆ ตัวนะคะ จะได้ไม่พลาดการเก็บรูปถ่ายนี้ไว้เป็นที่ระลึกให้พวกเขาได้ดูตอนโต
4. กลัวทุกอย่างที่ขวางหน้า
ก็นึกว่าโตแล้วจะเก่ง ที่ไหนได้ กลัวทุกอย่างที่ขวางหน้าจริง ๆ ผิดกับตอนสมัยเป็นเบบี๋ ที่แทบจะไม่กลัวอะไรเลย แต่วัยนี้สิกลัวแม้กระทั่งการอาบน้ำคนเดียว กลัวสัตว์ หรือกลัวอะไรก็แล้วแต่ที่ตัวเองไม่เคยเห็นหรือได้สัมผัสมาก่อน แม้แต่การกลัวบางสิ่งบางอย่างที่เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรก ... สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ นั่นก็เป็นเพราะว่าเด็กวันสามขวบเริ่มที่จะมีการจินตนาการเป็นของตัวเองแล้วนั่นเอง
5. เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง
อย่าแปลกใจ ถ้าคุณจะเห็นท่าทางหรือได้ยินคำพูดแปลก ๆ ออกมาจากปากของลูกตัวเอง ใช่ค่ะ เพราะพวกเขาเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเองแล้ว รู้แล้วว่าตัวเองคือใคร ชอบและไม่ชอบอะไร ดังนั้น เวลาที่เราบอกให้เขาทำอะไร เขาก็จะไม่ทำ หรือถ้าหากเขาสงสัยอะไรก็จะถามคำถามชนิดที่เรียกได้ว่า คนที่ได้ยินต้องอดอึ้งและขำเสียไม่ได้
คลิกเพื่ออ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
6. คอมเมนเตเตอร์ตัวจิ๋ว
อย่างที่บอก พอเริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง พวกเขาก็เริ่มที่จะบ่นหรือวิจารณ์ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาหาร หรือคนรอบข้าง เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น อาหารอันนี้ไม่อร่อยเลย เค็มไป หรือ คุณแม่ตัวหอมจังเลย แต่คุณพ่อตัวเหม็น อะไรเหล่านี้เป็นต้น รับประกันได้เลยค่ะว่า คอมเมนเตเตอร์รายนี้ มีคำพูดแบบเจ็บ ๆ แสบ ๆ คัน ๆ ไว้ให้พวกเราอย่างแน่นอน
7. มีลูกล่อลูกชน
ใครจะไปเชื่อว่าเด็กวันสามขวบจะแฝงไปด้วยความกะล่อนแบบเจ็บแสบได้ถึงเพียงนี้ เมื่อเราบอกให้เลือกอะไรสักอย่าง เขาจะไม่เลือก แต่เขาจะเฉไฉไปอย่างอื่น ดังนั้นเราควรดักไว้ก่อนค่ะ อย่าให้พวกเขาได้มีโอกาสต่อรอง ยกตัวอย่างเช่น การให้ตัวเลือกสองถึงสามอย่าง โดยตัวเลือกนั้นคือคำตอบที่เราได้เตรียมไว้อยู่แล้ว ลูกจะได้รู้สึกว่าอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้โดนบังคับ แถมยังได้เลือกในสิ่งที่เขาต้องการอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น การไปอาบน้ำ ลูกอาจจะกำลังเล่นเกมส์หรือทำอะไรอยู่ แต่เมื่อถึงเวลาที่จะต้องอาบน้ำ เราก็จะบอกลูกว่า "ลูกจ๋า ไปอาบน้ำได้แล้ว" ลูกก็อาจจะตอบเราว่า "เดี๋ยวก่อน ขอเล่นก่อน" คุณอาจจะบอกให้ลูกเลือกอะไรระหว่างเล่นก่อนแต่ไปอาบน้ำทีหลังแต่แน่นอนลูกจะต้องรู้สึกไม่สบายตัว หรืออาบน้ำก่อนแล้วค่อยเล่นทีหลัง อะไรแบบนี้เป็นต้น
8. ดราม่าสุด ๆ
อย่าคิดนะคะว่า เด็ก ๆ จะแสดงละครไม่เป็น วัยนี้นี่แหละค่ะ รับประกันความดราม่าแบบถึงใจสุด ๆ เลยยกตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจจะไปเดินชนอะไรเข้า แล้วก็ร้องเสียงดังให้คุณได้ยินพร้อมกับคำพูดที่ว่า "โอ้ย...แขนหักแล้ว โอ้ย...เจ็บจังเลย ต้องแขนด้วนแน่ ๆ เลย" หรือ เมื่อพวกเขาอยากทานไอศครีมแต่คุณไม่ให้ทาน คุณก็อาจจะได้ยินคำพูดประมาณว่า "หนูอยากทานไอศครีม เพราะไอศครีมทำให้หนูมีความสุข ถ้าไม่ได้ทานตอนนี้หนูคงจะแย่แน่ ๆ" เป็นต้น
9. พูดแบบนันสต๊อป!
เด็กวัยนี้เริ่มพูดประโยคยาว ๆ ได้แล้ว ดังนั้น ไม่แปลกที่พวกเขามักจะนำเรื่องนู้นเรื่องนี้ที่เขาเจอมาเล่าให้คุณฟัง ทำใจเถอะค่ะ เพราะคุณจะได้ฟังเรื่องนั้นนานกว่า 10 นาทีแน่ ๆ แล้วอีกสักพัก เขาก็จะเอาเรื่องเก่ามาเล่าให้คุณฟังอีก ซ้ำไปซ้ำมาแบบที่คนเล่าไม่รู้สึกเบื่อเลย แต่คนฟังนี่สิจะแย่เอา
ครอบครัวไหนกำลังจะมีลูกใกล้สามขวบบ้างคะ ถ้ามีเตรียมรับมือไว้ได้เลยนะคะ เพราะคุณต้องมีโอกาสได้เจอเรื่องพวกนี้แน่ ๆ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่กำลังอยู่ในช่วงนี้หรือผ่านพ้นช่วงนี้ไปแล้ว มีเหตุการณ์อะไรบ้างคะ ที่ลูกวัยนี้ทำให้คุณถึงกับอึ้งชนิดที่เรียกได้ว่าขำกันทั้งน้ำตาบ้าง
ที่มา: https://sg.theasianparent.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
จูงลูกวัย 3 ขวบเข้าอนุบาล เตรียมอย่างไรให้พร้อม
พัฒนาการเด็กวัย 3 ขวบถึง 3 ขวบครึ่ง และเทคนิคส่งเสริมพัฒนาการตามวัย